สำหรับคนเมืองร้อนอย่างคนไทยเราแล้ว ความฝันหนึ่งก็คงไม่พ้นการเอาตัวไปกระแทกหิมะที่ญี่ปุ่นให้ชื่นใจสักครั้ง มาถึงตรงนี้ หลายคนคงกำลังนึกถึงจังหวัดฮอกไกโดที่เป็นอาณาจักรแห่งกิจกรรมหน้าหนาวของญี่ปุ่น แต่ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่อยากเก็บบรรยากาศหิมะญี่ปุ่นสวยๆ แบบเน้นๆ ล่ะก็ หลบนักท่องเที่ยวที่ฮอกไกโดมานั่งรถไฟเที่ยวโทโฮคุกับ 7 วิวหิมะสวยหลักล้านที่ต้องไปเห็นให้ได้สักครั้งกัน!
1.ลำธารโออิราเสะและทะเลสาบโทวาดะ (อาโอโมริ)
เริ่มต้นกันที่อาโอโมริที่เป็นจังหวัดเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุกัน กับลำธารโออิราเสะ (奥入瀬渓流) และทะเลสาบโทวาดะ (十和田湖) สองจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมของจังหวัด! แม้ลำธารโออิราเสะและทะเลสาบโทวาดะจะมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมใบไม้แดงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น แต่บรรยากาศในฤดูหนาวเองก็สวยไม่แพ้กัน! เพราะที่นี่จะเปลี่ยนเป็นดินแดน Winter Wonderland ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาว
ลำธารโออิราเสะปกคลุมด้วยหิมะจะให้บรรยากาศที่สวยงามและเงียบสงบในตอนกลางวัน แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนล่ะก็ ที่นี่จะมีบริการทัวร์รถบัสให้นั่งชมไฟประดับตามจุดต่างๆ ของลำธาร ซึ่งเป็นทัวร์ที่ให้เราได้นั่งอุ่นสบายบนรถบัสไประหว่างมองภาพที่สวยงามลึกลับของลำธารโออิราเสะที่มีเห็นได้ในฤดูหนาวเท่านั้น
ส่วนทะเลสาบโทวาดะเองก็ไม่แพ้กัน เพราะในช่วงฤดูหนาวนี้เองที่เราจะได้เห็นที่มาของฉายา “ทะเลสาบต้องมนต์” ของทะเลสาบโทวาดะ เพราะว่าทะเลสาบแห่งนี้จะไม่จับตัวเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาวนั่นเอง! ดังนั้นเราจะได้เห็นวิวทะเลสาบโทวาดะสีน้ำเงินไพลินตัดกับภูเขาสีน้ำตาลเข้มที่มีหิมะขาวโปรยอยู่ รวมกันเป็นวิวที่จะถ่ายมุมไหนก็สวย แถมถ้าลงไปนั่งเรือชมวิวหรือถีบเรือเป็ดด้วยล่ะก็ เพื่อนๆ จะได้เห็นเฉดสีต่างๆ ของทะเลสาบโทวาดะที่ไล่จากสีเขียวมรกตไปเป็นสีน้ำเงินเข้ม และถ้าอากาศเป็นใจน้ำก็จะใสมากจนมองเห็นบรรดาหินที่อยู่ก้นทะเลสาบด้วยนะ!
