xs
xsm
sm
md
lg

"โอมาโมหริ" เครื่องรางญี่ปุ่น - เลือกและใช้อย่างไรให้เหมาะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพจาก tokyoweekender.com
คอลัมน์ “เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น” โดย “ซาระซัง”

สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน คนญี่ปุ่นนั้นเวลามีความทุกข์ใจ บางทีเขาก็ไปไหว้พระตามวัดตามศาลเจ้า ซื้อเครื่องราง เสี่ยงเซียมซีคล้ายกับบ้านเราอยู่บ้างเหมือนกัน เครื่องรางของเขามีหลายชนิดให้เลือก แล้วแต่ว่าเราต้องการความคุ้มครองในเรื่องใด หลายแห่งยังออกแบบให้มีสีสัน รูปร่าง และลวดลายสะดุดตาด้วย วันนี้จะเล่าให้ฟังค่ะว่าเครื่องรางญี่ปุ่นมีแบบไหนบ้าง เลือกอย่างไร และใช้อย่างไรถึงจะเหมาะ

ประเภทของเครื่องราง
วัตถุประสงค์ดั้งเดิมของเครื่องรางก็คือเพื่อขจัดความอัปมงคลและคุ้มครองผู้ถือจากภัยอันตราย แต่เดี๋ยวนี้นำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ อีกมากมายก่ายกอง และยังมีการออกแบบที่หลากหลายเป็นร้อย ๆ แบบ ในบทความนี้ฉันขออนุญาตเล่าเฉพาะเครื่องรางชนิดพกพานะคะ เพราะน่าจะเป็นที่รู้จักและเลือกซื้อง่ายกว่าประเภทอื่น ๆ เครื่องรางชนิดนี้เรียกกันทั่วไปว่า “โอมาโมหริ” (お守り) เชื่อกันว่าเมื่อพกติดตัวไว้จะให้โชคด้านการเรียน การงาน ความรัก สุขภาพ เงินทอง โชคลาภ และความปลอดภัย โอมาโมหริหนึ่งชิ้นจะให้โชคเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้นตามที่ระบุไว้ แต่โอมาโมหริในหมวดหมู่เดียวกันก็ยังอาจแยกปลีกย่อยได้อีกหลายอย่าง หรือมีคำเรียกหลายแบบ ฉันขอยกตัวอย่างมาให้ดูบางส่วนค่ะ

ด้านการเรียน
合格祈願 (ขอให้สอบผ่าน) : เป็นเครื่องรางสำหรับคนที่กำลังเตรียมสอบเข้า หรือสอบเอาวุฒิ
学業成就 (ขอให้เรียนดี) : สำหรับคนที่อยากให้การเรียนโดยรวมพัฒนาขึ้น ผลการเรียนการสอบที่โรงเรียนดีขึ้น บรรลุตามเป้าหมายการเรียนที่ตั้งไว้

ภาพจาก kaiun-net.com
ด้านการงาน
就職祈願 / 就職成就 / 就職成就祈願 / 就職成就御守 / 就業御守 / 就勝守 (ขอให้หางานได้) : เป็นเครื่องรางเพื่อขอให้ได้งานที่ไปสมัครไว้ มีหลายชื่อเรียกดังข้างต้น สามารถเลือกแบบใดแบบหนึ่งได้
仕事守 (ขอให้การงานราบรื่น) : เป็นเครื่องรางเพื่อทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการงาน ทั้งขอให้ได้งาน ขอให้ทำงานสำเร็จด้วยดี ขอให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้

ด้านความรัก
恋愛成就 (ขอให้สมหวังในรัก) : เป็นเครื่องรางสำหรับคนโสดที่อยากสมหวังในรักที่หมายปอง
縁結び (ผูกสัมพันธ์) : สำหรับคนที่อยากให้มีคนดี ๆ เข้ามา หรือขอให้ความสัมพันธ์กับคนรักในปัจจุบันราบรื่น
夫婦円満 (คู่ครองปรองดอง) : เป็นเครื่องรางสำหรับสามีภรรยาจะได้ครองรักกันไปนาน ๆ

ด้านสุขภาพ
健康祈願 (ขอให้สุขภาพดี):สำหรับขอให้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย มีสุขภาพที่ดีทุกวัน
病気平癒 (หายป่วย):สำหรับขอให้อาการป่วยที่เป็นอยู่หายดี
無病息災 (แข็งแรงไม่เจ็บป่วย) : สำหรับขอให้สุขภาพที่ไม่ดีแข็งแรงขึ้น มีสุขภาพดีเป็นนิจ
長寿祈願 (ขอให้อายุยืน):สำหรับขอให้สุขภาพดี อายุยืนยาว

เรื่องลูก
子授祈願 / 子宝祈願 (ขอให้มีลูก):สำหรับสามีภรรยาที่อยากมีลูก สามารถพกเครื่องรางได้ทั้งคู่
安産祈願 (ขอให้คลอดง่าย):สำหรับขอให้คลอดง่าย ปลอดภัยทั้งแม่ลูก

