โตเกียวคุมเข้ม! จักรยานละเมิดกฎจราจร พบอุบัติเหตุตายสูง

เกียวโดนิวส์ รายงาน (4 พ.ย.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดกฎจราจรของผู้ขี่จักรยานในเมืองหลวงโตเกียวที่เพิ่มขึ้น กรมตำรวจนครบาลได้เสนอบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับการละเมิดกฎจราจร

ภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของตำรวจเมื่อปลายเดือนตุลาคม แทนการเตือนผู้ขับขี่เมื่อละเมิดกฎ ต่อไปนี้ตำรวจจะออกใบสั่งจราจรทันที ในข้อหาฝ่าสัญญาณไฟจราจร ไม่ยอมจอดจักรยานชั่วคราว ณ จุดที่กำหนดไว้ รวมทั้งการขี่อย่างรวดเร็วบนทางเท้า และขี่โดยสวมหูฟัง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุบัติเหตุจราจรที่เกี่ยวข้องกับจักรยานในเมืองหลวงเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลของตำรวจเผยว่า มีสัดส่วน 46.6% ของอุบัติเหตุยานพาหนะในปีนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน

ยอดรวมรายปีแสดงให้เห็นว่า อุบัติเหตุจราจรที่เกี่ยวข้องกับจักรยานมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 32.1% ในปี 2559 เป็น 43.6% ในปี 2564

ในปี 2564 ทั่วประเทศรายงานกรณีการขี่จักรยานผิดกฎหมาย 21,906 คดี และผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางจักรยาน 359 ราย ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตมากกว่า 75% นั้น มีการละเมิดกฎ รวมถึงการฝ่าสัญญาณไฟจราจร

การเพิ่มขึ้นของอุบัติเหตุนี้ ยังสัมพันธ์กับการใช้จักรยานที่เพิ่มขึ้นโดยทั่วไป ส่วนหนึ่งมาจากอุตสาหกรรมจัดส่งอาหาร และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส แม้แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติของญี่ปุ่นก็ยังนิยมขี่จักรยานไปสภา

แต่ความพลุกพล่านของจักรยานก็เป็นข้อกังวลเช่นกัน โดยการสำรวจของสถาบันส่งเสริมจักรยานแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Bicycle Promotion Institute) พบว่ามีคนเดินถนน 71.8% และผู้ขับขี่รถยนต์ 88.1% รู้สึกรำคาญหรือตกอยู่ในอันตรายจากนักปั่นจักรยาน

ภายใต้การปราบปรามที่ออกแบบมาเพื่อลดการละเมิดที่อันตรายที่สุด บุคคลใดที่ได้รับใบสั่ง 2 ครั้งภายใน 3 ปีต้องเข้าร่วมหลักสูตรการปั่นจักรยานที่เหมาะสมกับตำรวจเป็นเวลา 3 ชั่วโมง และจ่ายค่าอบรม 6,000 เยน หากไม่ดำเนินการดังกล่าว จะถูกปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 เยน

ผู้ฝ่าฝืนยังอาจถูกลงโทษทางอาญา แม้ว่าอัตราการดำเนินคดีที่แท้จริงจากใบสั่งจะอยู่ที่ประมาณ 1% ถึง 2% เท่านั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมพื้นที่และถนนที่มีปัญหา 1,887 แห่ง สำหรับตำรวจแต่ละจังหวัด เพื่อกำชับมาตรการอื่นๆ ที่ดำเนินการไปแล้วในปีนี้ รวมถึงความคิดริเริ่มอื่น ๆ

ยอดขายจักรยานยนต์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากยอดขายประจำปีประมาณ 250,000 คันในปี 2550 เป็น 790,000 คันภายในปี 2564 เหล่านี้มาพร้อมกับอันตรายใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัววัยหนุ่มสาว

เฉพาะในจังหวัดโอซากาแห่งเดียว ระหว่างเดือนมกราคมถึงปลายเดือนมิถุนายน พบว่ามีเด็กวัยก่อนเรียนถูกจับในอุบัติเหตุทางจักรยานแล้ว  48 คน

ในเดือนเมษายนที่เมืองฮิกาชิ โอซากา สตรีผู้เป็นแม่ขี่จักรยานคันหนึ่งซึ่งมีที่นั่งให้ลูก 2 คนของเธอ ชนกับรถบรรทุก ทำให้ลูกชายวัย 3 ขวบของเธอซึ่งนั่งอยู่เบาะหน้าเสียชีวิต

ทั้งนี้ บริษัทภาคเอกชนกำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับอุบัติเหตุจักรยาน หนึ่งในนั้นคือ Panasonic Cycle Technology ซึ่งเป็นผู้ผลิตจักรยานรายใหญ่ในโอซากา เริ่มจัดสัมมนาเกี่ยวกับการใช้งานที่เหมาะสมของจักรยานยนต์ซึ่งมีเด็กเล็กโดยสารด้วย รวมถึงมาตรการต่างๆ เช่น การคาดเข็มขัดนิรภัย