ปกติคุณทิ้งชาที่ชงไปครั้งสองครั้งแล้วหรือไม่? อันที่จริงชานั้นยังมีประโยชน์และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งครั้งนี้จะแนะนำวิธีการนำชาชงแล้วมาใช้ซ้ำได้อย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งคงจะดีไม่น้อยถ้าเรามุ่งสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีด้วยชาและเติมชีวิตชีวาด้วยชาได้
ผู้เขียนบทความอยากให้รู้ว่าประโยชน์ของชานั้นยอดเยี่ยมมาก และไม่แนะนำให้ทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ แล้วเราจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างไรบ้าง ก่อนอื่นมาดูสรรพคุณของชา
●ด้านความงาม
ชามีส่วนผสมเช่น "โพลีฟีน" "คาเฟอีน" และ "แร่ธาตุ" ดังนั้นจึงมักได้รับการแนะนำเพื่อความงาม และช่วยทำให้ผิวสวย!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโพลีฟีนอลในชามีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถดื่มเพื่อหวังผลสู่ความงามจากภายในร่างกายของคุณได้
นอกจากนี้ยังมีคาเฟอีนซึ่งมีผลต่อการเผาผลาญไขมันและมีผลการยับยั้งการสะสมของไขมัน ส่วนแร่ธาตุที่ให้ผลดีต่อการควบคุมสภาพร่างกายและสารไวท์เทนนิ่งที่เรียกว่า "ไฮโดรควิโนน" ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่ามีประสิทธิภาพสำหรับการยับยั้งจุดด่างดำและผิวคล้ำเสียรวมอยู่ด้วย
●แก้อาการท้องผูก
คาเฟอีนที่มีอยู่ในชาช่วยในการไดเอท แต่ในความเป็นจริงคาเฟอีนยังมีหน้าที่ส่งเสริมการทำงานของลำไส้ด้วย
ดังนั้นจึงเป็นเครื่องดื่มแนะนำสำหรับผู้ที่มักมีอาการท้องผูก หากคุณมีอาการท้องผูกแต่ไม่อยากพึ่งยาให้ลองดื่มชาดู
●ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
ชามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและแนะนำเป็นพิเศษสำหรับการป้องกันกลิ่นปาก
หลังจากดื่มกาแฟแล้วบางส่วนผสมของกาแฟจะเกาะติดที่ลิ้นทำให้แบคทีเรียเติบโต แต่ชากลับตรงกันข้าม! มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากและช่วยลดกลิ่นปากด้วย ขอแนะนำให้ดื่มหรือบ้วนปากด้วยชาได้
●ช่วยควบคุมอาหาร
ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าคาเฟอีนที่มีอยู่ในชามีผลต่อการช่วยควบคุมอาหาร
เหตุผลที่คาเฟอีนมีผลต่อการควบคุมอาหารก็คือการกินคาเฟอีนเข้าไปจะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมได้ง่ายขึ้น และป้องกันไขมันสะสมในอนาคต นอกจากนั้นยังส่งเสริมการทำงานของลำไส้ทำให้ช่องท้องสดชื่นและมีสุขภาพแข็งแรง
หากคุณต้องการคาดหวังผลการควบคุมน้ำหนัก อยากรับประทานอาหารตามปกติ ลองดื่มชาโดยไม่ต้องเติมนมหรือน้ำตาล
และต่อไปเป็นคำแนะนำวิธีการใช้ชาที่ชงแล้วซ้ำ ซึ่งหลายคนก็ใช้เป็นประจำทุกวัน การใช้ชาซ้ำอาจไม่เหมาะกับการนำมาดื่มเพราะรสชาติที่จางลง แต่เหมาะสำหรับการนำมาใช้ซ้ำอื่นๆ อาทิเช่น
◇ใช้เป็นน้ำยาบ้วนปาก
ชาสามารถปกป้องเยื่อเมือกและลดอาการปวดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันมีผลพิเศษกับเยื่อเมือกของลำคอ ดังนั้นเมื่อรู้สึกเจ็บคอลองกลั้วคอด้วยชาดู
และสำหรับการทำน้ำยาบ้วนปากนั้นง่ายมาก แค่เติมน้ำเดือดลงไปในใบชาเพื่อสกัดเอาส่วนผสมของชา รอให้เย็นลง หรือเติมน้ำเพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม แล้วนำไปกลั้วคอ!ได้ทันที
หากคุณกลั้วคอวันละ 3 ถึง 5 ครั้ง และทำซ้ำอีก 2 ถึง 3 วัน คุณจะรู้สึกว่าอาการเจ็บคอบรรเทาลงได้
◇ใช้เป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น
ชามีคุณสมบัติ "ดูดซับกลิ่น" จึงสามารถใช้เป็นยาระงับกลิ่นได้ด้วย โดยวางไว้ใกล้ของที่มีกลิ่นแรง ชาบางชนิด เช่น ชาเอิร์ลเกรย์ และ ชามะลิ เป็นชาที่ผลิตขึ้นโดยใช้คุณสมบัติของใบชาในการดูดซับกลิ่นหอม!
ที่บ้านของคนญี่ปุ่นบางคนใส่ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นจากชาแบบโฮมเมดในกล่อง ในตู้เย็น และห้องน้ำซึ่งเป็นจุดที่กังวลเรื่องกลิ่น
เวลาทำผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นให้ใช้กระชอนตากใบชาให้แห้งแล้วใส่ลงในถุง
ผลการดับกลิ่นจะคงอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ระยะเวลาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
◇ใช้เป็นปุ๋ยสำหรับสวนผัก
งานอดิเรกของบางคนคือการทำสวนในบ้าน และสามารถใช้ใบชาเป็นปุ๋ย (ซากพืช)ได้
ชาย่อยสลายได้ง่ายในดินเพราะใบชาหมักในกระบวนการผลิตดังนั้นจึงแนะนำสำหรับช่วยเรื่องการปรับปรุงดินด้วย!
นอกจากนี้กลิ่นที่คล้ายสมุนไพรยังเป็นกลิ่นที่แมลงไม่ชอบจึงเหมาะสำหรับการป้องกันแมลง
เมื่อนำใบชาเข้าไปในสวนผัก ให้ตัดชาแห้งให้ละเอียดด้วยกรรไกร (จะบดด้วยเครื่องบดก็ได้) แล้วโรยกลบดินเล็กน้อยแทนการโรยบนดิน
*รสชาติของชาที่ใช้ชงดื่มแล้วอาจจะจางไม่น่าพอใจเมื่อจะนำมาดื่มอีก
อย่างไรก็ตามจากมุมมองของการนำกลับมาใช้ใหม่ดีกว่าทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์
ชาสามารถใช้เสริมความงาม สุขภาพ และใช้ในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นต้องลอง