การทดลองในญี่ปุ่นพบว่า วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา 2 เข็มมีประสิทธิผลในการรับมือไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนลดลงอย่างมาก
คณะผู้ทดลองซี่งนำโดยศาสตราจารย์คาตายามะ คาซูฮิโกะ จากมหาวิทยาลัยคิตาซาโตะ ได้ทดลองวัดระดับสารภูมิต้านทาน หรือ แอนติบอดีที่ต้านพิษของเชื้อไวรัสโควิด ในเซลล์ที่นำมาจากตัวอย่างโลหิตของผู้คนที่ผ่านการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จำนวน 12 คน
สารภูมิต้านทาน หรือ แอนติบอดี ทำหน้าที่ปกป้องผู้รับวัคซีนไม่ให้ป่วยจากไวรัส
ผู้ทดลอง 6 คนในจำนวนดังกล่าวได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม และอีก 6 คนได้รับวัคซีนโมเดอร์นา ระดับสารภูมิต้านทานในตัวอย่างที่นำมาจากผู้คนที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สองเมื่อ 3 เดือนก่อน ลดลงร้อยละ 72 โดยเฉลี่ย จากระดับที่ใช้ต่อต้านไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ระดับสารภูมิต้านทานในตัวอย่างที่ได้จากผู้รับวัคซีนโมเดอร์นาเข็มที่สองเมื่อ 3 เดือนก่อน ลดลงร้อยละ 82 โดยเฉลี่ย
ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นาซึ่งใช้ในญี่ปุ่น มีประสิทธิผลในการรับมือไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน น้อยกว่าสายพันธุ์เดลตามาก
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์คาตายามะ กล่าวว่า การค้นพบจากการทดลองในห้องปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนไร้ประสิทธิผลในการต่อต้านไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนไปเสียหมด และได้เรียกร้องให้ประชาชนที่รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มแล้วใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อต่อเนื่องไป.