xs
xsm
sm
md
lg

อาชีพในฝัน: หนุ่มญี่ปุ่นนั่งเฉยๆ ก็ได้เรื่องได้ราว หาเลี้ยงชีพจากงาน "ไม่ทำอะไร"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โตเกียว, 6 ก.ย. (รอยเตอร์) - โชจิ โมริโมโตะ มีสิ่งที่บางคนอาจมองว่าเป็นงานในฝัน: หลังลาออกจากสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ซึ่งเขามักถูกตำหนิว่า "ไม่ทำอะไรเลย" เขาก็เอาจุดเด่นนี้มาเป็นงานเสียเลย

“ผมเริ่มสงสัยว่าจะเป็นไปได้ไหม ถ้าผมใช้ความสามารถในการ 'ไม่ทำอะไร' แปลงเป็นบริการแก่ลูกค้า” โมริโมโตะ กล่าว

หนุ่มโตเกียววัย 38 ปีรายนี้เรียกเก็บเงินค่าบริการ 10,000 เยน ต่อการมานั่งเฉยๆ อยู่เป็นเพื่อนลูกค้า ไม่ต้องทำอะไรมากกว่านั้น

“โดยพื้นฐานแล้ว ผมให้บริการเช่าตัวเอง งานของผมคือการไปพบลูกค้าที่ต้องการให้ผมอยู่ด้วย และแค่นั้นแล่ะ ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ” โมริโมโตะบอกกับรอยเตอร์ และเสริมว่าเขาได้ให้บริการลูกค้าไปแล้ว 4,000 ครั้งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

ด้วยรูปร่างที่เพรียวบางและหน้าตาธรรมดา ตอนนี้ โมริโมโตะ มีผู้ติดตามเกือบหนึ่งในสี่ของล้านคนบนทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มลูกค้าส่วนใหญ่ของเขา ประมาณหนึ่งในสี่เป็นลูกค้าประจำ รวมถึงลูกค้าที่เคยจ้างเขามาแล้ว 270 ครั้ง

งานของเขา เช่น ไปที่สวนสาธารณะกับคนที่ต้องการเล่นกระดานหก เขายังยิ้มและโบกมือผ่านหน้าต่างรถไฟส่งลูกค้าที่เดินทาง

อย่างไรก็ตาม การให้บริการแบบนี้ก็มีเงื่อนไข ไม่ได้หมายความว่าโมริโมโตะจะรับลูกค้าทุกอย่าง เช่น เขาปฏิเสธที่จะย้ายตู้เย็น หรือร่วมเดินทางไปกัมพูชา และไม่รับคำขอใดๆ ที่มีลักษณะทางเพศ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โมริโมโตะ รับงานนั่งเป็นเพื่อนกับนักวิเคราะห์ข้อมูลวัย 27 ปี พูดคุยเรื่องเบาๆ เกี่ยวกับชาและเค้ก

ชิดะ ลูกค้าคนนี้ต้องการสวมชุดอินเดียในที่สาธารณะ แต่กังวลว่าอาจทำให้เพื่อนๆ อับอายขายหน้าได้ ดังนั้นเธอจึงจ้างโมริโมโตะเพื่อเป็นเพื่อน โดยมีค่าบริการ 10,000 เยน ต่อการจองเพื่อมากับลูกค้าและอยู่เป็นเพื่อนในโตเกียว

ชิดะ ลูกค้าคนหนึ่งกล่าวว่า “ถ้ามากับเพื่อนของฉัน ฉันรู้สึกว่าฉันต้องทำให้เพื่อนสนุกหรืออยากมา แต่กับการเช่า (โมริโมโตะ) ฉันไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น” เธอกล่าว

ก่อนที่โมริโมโตะจะพบแนวทางไขอาชีพอย่างแท้จริง เขาเคยทำงานที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งและมักถูกตำหนิว่า "ไม่ทำอะไรเลย"

“ผมเริ่มสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมใช้ความสามารถในการ 'ไม่ทำอะไร' เป็นบริการแก่ลูกค้า” เขากล่าว

ธุรกิจมิตรภาพ (ที่ไม่ต้องทำอะไร) กลายเป็นแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียวของโมริโมโตะ ซึ่งเขาหาเลี้ยงภรรยาและลูกของเขา แม้ว่าเขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าทำเงินได้เท่าไหร่ แต่เขาบอกว่า ช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด เขามีลูกค้าหนึ่ง หรือสองคนต่อวัน ทุกวัน

โมริโมโตะ ตั้งคำถามกับสังคมที่ให้ความสำคัญกับผลิตภาพและเยาะเย้ยความไร้ประโยชน์ หรือคนที่ไม่ทำอะไร

“ผู้คนไม่จำเป็นต้องจำกัดนิยามความมีประโยชน์ในความหมายใด ความหมายหนึ่ง เพราะ 'การไม่ทำอะไรเลย' ของผมก็มีค่า มันมีประโยชน์ (สำหรับคนอื่นๆ)” เขากล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น