ชาวญี่ปุ่นเผชิญความปั่นป่วน หลังจากเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่สัญญาณล่มนานกว่า 2 วัน ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 40 ล้านคน
KDDI ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์รายหลักของญี่ปุ่น ระบุว่า บริการการสื่อสารเกือบทั้งหมดทั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์เสียงกลับมาใช้งานได้แล้วในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม หลังจากเกิดเหตุขัดข้องรุนแรงกว่า 2 วัน
เหตุขัดข้องครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม เป็นเวลานานกว่า 62 ชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคน รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องทั้งแอปพลิเคชันต่างๆ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบบแผนที่นำทาง ไปจนถึงระบบฉุกเฉินของโรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัยต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน
หนุ่มญี่ปุ่นวัย 34 ซึ่งเดินทางมาทำธุระต่างเมืองได้รับข้อความให้ “โทร.กลับด่วน” แต่เขาไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้เพราะสัญญาณล่ม เขาต้องวุ่นวายเพื่อหาโทรศัพท์สาธารณะอยู่นานจึงจะติดต่อธุระได้ เขาบอกว่าจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ใช้โทรศัพท์สาธารณะคือเมื่อไหร่
นักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งนี่นัดหมายกันที่ย่านชิบุยะ ใจกลางกรุงโตเกียว พบว่าไม่สามารถติดต่อกันผ่านแอปไลน์ได้ และเมื่อหาโทรศัพท์สาธารณะได้แล้ว พบว่าไม่ได้บันทึกเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนเอาไว้ เพราะวัยรุ่นอย่างพวกเขาติดต่อกันผ่านแอปเท่านั้น
ผู้ใช้งานเครือข่าย KDDI ยังพบกับความยุ่งยากเมื่อไม่สามารถใช้แผนที่นำทาง และชำระเงินผ่านแอปไม่ได้
ระบบสื่อสารเกี่ยวพันถึงชีวิต
เจ้าหน้าที่ของคลินิกอิโต โอจิ คามิยะ ในกรุงโตเกียว เผชิญอุปสรรคในการส่งตัวผู้ป่วยโรคหัวใจรายหนึ่งไปยังโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อโรงพยาบาลถึง 5 แห่ง ทั้งหมดปฏิเสธรับตัวผู้ป่วย โดยให้เหตุผลว่าติดต่อแพทย์ไม่ได้ และไม่แน่ใจว่าจะทำการผ่าตัดได้
ผู้อำนวยการคลินิกบอกว่า “นี่เป็นเรื่องความเป็นความตาย” และเรียกร้องให้บริษัทเครือข่ายการสื่อสารหามาตรการป้องกัน
สำนักงานสาธารณสุขต่างๆ ยังพบความยากลำบากในการติดตามอาการของผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน เมื่อผู้ป่วยที่ใช้โทรศัพท์ของ KDDI ไม่สามารถเชื่อมต่อระบบติดตามสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขได้
สถานพยาบาลหลายแห่งต้องระดมเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเป็นการด่วนในวันที่ 2 ก.ค. เพื่อติดต่อกับผู้ป่วยด้วยการส่งข้อความ โทรศัพท์บ้าน หรือโทรศัพท์เครือข่ายอื่น เพราะการติดตามไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ชายชาวญี่ปุ่น 2 รายที่กำลังปีนเขาอยู่ที่ฮอกไกโด ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินเพราะหลงทาง แต่คนหนึ่งใช้โทรศัพท์เครือข่าย KDDI ที่สัญญาณล่ม ส่วนอีกคนหนึ่งโทรศัพท์แบตเตอรี่หมด โชคดีที่พวกเขายังสามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนผ่านแอปพลิเคชันได้ และเพื่อนได้ติดต่อกับตำรวจให้แทน
ชายวัย 62 ปีอีกคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุขาหักขณะปีนเขาที่จังหวัดชิงะ เขาและภรรยาพยายามโทร.หาหน่วยฉุกเฉิน แต่ทั้งคู่ใช้เครือข่าย KDDI โชคดีที่ได้พบกับคนที่ผ่านทางมา ช่วยโทรศัพท์แจ้งหน่วยฉุกเฉินให้นำเฮลิคอปเตอร์มาช่วยเหลือได้
เหตุครั้งนี้ทำให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งตระหนักว่า อาจต้องให้คนในครอบครัวใช้เครือข่ายสื่อสารต่างบริษัทกัน เพื่อไม่ให้การติดต่อถูกตัดขาดทั้งหมดยามเกิดพิบัติ หรือปัญหาเรื่องสัญญาณ
หอบสังขารไปหน่วยกู้ภัย
ในช่วงที่สัญญาณการสื่อสารล่มลง หน่วยกู้ภัยและดับเพลิงได้แนะนำให้ประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินใช้โทรศัพท์บ้านหรือโทรศัพท์เครือข่ายอื่น แต่ประชาชนจำนวนมากไม่มีโทรศัพท์บ้านแล้ว
ชายคนหนึ่งหอบสังขารไปยังหน่วยดับเพลิงใกล้บ้าน เขาบอกว่ารู้สึกไม่สบาย และพยายามเรียกรถพยาบาล แต่ติดต่อไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายกรณีที่ประชาชนต้องยืมโทรศัพท์ของเพื่อนบ้าน หรือใช้วิธีการอื่นๆ เพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน
ในยุคที่การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือเป็นระบบหลักในทุกวันนี้ หน่วยงานญี่ปุ่นและประชาชนจำนวนหนึ่งยังคงใช้โทรศัพท์ประจำที่และแฟกซ์ เหตุผลหนึ่งคือ เมื่อเกิดภัยพิบัติและเครือข่ายสื่อสารล่มลง ระบบสายแบบดั้งเดิมมีเสถียรภาพมากกว่า