เกียวโดนิวส์ (21 ส.ค.) ญี่ปุ่นประมาณการว่า จะต้องใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลราว 1,000 ลูก นอกเหนือจากคลังขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธ เพื่อเป็นการป้องกันกำลังทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน แหล่งข่าวของรัฐบาลระบุในวันอาทิตย์
ด้วยความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค กระทรวงกลาโหมถูกกำหนดให้เร่งดำเนินการภายในปีงบประมาณ 2024 ขยายพลานุภาพขีปนาวุธนำวิถีของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น ที่จะรวมอยู่ในคำของบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2023
กระทรวงฯ กำลังมองหางบประมาณเป็นประวัติการณ์มากกว่า 5.5 ล้านล้านเยน สำหรับปีงบประมาณหน้า โดยจำนวนเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก หลังจากสรุปค่าใช้จ่ายสำหรับยุทโธปกรณ์บางอย่างที่ยังไม่ได้ระบุราคาประมาณ 100 รายการ แหล่งข่าวกล่าว
ในการประมาณการ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ศึกษาจำนวนขีปนาวุธและงบประมาณที่จำเป็น ซึ่งจำเป็นต่อการตอบโต้ขีปนาวุธของจีน โดยอิงตามสมมติฐานที่ว่าปักกิ่งมีขีปนาวุธจำนวนมากที่สามารถใช้ในการโจมตีญี่ปุ่นได้
กรอบการทำงานของขีปนาวุธและยุทโธปกรณ์บางอย่างที่ยังไม่ได้ระบุราคา จะมีการหารือระหว่างการตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย 3 ฉบับ รวมถึงยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีกำหนดจะปรับปรุงภายในสิ้นปี 2022
คำของบประมาณของกระทรวงกลาโหมสำหรับปีงบประมาณ 2023 ซึ่งกำหนดวงเงินงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5.49 ล้านล้านเยน ในปีงบประมาณ 2021 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่จะเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศ
“ในฐานะประเทศที่เป็นเกาะ ญี่ปุ่นจะถูกโจมตีจากระยะไกล ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีขีปนาวุธจำนวนหนึ่งเพื่อตอบโต้” อิทสึโนริ โอโนเดระ หัวหน้าคณะกรรมการวิจัยความมั่นคงแห่งชาติ ของพรรคเสรีประชาธิปไตย กล่าวในรายการฟูจิทีวีเมื่อวันอาทิตย์
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนเริ่มกลับมาตึงเครียดอีก หลังจากการเยือนของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ในเดือนนี้ โดยที่จีนได้ดำเนินการซ้อมรบทางทหารทั่วไต้หวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในระหว่างการฝึกซ้อม ขีปนาวุธหลายลูกตกลงสู่น่านน้ำในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ได้ให้คำมั่นในวันครบรอบ 77 ปี การยอมจำนนของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งจัดในสนามกีฬานิปปอน บูโดกัน กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า "ประเทศญี่ปุ่นจะไม่ทำสงครามอีก"
“เราจะไม่ทำสงครามอันน่าสะพรึงกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมจะยังคงทำตามคำปฏิญาณอันแน่วแน่นี้” คิชิดะกล่าวในการพิธีรำลึกในโตเกียว ซึ่งมีสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ แห่งญี่ปุ่น และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ เสด็จเข้าร่วมในพิธีด้วย
“ในโลกที่ความขัดแย้งยังคงไม่ลดละ ญี่ปุ่นขอเป็นผู้นำเชิงรุกในด้านสันติภาพ” เขากล่าว