กระซิบนิดนึงว่าถ้ามีเวลาก็ขอให้อยู่จนถึงตอนค่ำๆ นะ เพราะทะเลสาบโทวาดะจะมีเทศกาล Lake Towada Winter Story Festival ให้ได้ชมไฟประดับกันด้วย
ลำธารโออิราเสะและทะเลสาบโทวาดะ
ที่อยู่:
(ลำธารโออิราเสะ) 60 Okuse, Towada, Aomori 034-0301, Japan
(ทะเลสาบโทวาดะ) Towadakohannenokuchi-16 Okuse, Towada, Aomori 018-5501, Japan
การเดินทาง: นั่งชินกันเซ็นไปลงสถานี JR Shichinohe-Towada Station หรือ JR Hachinohe Station แล้วต่อรถบัสประจำทางไปทะเลสาบโทวาดะ หรือถ้าจะไปลำธารโออิราเสะก่อน สามารถนั่งรถบัสประจำทางจากสถานี JR Shin-Aomori Station หรือ JR Aomori Station ไปได้
เว็บไซต์: towadako.or.jp
2.วิวชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นจากรถไฟ Resort Shirakami (อาโอโมริ-อาคิตะ)
Resort Shirakami (リゾートしらかみ) เป็นรถไฟ Joyful Train (รถไฟธีมพิเศษ) รุ่นบุกเบิกของ JR East ที่วิ่งบนทางรถไฟสาย Gono Line (五能線) และเป็นที่รักของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ด้วยความที่รถไฟขบวนนี้วิ่งเลียบพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติชิราคามิซันจิ (白神山地) ทำให้รถไฟขบวนนี้มีผู้โดยสารเพียบในฤดูร้อน
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าการนั่ง Resort Shirakami ในฤดูหนาวก็สนุกไม่แพ้กัน! เพราะในฤดูหนาวเราจะได้เห็นวิวพื้นที่ชนบทของอาโอโมริถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวสะอาดกว้างสุดลูกหูลูกตาได้อย่างจุใจ พร้อมได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเช่น “ม่านน้ำแข็ง (氷のカーテン)” บริเวณสถานี Senjojiki (千畳敷駅) ซึ่งรถไฟจะจอดให้เราลงไปถ่ายรูปได้ด้วย
ยิ่งเมื่อบวกกับวิวทะเลญี่ปุ่นสีฟ้าใสที่เป็นวิวไฮไลท์ด้วยแล้วล่ะก็ หลายคนคงหลงรักรถไฟขบวนนี้ได้ไม่ยากเลย ยังไม่นับกิจกรรมสนุกๆ บนรถไฟเช่นการแสดงชามิเซน การแสดงเล่านิทาน (語り部, คาตาริเบะ) และอื่นๆ ที่จะทำให้ทริปนั่งรถไฟสนุกกว่าที่เคย ถ้าเพื่อนๆ มีแพลนเที่ยวแถวจังหวัดอาโอโมริและอาคิตะในฤดูหนาว ลองเพิ่มรถไฟ Resort Shirakami เข้าไปในทริปดูนะ!
Resort Shirakami
ตั๋วที่ใช้ขึ้นได้: JR EAST PASS (Tohoku Area)
เว็บไซต์: jreast.co.jp
3. Hachimantai Dragon Eye (อาคิตะ-อิวาเตะ)
Hachimantai Dragon Eye (八幡平ドラゴンアイ) เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่ชมได้ที่บ่อคางามิ (鏡池, Kagami Pond) เกิดจากการที่หิมะที่ปกคลุมบ่อในฤดูหนาวละลายในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ โดยหิมะในวงนอกจะละลายเป็นน้ำสีฟ้าใสขณะที่ผืนหิมะตรงกลางลอยอยู่ ทำให้ทั้งบ่อดูเหมือนดวงตาสีฟ้าขนาดยักษ์ของมังกรที่จ้องขึ้นมา ซึ่งถ้าจะให้ได้วิวที่พีคที่สุดจริงๆ ก็ต้องไปชม Hachimantai Dragon Eye ในช่วงปลายพฤษภาคม-ต้นมิถุนายน ถึงจะแปลกหน่อยที่จะได้มาเห็นปรากฎการณ์หิมะในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ-ต้นฤดูร้อนญี่ปุ่น แต่ความแปลกที่แปลกเวลานี้เองที่ยิ่งทำให้การมาชม Hachimantai Dragon Eye มีเสน่ห์ที่สุด