ภาพจาก okinawa-labo.com
ด้านเงินทอง
金運上昇 (เพิ่มโชคทางการเงิน):สำหรับขอให้สถานะทางการเงินดีขึ้น
商売繁盛 (ค้าขายรุ่งเรือง) : เพื่อขอให้ธุรกิจการค้าของตนเจริญรุ่งเรือง

ด้านโชคลาภ
勝守 (ให้มีชัยชนะ) : สำหรับคนที่อยากได้ชัยในการสอบ การแข่งขัน หรือต่อสู้กับโรคภัย
開運 (เปิดโชค) : สำหรับคนที่อยากให้มีโชคลาภเข้ามาในชีวิต

ด้านความปลอดภัย
厄除け (ขจัดภัย) : สำหรับขจัดเภทภัย โชคร้าย หรืออุปสรรคต่าง ๆ โชคดีจะได้เข้ามา
方位除け:สำหรับปกป้องเภทภัยจากทิศอัปมงคลทั้งหลาย
開運除災 (เปิดโชคขจัดภัย):สำหรับขอให้ปลอดภัยตลอดปีหลังเจอเรื่องไม่ดีมา
交通安全 (จราจรปลอดภัย):สำหรับขอให้ขับรถปลอดภัย แคล้วคลาดอุบัติเหตุ
家内安全 (ครอบครัวปลอดภัย):สำหรับขอให้คุ้มครองสมาชิกในบ้านให้ปลอดภัยและมีความสุข
旅行安全 (เดินทางปลอดภัย):สำหรับขอให้เดินทางปลอดภัย

การเลือกซื้อโอมาโมหริ
โอมาโมหริสามารถหาซื้อได้จากวัดหรือศาลเจ้าตลอดปี หรือหากไม่สามารถไปซื้อถึงที่ได้ บางวัดก็มีขายทางออนไลน์ด้วยนะคะ ส่วนเครื่องรางที่เห็นตามร้านขายของที่ระลึกหรือร้านค้าออนไลน์ทั่วไปอาจไม่ใช่เครื่องรางที่ผ่านพิธีกรรม แล้วเดี๋ยวนี้เด็กนักเรียนหรือคนหนุ่มสาวยังทำเครื่องรางแฮนด์เมดกันเอาเองด้วย ถ้าอยากได้ความขลังหน่อย ก็อาจจะเลือกซื้อจากวัดหรือศาลเจ้าโดยตรงดีกว่า

จุดขายเครื่องรางของศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ภาพจาก hitomi-jinja.jp
สำหรับความต่างของโอมาโมหริของวัดและศาลเจ้านั้นอยู่ที่ขั้นตอนการผลิต ถ้าเป็นของวัดก็จะมีการทำพิธี จุดธูป และสวดมนต์แบบพุทธของญี่ปุ่น ถ้าเป็นของศาลเจ้าก็จะมีการทำพิธีปัดเป่าต่อหน้าเทพเจ้า แล้วเชิญท่านมาสถิตที่โอมาโมหริ (เทพเจ้าที่ว่านี้ หมายถึงเทพหรือเทวดาที่สถิตอยู่ในธรรมชาติตามความเชื่อเก่าแก่ของญี่ปุ่น) แต่ส่วนใหญ่ดูเหมือนคนก็ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ว่าโอมาโมหริจะเป็นของวัดหรือศาลเจ้า บางคนอาจจะชอบซื้อจากวัด/ศาลเจ้าชื่อดัง หรือจากที่ซึ่งเลื่องลือกันว่าขลังในด้านใดด้านหนึ่ง แต่บางคนก็ว่าซื้อจากที่ไหนก็ใช้ได้เหมือนกัน

โอมาโมหริส่วนใหญ่มักเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ก็อาจเป็นทรงหรือรูปร่างอื่น ๆ ด้วย เช่น สามเหลี่ยม เปลือกหอย ถุง ดอกไม้ สัตว์ เป็นต้น เวลาเลือกอย่าดูจากสี ลวดลาย และรูปร่างของเครื่องราง เพราะหลายวัด/ศาลเจ้าทำเครื่องรางออกมาหน้าตาคล้ายกัน คืออาจจะใช้ผ้าสีเดียวกัน ลายเดียวกัน รูปร่างเหมือนกัน แต่วัตถุประสงค์ของเครื่องรางนั้น ๆ อาจจะคนละอย่างก็ได้ ให้ดูจากตัวหนังสือที่เขียนไว้บนเครื่องรางแต่ละชิ้นว่าใช้สำหรับอะไร ตรงกับวัตถุประสงค์ของเราไหมเป็นสำคัญ

