เจแปนทูเดย์ รายงาน (11 ก.ค.) พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) พรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลของญี่ปุ่น รวมกับพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงเมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ค.) ช่วยให้ยังคงรักษาเสียงข้างมากสองในสามที่จำเป็นในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อันเป็นเป้าหมายที่อดีตผู้นำ ชินโซ อาเบะ ยังทำไม่สำเร็จในวาระของตน
รายงานข่าวกล่าวว่า แม้ว่าประเทศจะประสบปัญหาราคาสูงขึ้นและภัยคุกคามความมั่นคงที่เกิดจากสงครามของรัสเซียในยูเครน พรรคเสรีประชาธิปไตยของนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ยังคงคว้า 63 ที่นั่ง หรือมากกว่าครึ่งจาก 125 ที่นั่ง แสดงถึงความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อรัฐบาล 9 เดือนของเขา
ผลการเลือกตั้งนี้จะทำให้นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่มาจากพรรคแอลดีพีได้บริหารประเทศต่อไป จนกว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้เขาสามารถผลักดันนโยบายระยะยาวหลายด้าน รวมถึงประเด็นความมั่นคงของชาติและนโยบายเศรษฐกิจใหม่ และอาจจะบรรลุเป้าหมายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สหรัฐอเมริการ่างให้ใช้มาตลอดตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลก
พรรคแอลดีพี มีคะแนนดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 ตรงข้ามกับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ได้เพียง 17 ที่นั่ง
ที่สำนักงานใหญ่ของแอลดีพี ในกรุงโตเกียวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คิชิดะ และผู้บริหารระดับสูงของพรรคได้ร่วมสวดมนต์เงียบๆ ให้อาเบะ นายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น
“การเลือกตั้งซึ่งเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย ถูกท้าทายด้วยความรุนแรง (การยิงอาเบะ) และมีความหมายใหญ่หลวงว่าผมจะทำงานอย่างหนักต่อไปเพื่อปกป้องประชาธิปไตย” คิชิดะ กล่าว
นอกจากนี้ คิชิดะยังให้คำมั่นว่าจะผลักดันแผนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป โดยกล่าวว่า "เราจะให้การอภิปรายในรัฐสภาเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไป เพื่อให้สามารถรวบรวมข้อเสนอการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมได้"
ข้อเสนอการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของพรรคแอลพีพี รวมถึงการแก้ไขมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่น เป็นบทในรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่นที่ห้ามทำสงคราม (พฤติการณ์แห่งสงครามโดยรัฐ) จะไม่มีการธำรงกองทัพที่มีศักย์สงคราม แม้ญี่ปุ่นยังธำรงกองทัพโดยพฤตินัย คือ กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น
มาตรา 9 นี้เป็นประเด็นอ่อนไหวสำหรับเกาหลีใต้และจีน ซึ่งทั้ง 2 ข้อได้รับผลกระทบจากการทหารของญี่ปุ่นในช่วงสงคราม
พรรครัฐบาลมีเป้าหมายที่จะยกเลิกรัฐธรรมนูญข้อนี้ที่จำกัดกองกำลังป้องกันตนเอง
ด้านเคนตะ อิซูมิ ผู้นำพรรคประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่น (CDPJ) ยอมรับความพ่ายแพ้ โดยกล่าวว่า "ผมถือว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ต้องการเปลี่ยนจากพรรคแอลดีพี มามอบความไว้วางใจให้เราบริหารรัฐบาล"
อิซึมิกล่าวในงานแถลงข่าวซึ่งเริ่มในชั่วโมงดึกของวันอาทิตย์ว่า ผู้บริหารพรรคต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ แต่เขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค
แม้พรรคนวัตกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่นจะได้ที่นั่งเช่นกัน แต่อิชิโร มัตสึอิ หัวหน้าพรรคมองว่าเป็นความพ่ายแพ้ โดยกล่าวยกให้พรรคแอลดีพี ได้คะแนน "ชัยชนะอย่างท่วมท้น"
คิชิดะเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยให้คำมั่นว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19
ผลชัยชนะการเลือกตั้งนี้จะช่วยให้เขาสามารถดำเนินการตามแรงผลักดันในการสร้าง "ทุนนิยมใหม่" กระจายความมั่งคั่ง โดยคาดว่าจะไม่มีการเลือกตั้งระดับชาติจนถึงปี 2568 เว้นแต่คิชิดะจะยุบสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นห้องล่างที่มีอำนาจมากกว่า
การสังหารอาเบะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและบุคคลสำคัญของพรรคแอลดีพี คาดว่าจะส่งแรงคลื่นในโลกการเมืองของญี่ปุ่น โดยแอลดีพี สูญเสียผู้สนับสนุนการปฏิรูปรัฐธรรมนูญอย่างแข็งขันที่สุดคนหนึ่ง และผู้สนับสนุนด้านการป้องกันประเทศและการใช้จ่ายด้านการคลังที่มากขึ้นเพื่อยกระดับสถานะโลกของประเทศ
ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นอีกจุดสำคัญของการเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ 52.05เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นจำนวนผู้ใช้บริการที่ต่ำที่สุดเป็นอันดับสองที่ 48.8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2562 เพียง 3.2 จุด
การเสียชีวิตของอาเบะ ระหว่างยืนหาเสียงทำให้เกิดความสนใจอย่างมากต่อการเลือกตั้งในรอบ 3 ปี โดยให้การเมืองเป็นประเด็นสำคัญสำหรับประชาชนที่ลงคะแนนเสียง ในขณะที่หลีกเลี่ยงความสนใจจากประเด็นสำคัญ เช่น แรงกดดันด้านค่าครองชีพ
ในวันอาทิตย์ ผู้คนจำนวนมากเดินทางไปสักการะที่พื้นที่ในเมืองนารา ทางตะวันตกใกล้กับที่ที่อาเบะถูกลอบสังหาร โดยมีผู้ร่วมไว้อาลัยต่อแถวเพื่อวางดอกไม้
“นายอาเบะเป็นนักการเมืองที่ทำงานอย่างหนักเพื่อญี่ปุ่น น่าเสียดาย” อากิฮิโระ โยริโมโตะ วัย 43 ปี ชาวโอซากาที่เดินทางมาไว้อาลัย กล่าว