Hachimantai Dragon Eye
ที่อยู่: Tazawako Tamagawa, Semboku, Akita 014-1205, Japan
การเดินทาง: จากสถานี Tazawako Station นั่งรถบัส Ugokotsu มาลงที่ Hachimantai Mountaintop จากนั้นเดินต่ออีก 20 นาที (ระหว่างทางจะมีหิมะปกคลุม แนะนำให้ใส่รองเท้าที่ลุยหิมะได้)
เว็บไซต์: appi.co.jp
4. Hachimantai Aspite Line (อิวาเตะ)
Hachimantai Aspite Line (八幡平アスピーテライン) หรือ Aspite Line เป็นถนนที่ขึ้นชื่อในฐานะเส้นทางชมวิวในภูเขา โดยในฤดูใบไม้ร่วงเราจะสามารถขับรถชมใบไม้แดงหลากเฉดสวยงามได้ตลอดระยะทาง 27 กม. และหลังจากนั้นถนนสายนี้ก็จะถูกปิดไปในฤดูหนาวเพราะหิมะตกหนัก แต่ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ตรงกับฤดูใบไม้ผลิ ถนนเส้นนี้จะเปิดให้บริการอีกครั้งพร้อมกำแพงหิมะสูงหลายเมตรขนาบทั้งสองข้างทาง ซึ่งบางจุดสูงได้ถึง 6 เมตรทีเดียว! โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมขับรถผ่านแนวกำแพงหิมะนี้เพื่อไปชมซากุระที่สวนซากปราสาทโมริโอกะ (盛岡城址公園) ซึ่งจะเราจะได้สัมผัสถึงการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาลจากฤดูหนาวไปสู่ฤดูใบไม้ผลิได้ในแบบที่หาได้ยากสุดๆ
Hachimantai Aspite Line
ที่อยู่: 5 Chome Midorigaoka, Hachimantai, Iwate 028-7304, Japan
การเดินทาง: จากสถานี JR Morioka นั่งรถบัส 2 ชั่วโมงมาลงที่ Hachimantai Aspite Line หรือขับรถจาก Matsuo-Hachimantai IC มาได้ใน 25 นาที
เว็บไซต์: hachimantai.or.jp
5. กินซังออนเซ็น (ยามากาตะ)
กินซังออนเซ็น (銀山温泉, Ginzan Onsen) เป็นหมู่บ้านออนเซ็นบรรยากาศย้อนยุคที่คนไทยหลายคนน่าจะรู้จักดีว่าให้บรรยากาศย้อนยุคเหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ Spirited Away ของ Studio Ghibli แม้กินซังออนเซ็นจะมีบรรยากาศสวยน่าเที่ยวตลอดปี แต่ถ้าพูดถึงฤดูที่พีคที่สุดก็ต้องฤดูหนาวเลย! เพราะเราจะได้เห็นกินซังออนเซ็นในยามค่ำที่เรียวคังเปิดไฟสีส้มนวล โดยมีหิมะขาวโพลนโปรยลงมาตัดกับอาคารไม้สีเข้มและความมืดในยามค่ำ เป็นบรรยากาศที่คนเมืองร้อนอย่างคนไทยควรมาสัมผัสมนต์ขลังให้ได้สักครั้ง
นอกจากภาพโดยรวมของกินซังออนเซ็นที่สวยน่าเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังมีลูกเล่นให้ชมกันด้วย เช่นภาพโคเทะเอะ (鏝絵) ซึ่งเป็นภาพนูนต่ำทำจากปูนปลาสเตอร์ที่มีสีสันสดสวย และพบเห็นได้ตามกำแพงของเรียวกังแห่งต่างๆ ในเมือง ดังนั้นการเดินเล่นรอบๆ กินซังออนเซ็นจะให้บรรยากาศเหมือนเดินชมแกลเลอรี่ก็ว่าได้ และถ้าเดินจนเมื่อยเท้าแล้ว ที่นี่ก็มีออนเซ็นเท้าวาราชิยุ (和楽足湯) ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกินซังและมีน้ำออนเซ็นจากต้นน้ำให้แช่เท้าพลางซึมซับบรรยากาศเมืองได้ชิวๆ ด้วย แถมถ้าหิว ที่นี่ก็มีร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงร้านของฝากมากมายให้เลือกชิมและช้อปกันได้ชนิดที่มีครบจบในที่เดียว จึงไม่แปลกใจเลยที่คนที่มาเที่ยวที่นี่จะไม่อยากกลับกัน
