ญี่ปุ่นกังวลจีนซ้อมรบทับเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ ไบเดน เคยเตือนเยือนไต้หวัน "ไม่ใช่ความคิดที่ดี"

นิวส์วีก (4 ส.ค.) - ญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการซ้อมรบทางทหารที่จัดขึ้นโดยกองทัพจีนใกล้น่านน้ำญี่ปุ่น เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างประเทศยังคงคุกรุ่นอยู่ในระหว่างการเดินทางไปไต้หวันครั้งล่าสุดโดย แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ ซึ่งจะเดินทางไปโตเกียวในช่วงสุดท้ายของการทัวร์เอเชียของเธอ

เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นบอกกับ นิวส์วีก ว่ารัฐบาลญี่ปุ่น "ไม่อยู่ในฐานะ" ที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเดินทางไปไต้หวันของเพโลซีเอง แต่จะให้ความสำคัญกับผลกระทบในภูมิภาคขณะที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนเริ่มซ้อมรบรอบเกาะพิพาท และขยายไปสู่เขตยกเว้นทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

“เรากังวลว่าปักกิ่งจะประกาศกิจกรรมทางทหารหลายอย่าง” เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่ที่จีนประกาศสำหรับการฝึกซ้อมทางทหารรวมถึง EEZ [เขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ] ของญี่ปุ่นด้วย”

รายงานข่าวล่าสุด วันนี้ไต้หวันยกเลิกเที่ยวบินกว่า 40 เที่ยว ก่อนกองทัพจีนเริ่มซ้อมรบปิดล้อมเกาะเที่ยงวันนี้ ทัพฟ้าไต้หวันเผย เครื่องบินรบจีนบินผ่านน่านฟ้าเกาะจินเหมิน เหยียบเส้นพรมแดน ฝ่ายจีนโต้ไม่เคยยอมรับเส้นพรมแดน

เจ้าหน้าที่ยังกล่าวถึงความหวังของโตเกียว ในสันติภาพช่องแคบไต้หวัน

“สันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันมีความสำคัญต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นและภูมิภาค และปัญหารอบๆ ไต้หวันจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างสันติ” เจ้าหน้าที่กล่าว “เราได้แสดงความกังวลของเราต่อจีนแล้ว”

ฮว่าชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ตอบโต้การประท้วงของญี่ปุ่นเกี่ยวกับการซ้อมรบของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งเธอเรียกว่า “จำเป็นและชอบด้วยกฎหมายเพื่อตอบโต้การยั่วยุครั้งใหญ่ของฝ่ายสหรัฐฯ และกองกำลัง 'เอกราชของไต้หวัน' เพื่อยึดมั่นในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน"

เธอกล่าวว่า ทางการจีนได้ออกคำเตือนด้านความปลอดภัยและคำเตือนเกี่ยวกับการเดินเรือก่อนการฝึกซ้อม และปักกิ่งไม่ยอมรับการอ้างสิทธิทางทะเลของโตเกียว เนื่องจากทั้งสองฝ่ายล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงในการจัดทำแผนที่

“เนื่องจากจีนและญี่ปุ่นยังไม่ได้ดำเนินการกำหนดเขตแดนทางทะเลในน่านน้ำที่เกี่ยวข้อง จีนจึงไม่ยอมรับแนวคิดที่เรียกว่า 'เขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น'” ฮว่ากล่าว “ฝ่ายจีนขอเรียกร้องให้ญี่ปุ่นรักษาหลักการจีนเดียวและจิตวิญญาณของเอกสารทางการเมืองทั้ง 4 ฉบับระหว่าง.2 ประเทศ และระมัดระวังในประเด็นไต้หวัน”

ญี่ปุ่นตัดสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวันเพื่อสนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2515 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่วอชิงตันและปักกิ่งลงนามในแถลงการณ์ร่วมชุดแรกจากทั้งหมด 3 ฉบับ ซึ่งท้ายที่สุดแม้วอชิงตันและโตเกียวยังคงมีความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการกับไทเป

