โตเกียว, 15 ส.ค. (รอยเตอร์) - นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ให้คำมั่นในวันครบรอบ 77 ปี การยอมจำนนของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งจัดในสนามกีฬานิปปอน บูโดกัน กรุงโตเกียว เมื่อวันจันทร์ว่า ประเทศญี่ปุ่นจะไม่ทำสงครามอีก ขณะที่สมาชิกคณะรัฐมนตรีของเขาได้เข้าคารวะศาลเจ้าคารวะผู้เสียชีวิตในสงคราม ก่อความเคืองแค้นเกาหลีใต้และจีน
ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนเริ่มกลับมาตึงเครียดอีก หลังจากการเยือนของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ #แนนซี เพโลซี ในเดือนนี้ โดยที่จีนได้ดำเนินการซ้อมรบทางทหารทั่วไต้หวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในระหว่างการฝึกซ้อม ขีปนาวุธหลายลูกตกลงสู่น่านน้ำในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
“เราจะไม่ทำสงครามอันน่าสะพรึงกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมจะยังคงทำตามคำปฏิญาณอันแน่วแน่นี้” คิชิดะกล่าวในการพิธีรำลึกที่ในโตเกียว ซึ่งมีสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ แห่งญี่ปุ่น และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ เสด็จเข้าร่วมในพิธีด้วย
“ในโลกที่ความขัดแย้งยังคงไม่ลดละ ญี่ปุ่นขอเป็นผู้นำเชิงรุกในด้านสันติภาพ” เขากล่าว
วันครบรอบการยอมจำนนของญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่รัฐบาลยังมีการเยือนคารวะที่ศาลเจ้ายาสุกุนิ ของโตเกียวซึ่งเกาหลีใต้และจีนมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเลวร้ายในอดีตของญี่ปุ่น
ศาลเจ้ายาสุกุนิ เป็นสถานที่สถิตดวงวิญญาณของเหล่าผู้นำในช่วงสงครามของญี่ปุ่น 14 คนซึ่งถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากรสงคราม เป็นศาลเจ้าที่อุทิศให้เกียรติอาชญากรสงครามและผู้เสียชีวิตจากการพลีชีพในสงคราม
ที่ผ่านมา การเยือนของเหล่าผู้นำญี่ปุ่นที่ศาลเจ้า ก่อความโกรธเคืองแก่เพื่อนบ้านที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากน้ำมือของญี่ปุ่น ทั้งก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
คิชิดะ ซึ่งประนีประนอม ยืดหยุ่น อะลุ่มอล่วย ต้องพยายามรักษาสมดุลใน #พรรคเสรีประชาธิปไตย ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุที่จะก่อความคับแค้นให้เพื่อนบ้าน ในขณะที่ก็ต้องรักษาแรงสนับสนุนจากสมาชิกฝ่ายขวาของพรรค - โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คิชิดะส่งเครื่องบูชาไปที่ศาลเจ้าโดยไม่ได้ไปคารวะ
คิชิดะ กล่าวอ้อมๆ ถึงการกระทำของญี่ปุ่นในช่วงสงคราม ว่า "บทเรียนแห่งประวัติศาสตร์ฝังลึกอยู่ในใจของเรา"
อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้และจีน ได้ประณามการเยี่ยมชมศาลเจ้าแห่งของเหล่าเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของเขา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลงว่า “รัฐบาลเกาหลีกำลังเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบของญี่ปุ่นเผชิญกับประวัติศาสตร์ และแสดงการไตร่ตรองอย่างถ่อมตน และการไตร่ตรองถึงอดีตอย่างแท้จริงผ่านการกระทำ”
หวาง เหวิงปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องไตร่ตรองประวัติศาสตร์ของตนอย่างลึกซึ้ง
“บุคคลสำคัญทางการเมืองของญี่ปุ่นบางคนมักบิดเบือนและยกย่องประวัติศาสตร์การรุกรานในรูปแบบต่างๆ และละเมิดปฏิญญาไคโรและเอกสารทางกฎหมายที่สำคัญอื่นๆ ที่เปิดเผยอย่างชัดเจนสำหรับการส่งคืนไต้หวันกลับคืนจีน” เขากล่าว
ภาพจากสถานีโทรทัศน์ NHK เผยให้เห็นว่าคณะรัฐมนตรีหลายคนได้เข้าคารวะศาลเจ้าตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ซึ่งรวมถึงซานาเอะ ทาคาอิจิ รัฐมนตรีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พร้อมด้วยโคอิจิ ฮากิอุดะ หัวหน้าสภาวิจัยนโยบายของ LDP และพันธมิตรคนสำคัญของอาเบะ
“เป็นเรื่องปกติที่ทุกประเทศจะต้องเคารพผู้ที่สละชีวิตเพื่อประเทศของตน” หัวหน้าเลขาธิการ ฮิโรกาสุ มัตสุโน กล่าวก่อนหน้านี้
“ญี่ปุ่นจะกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน ซึ่งรวมถึงจีนและเกาหลีใต้ต่อไป”
ในปี 2013 อาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีคนสุดท้าย ที่ไปเยือนยาสุคุนิขณะดำรงตำแหน่ง การมาเยือนที่ก่อความไม่พอใจทั้งจีนและเกาหลีใต้ และยังถูกตำหนิจากสหรัฐฯ พันธมิตรที่ใกล้ชิดของตน
สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นกลายเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมานับตั้งแต่สงคราม แต่บาดแผลของความขัดแย้งยังคงอยู่ในเอเชียตะวันออก
ชาวเกาหลีซึ่งกำหนดให้วันที่ญี่ปุ่นยอมจำนน 15 ส.ค. เป็นวันประกาศอิสรภาพแห่งชาติ ไม่พอใจการบุกยึดครองแผ่นดินเกาหลี ในปี 2453-2488 ในขณะที่จีนมีความทรงจำอันขมขื่นเกี่ยวกับการรุกรานและการยึดครองของกองทหารจักรวรรดิในช่วงปี 2474-2488
ผู้คนทุกวัยมารวมตัวกันที่ศาลเจ้าเพื่อสักการะ ด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“ผู้คนจากหลากหลายประเทศอาจพูดอะไรก็ได้ แต่นี่เป็นเรื่องของคนญี่ปุ่นที่จะทำอะไร ไม่ทำอะไร ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง” ยูกิเอะ ทากาฮาชิ พนักงานออฟฟิศวัย 60 ปีกล่าว
“วันนี้เป็นวันบูชา ย้อนรำลึกอดีต ไตร่ตรอง และอธิษฐาน”
ในบรรดาผู้ที่มาคารวะศาลเจ้านั้น ตามปกติแล้วมีหลากหลาย ทั้งกลุ่มนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา ซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ส่งเสียงโห่ร้อง บางคนสวมเครื่องแบบทหารและถือธง ขณะที่กลุ่มอื่นๆ มาเพื่อปล่อยนกพิราบเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