กินซังออนเซ็น
ที่อยู่: 429 Ginzanshinhata, Obanazawa, Yamagata 999-4333, Japan
การเดินทาง: จากสถานี JR Oishida นั่งรถบัสอีก 40 นาที (กินซังออนเซ็นจะอยู่ที่ป้ายสุดสาย)
เว็บไซต์: www.ginzanonsen.jp
6. อ่าวมัตสึชิมะ (มิยางิ)
หลายคนอาจจะรู้จักอ่าวมัตสึชิมะ (松島湾, Matsushima Bay) ในฐานะจุดชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และแหล่งท่องเที่ยวทำกิจกรรมในฤดูร้อน แต่รู้ไหม? ว่าอ่าวมัตสึชิมะในฤดูหนาวก็บรรยากาศดีไม่แพ้กัน! เพราะถ้ามาในช่วงที่หิมะตกทับถมกันหนาแล้ว เพื่อนๆ จะได้เห็นเมืองริมอ่าวเป็นสีขาวโพลนทั้งเมือง ซึ่งบางครั้งก็จะตัดกับสีน้ำเงินเข้มของอ่าวในวันฟ้าแจ่มใส หรือถ้าเป็นวันฟ้าครึ้มก็จะได้วิวเมืองสีขาวล้อกับอ่าวที่เทาอมฟ้าที่สวยไปอีกแบบ
จุดชมวิวที่จะให้เราชมความงามของมัตสึชิมะได้อย่างเต็มที่มีเช่น Saigyo Modoshi no Matsu Park (西行戻しの松公園) สวนสาธารณะที่ให้เราได้เห็นวิวอ่าวมัตสึชิมะแบบพาโนรามา เรือนน้ำชาคันรันเทย์ (観瀾亭) ที่ให้เราชมอ่าวมัตสึชิมะได้ใกล้ๆ พร้อมจิบชาเขียวแก้หนาวไปด้วย และที่ Matsushima Rikyu (松島離宮) ซึ่งจะมีสวนญี่ปุ่นให้เดินชมกันและมีโซนดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวมุมสูงของอ่าวมัตสึชิมะด้วย
แต่พูดถึงอ่าวมัตสึชิมะในฤดูหนาวแล้วจะไม่พูดถึงของกินก็คงไม่ได้ โดยเฉพาะหอยนางรมของดีท้องถิ่นที่จะมีให้ชิมกันในช่วงตุลาคม-มีนาคม ซึ่งว่ากันว่าถ้าจะมีหอยนางรมที่ไหนที่สู้ของจังหวัดฮิโรชิมะได้ ก็คงมีหอยนางรมมัตสึชิมะนี่เองที่อร่อยสูสีกัน นอกจากหอยนางรมแล้ว มัตสึชิมะยังมีหอยกาบ ปลาไหล และปลาบู่ที่เป็นอาหารทะเลขึ้นชื่อของท้องถิ่นด้วย ไหนๆ มาเยี่ยมเมืองอ่าวสวยแล้ว อย่าลืมชิมของดีท้องถิ่นเพื่อให้ทริปหน้าหนาวที่นี่คอมพลีตยิ่งขึ้นด้วยนะ
อ่าวมัตสึชิมะ
ที่อยู่: Matsushima, Miyagi District, Miyagi 981-0213, Japan
การเดินทาง: จากสถานี JR Sendai นั่งรถไฟสาย JR Senseki Line ไปลงสถานี JR Matsushima หรือ JR Matsushima-Kaigan
เว็บไซต์: matsushima-kanko.com
7. No.1 Tadami River Bridge (ฟุคุชิมะ)
ปิดท้ายกันด้วย No.1 Tadami River Bridge (第一只見川橋梁) สะพานกลางหุบเขาที่นับเป็นจุดชมวิวอันดับหนึ่งของจังหวัดฟุคุชิมะ โดยมุมที่ทุกคนต้องมาเก็บภาพกันให้ได้คือภาพมุมสูงของสะพานที่ทอดตัวเหนือแม่น้ำทะดะมิโดยมีภูเขาขนาบข้าง และถ้าจะให้ภาพสวยลงตัวขึ้นไปอีก ก็ต้องเป็นจังหวะตอนที่กำลังมีรถไฟวิ่งผ่านด้วย! แต่มาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะยังสงสัยว่าวิวสะพานกลางหุบเขาแบบนี้พิเศษอย่างไร? คำตอบอยู่ที่องค์ประกอบที่มีสะพานซึ่งสร้างด้วยฝีมือมนุษย์ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสงบของป่าเขา ทำให้วิวนี้วิวเดียวสามารถสื่อถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติได้อย่างลงตัวนั่นเอง