จีนและญี่ปุ่นมีข้อพิพาทเรื่องดินแดนของตนเองเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหนือหมู่เกาะพินนาเคิล ที่ญี่ปุ่นรู้จักในชื่อเซนกากุ และจีนในชื่อเตี้ยวหยูว์ ไต้หวันอ้างสิทธิในหมู่เกาะนี้เช่นกัน เรียกพวกเขาว่า เตี้ยวหยูไถ่ หน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นได้รายงานการเข้าพบเรือจีนที่อยู่ใกล้หมู่เกาะพิพาทเป็นประจำ ทำให้เกิดความคับข้องใจทางการทูต

และในขณะที่ญี่ปุ่น เฉกเช่นพันธมิตรสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ เลี่ยงไม่พูดโดยตรงเกี่ยวกับการเดินทางโต้เถียงของเพโลซี ไปไต้หวันเมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นการเดินทางครั้งแรกในลักษณะนี้ ในฐานะโฆษกสภาผู้แทนราษฎรในรอบ 25 ปี แต่ญี่ปุ่นได้เข้าร่วมกับกลุ่ม G7 ซึ่งรวมถึง แคนาดา สหภาพยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ประณามการตอบโต้ทางทหารของจีน
“เรารู้สึกกังวลกับการข่มขู่เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ได้ประกาศโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงและการบีบบังคับทางเศรษฐกิจ ซึ่งเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น” ถ้อยแถลงที่ออกเมื่อวันพุธ ระบุ “ไม่มีเหตุผลที่จะใช้การเยี่ยมเยือนเป็นข้ออ้างสำหรับกิจกรรมทางทหารเชิงรุกในช่องแคบไต้หวัน เป็นเรื่องปกติและเป็นกิจวัตรสำหรับสมาชิกสภานิติบัญญัติจากประเทศของเราที่จะเดินทางไปต่างประเทศ และการตอบโต้ที่เพิ่มขึ้นของจีนมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มความตึงเครียดและทำให้ภูมิภาคไม่มั่นคง”

สมาชิก G7 เรียกร้องให้จีน "ไม่เปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่เพียงฝ่ายเดียวโดยใช้กำลังในภูมิภาคนี้ และแก้ไขความแตกต่างข้ามช่องแคบด้วยวิธีการอย่างสันติ" และแย้งว่า "ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของจีนอย่างใดอย่างหนึ่งตามความเหมาะสม และพื้นฐานสถานะไต้หวันของสมาชิก G7"

“เราขอย้ำถึงความมุ่งมั่นที่มีร่วมกันและแน่วแน่ในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน และสนับสนุนให้ทุกฝ่ายสงบสติอารมณ์ ใช้ความยับยั้งชั่งใจ ดำเนินการด้วยความโปร่งใส และรักษาแนวการสื่อสารที่เปิดกว้างเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด” ถ้อยแถลงกล่าวเสริม

หลังจากออกจากไต้หวันแล้ว เพโลซีก็เดินทางมาถึงเกาหลีใต้ในวันพุธ

“ในฐานะประเทศในภูมิภาค เราหวังว่าสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันจะดำเนินต่อไป และความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบจะพัฒนาอย่างสันติผ่านการเจรจาและความร่วมมือ” เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวกับนิวส์วีก

ด้านยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ปฏิเสธที่จะยกเลิกการพักร้อนเพื่อพบกับแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรส สหรัฐอเมริกา หลายฝ่ายเชื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เพื่อนบ้านจีนขุ่นเคือง หลังจากการเยือนไต้หวันของเธอทำให้มีการซ้อมรบทางทหาร และคำสัญญาที่ปักกิ่งจะเอาคืนสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งไม่ได้รับรองการเดินทางของเพโลซีในไต้หวันต่อสาธารณชน และกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า กองทัพเชื่อว่า "ไม่ใช่ความคิดที่ดี" ไปเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม ผู้นำสหรัฐฯ ใช้โอกาสนี้เพื่อเสริมกำลังพันธมิตรของสหรัฐฯ กับทั้ง 2 ประเทศ และแสดงกรอบการทำงาน "อินโด-แปซิฟิก" ของฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มองอย่างกว้างขวางว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบโต้อิทธิพลของจีนในภูมิภาคนี้