ภาพจาก thegate12.com
ทีนี้บางแห่งก็ออกแบบโอมาโมหริได้โดดเด่นเป็นพิเศษ หรือสวยน่ารักเสียจนอาจนึกอยากได้ขึ้นมา แต่บางทีโอมาโมหรินั้นก็ไม่เกี่ยวกับเรา ก็อาจไม่เหมาะซื้อมาเก็บไว้ส่วนตัว เช่น ถ้ายังโสดก็คงไม่เหมาะซื้อโอมาโมหริสำหรับคู่สามีภรรยาเพราะเห็นว่ามันสวยดี หรือถ้าอยู่ในวัยเรียนก็อาจจะไม่เหมาะซื้อโอมาโมริสำหรับคนที่อยากมีลูก เป็นต้น เพราะฉะนั้นต้องดูให้ดีก่อนซื้อ

วิธีการใช้โอมาโมหริ
ว่ากันว่าวิธีที่ดีที่สุดคือให้พกไว้แนบตัว แต่ถ้าไม่สะดวกก็อาจใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ หรือกล่องดินสอ ถ้าใส่กระเป๋าสตางค์ก็ระวังไม่ไปยัดไว้ในกระเป๋ากางเกงต่ออีกทีหนึ่ง เพราะโอมาโมหริถือว่าเป็นวัตถุมงคลประเภทหนึ่ง จึงควรปฏิบัติด้วยเหมือนเป็นของที่ควรให้ความเคารพ

ถ้าจะเก็บโอมาโมหริไว้ที่บ้านก็อาจไว้ที่หิ้งพระ หากไม่มีก็ไม่ควรเอาใส่ลิ้นชัก แต่ให้วางในที่สว่าง สะอาด และเห็นได้บ่อย เช่น บนโต๊ะทำงาน ถ้าจะให้ดีก็วางไว้บนผ้าขาวอีกต่อหนึ่ง

สำหรับโอมาโมหริที่คุ้มครองอุบัติเหตุจากการสัญจร อาจห้อยไว้ที่กระจกหน้ารถที่ขับประจำ ห้อยกุญแจรถ หรือถ้าเด็กเป็นคนถือไว้ก็อาจจะให้ติดกระเป๋าที่ใช้ไปโรงเรียนทุกวันก็ได้ ส่วนโอมาโมหริที่เกี่ยวกับความรักก็ไม่เหมาะโชว์ให้ใครเห็น เก็บในที่มิดชิดอย่างกระเป๋าสตางค์อาจจะดีกว่า

ภาพจาก ameblo.jp
ภายในโอมาโมหริส่วนใหญ่จะมีป้ายกระดาษหรือแผ่นไม้เล็ก ๆ ที่จารึกชื่อพระ/เทพหรือคาถาเอาไว้ และอาจห่อด้วยผ้าหรือกระดาษขาวอีกชั้นก่อนจะบรรจุในซองผ้า โอมาโมหริบางชิ้นก็บรรจุวัตถุบางอย่างไว้ภายใน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่เชื่อ เช่น เป็นโลหะชิ้นเล็ก ๆ สีทองทำเป็นรูปเทพเจ้าที่ทางศาลเจ้านับถือ เป็นต้น แต่เขาก็ห้ามกันว่าไม่ให้แกะออกมาดูว่าโอมาโมหริมีอะไรอยู่ข้างใน เพราะเดี๋ยวพลังพระ/เทพเจ้าที่ผนึกไว้จะหลุดออกไป

เมื่อโอมาโมหริให้ผลสมดังประสงค์แล้ว หรือว่าหมดปีแล้ว ก็ไม่ควรเก็บโอมาโมหริไว้อีก แต่ควรนำไปให้ที่วัด/ศาลเจ้าที่ซื้อมาเพื่อให้เขานำไปเผาเมื่อถึงเวลาทำพิธีของปี ถ้าไม่สะดวกก็ส่งไปรษณีย์ไป หรือไม่อย่างนั้นก็สามารถทิ้งจากที่บ้านได้ แต่ไม่ใช่โยนลงถังขยะไปเฉย ๆ แต่ให้วางลงกระดาษขาว เอาเกลือหยิบนิ้วโรยที่ด้านซ้าย 1 ที ด้านขวา 1 ที แล้วข้างซ้ายอีก 1 ที จากนั้นจึงห่อกระดาษนี้ทิ้งลงถังขยะได้ หรือจะเผาในที่เหมาะสมก็ได้

บางคราวคนเราก็ต้องการกำลังใจในสิ่งที่คาดเดาไม่ถูกว่าจะออกหัวหรือก้อยนะคะ การพึ่งเครื่องรางก็อาจเป็นกำลังใจให้คิดบวกในสิ่งที่มุ่งหวังอยู่ หรือช่วยให้แน่วแน่ต่อเป้าหมายและทิศทางที่ต้องการ และเกิดความพยายามทำในสิ่งที่ควรทำอย่างเต็มที่กว่าเดิมก็เป็นได้

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีค่ะ.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ซาระซัง"  เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโตเกียวนานกว่า 5 ปี ปัจจุบันติดตามสามีไปทำงาน ณ สหรัฐอเมริกา ติดตามคอลัมน์ “เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น” ที่ MGR Onlineทุกวันอาทิตย์. 


กำลังโหลดความคิดเห็น