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาถ่ายรูป No.1 Tadami River Bridge อยู่เรื่อยๆ คือบรรยากาศที่สวยต่างกันไปตามแต่ละฤดู โดยเฉพาะฤดูหนาวที่เป็นหนึ่งในฤดูที่ถ่ายรูปได้สวยที่สุด เพราะเราจะได้เห็นภูเขาสีขาวขนาบข้างแม่น้ำสีเทาอมเขียวและมีรถไฟวิ่งเด่นอยู่ตรงกลางนั่นเอง
นอกจากมาชมวิวแล้ว ที่นี่ยังมีออนเซ็นให้เราเข้าไปแช่และมีร้านเนื้อย่างให้บริการด้วยนะ เพราะงั้นที่นี่จึงคุ้มค่าแก่การนั่งรถมาเที่ยวชิวๆ แน่นอน
No.1 Tadami River Bridge
ที่อยู่: Kawai, Mishima, Onuma District, Fukushima 969-7515, Japan
การเดินทาง: จากสถานี Koriyama นั่งรถไฟสาย Ban-Etsu West Line ไป Aizu-Wakamatsu แล้วขึ้นรถไฟสาย Tadami Line เพื่อไปยังสถานี Aizu-Miyashita จากนั้นขึ้นรถบัสจากสถานี Aizu-Miyashita ไปสถานีริมทาง Oze-kaido Mishima Juku เดินต่ออีก 3-5 นาทีก็จะถึงจุดชมวิวสำหรับถ่ายรูป
เว็บไซต์: fukushima.travel
และทั้งหมดนี้คือลิสต์ 7 วิวหิมะสวยหลักล้านในโทโฮคุที่เราได้คัดมาให้เพื่อนๆ ได้ปักหมุดกันสำหรับทริปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้า รับรองว่าถ้าได้ไปสัมผัสเองแล้ว เพื่อนๆ จะหลงรักการเที่ยวชมและเล่นหิมะในโทโฮคุจนอยากกลับมาซ้ำกันแน่นอน
เที่ยวสบายใจสบายกระเป๋ากว่าเดิม! ด้วย JR EAST PASS (Tohoku Area)
เป็นธรรมดาของการแพลนทริปเที่ยวที่เราจะห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถ้าไม่จัดสรรดีๆ ก็อาจจะบานปลายได้ โดยเฉพาะเรื่องค่าเดินทางที่เป็นค่าใช้จ่ายที่เลี่ยงไมได้ แต่ไม่ต้องห่วง! เพราะนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว เราก็มีตัวช่วยประหยัดในการเดินทางมาแนะนำกันด้วย นั่นคือ JR EAST PASS (Tohoku Area) ตั๋วประเภท Pass จาก JR East ที่จะมาปลดล็อคให้การเดินทางในโทโฮคุง่ายขึ้น เพียงจองตั๋วออนไลน์แล้วมารับตั๋วที่ญี่ปุ่น เพื่อนๆ ก็สามารถขึ้นรถไฟเที่ยวโทโฮคุได้ไม่จำกัดรอบตลอดระยะเวลา 5 วันติดกัน และยังสามารถนั่งชินกันเซ็นและรถไฟ Joyful Train อย่าง Resort Shirakami ได้อีกด้วย! ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 20,000 เยน (ผู้ใหญ่) เท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ JR EAST PASS คลิก
ซื้อ JR EAST PASS: eastjapanrail.com
จองที่นั่งรถไฟตามสิทธิ์ JR EAST PASS: eki-net.com
ขอบคุณรูปภาพจาก Outside The Room
ภาพสวยๆ จากเพจ Outside The Room ที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันในบทความนี้ เป็นผลงานภาพถ่ายฝีมือรุจ (ศุภรุจ เตชะตานนต์) หรือที่รู้จักกันในฐานะรุจ เดอะสตาร์ที่หลายคนน่าจะได้รู้จักกันผ่านผลงานเพลงตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเพจ Outside The Room เป็นเพจที่รุจใช้แบ่งปันประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นพร้อมภาพสวยๆ ที่ได้จากการเดินทางมาให้แฟนๆ ได้ชมกัน ใครชอบผลงานภาพถ่ายและเรื่องสนุกๆ ในญี่ปุ่น อย่าลืมไปกด Follow ตามลิ้งก์ข้างล่างกันนะคะ
Fanpage: Outside The Room
Instagram: suparuj