สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว มีคำกล่าวว่า คำแนะนำของผู้เฒ่าผู้แก่มักมีประโยชน์ เรื่องคุณธรรมพื้นฐานของมนุษย์เช่นความรัก ความสงสารไม่ได้เปลี่ยนแปลงนักไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เมื่อร้อยปีหรือพันปีก่อนนี้ แต่วิวัฒนาการของเทคโนโลยีโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก จนคำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานบางอย่างจากคนรุ่นลุง เช่น ต้องจดจำวิธีการรับส่งแฟ็กซ์ อาจจะไม่เกิดประโยชน์มากนักในยุคนี้
หรือที่คนรุ่นลุงบอกว่า สมัยนี้มีการใช้งานสมาร์ทโฟนทำให้สามารถจะติดต่อกับใครๆ ก็ได้โดยตรงแม้แต่การจีบสาว ผู้ชายสามารถส่งข้อความหรือคุย LINE โทรศัพท์หาสาวได้โดยตรงไม่เหมือนสมัยก่อน เวลาจะจีบสาวนั้นไม่มีโทรศัพท์มือถือจะต้องโทรศัพท์ไปที่บ้านและจะต้องผ่านด่านพ่อแม่ของเธอ ต้องคุยกับพ่อของเธอก่อน นั่นหมายถึงมีความกล้าและมีความจริงจังจริงใจในการที่จะจีบลูกสาวบ้านนั้น เป็นต้น เพราะยุคสมัยมีความเปลี่ยนแปลง แม้แต่เรื่องพฤติกรรมการอ่านหนังสือ การเช่าวิดิโอตามร้านเช่าต่างๆ ก็เช่นกัน
อาทิตย์ที่แล้วผมพูดถึงความชอบเฉพาะส่วนบุคคลกับเรื่องหนังเอวีญี่ปุ่น อย่างที่ทราบกันว่า AV ย่อมาจาก Adult Video วิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งในคนๆ เดียว อาจจะมีสิ่งที่ชื่นชอบมากมายหลากหลาย มีคุณลักษณะที่ขัดแย้งกันเองและหักล้างซึ่งกันและกัน ผู้ผลิตหนังเอวีและร้านจำหน่ายจึงได้เพิ่มลักษณะเฉพาะที่แตกต่างและมีรายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่บางทีก็มีแนวหนังบางประเภทที่มีรายละเอียดมากเกินไป ตัวอย่าง เช่น การหยุดเวลา หรือแนว NTR ซึ่งบางเรื่องก็ไม่รู้ว่าสนุกตรงไหน มันยอมรับได้ยาก!
มีคนถามถึงเรื่อง NTR→ ที่ย่อมาจาก NeToRare 寝取られ หรือเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ประมาณว่า สามีซึ่งภรรยามีชู้ อาจจะเริ่มจากถูกข่มขืน หรือไม่ได้สมัครใจเป็นชู้ก็ได้ หรือการถูกแย่งแฟน ถูกแย่งเมีย (บางเรื่องแย่งสามีก็มีไม่นับเฉพาะผู้หญิง) ใน AV คือการมีชู้ แอบไปมีอะไรกับคนอื่นนอกจากแฟน หรือสามีตัวเอง เป็นแนวที่ดูแล้วค่อนข้างขัดกับหลักศีลธรรม อาจจะทรมานใจสักหน่อยแต่บางคนก็ชอบ ก็คงแล้วแต่รสนิยมของคน แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ และไม่นึกจริงๆ ว่าแนวนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ ได้รับความนิยมมากถ้าลองเสิร์จหาจะเห็นว่ามันขึ้นมาเป็นลำดับต้นๆ ของการจัดอันดับเลย อาจจะอยู่ในสามอันดับแรกด้วย ซึ่งไม่ใช่แต่สมัยนี้ สมัยก่อนก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นในชีวิตจริงนะครับ
ถ้าพูดเรื่อง NTR มีเรื่องเล่าที่ถูกเขียนขึ้นมาตั้งแต่สมัยก่อนมาเล่าคร่าวๆ เป็นตัวอย่างครับ เช่นเรื่อง
●โจรปล้นธนูและภรรยาของนักเดินป่า
เมื่อนานมาแล้ว มีสามีภรรยาคู่หนึ่งออกเดินทางเข้าไปในป่าแห่งหนึ่งด้วยกัน เขาให้ภรรยานั่งบนหลังม้าคู่กับเขาและเขาก็มีธนูไม้ไผ่เป็นอาวุธที่แบกไว้บนหลัง ซึ่งเป็นอาวุธอย่างเดียวที่เขาพกติดตัวไปด้วย และหลังจากที่เดินทางไม่นานก็พบชายหนุ่มคนหนึ่ง (ต่อไปขอเรียกว่าโจรป่า) ซึ่งเมื่อโจรป่าเห็นธนูที่ผู้เป็นสามีพกมาก็ชมว่าธนูคุณนี่น่าสนใจมากๆ เลย
และบอกว่า “ข้าพเจ้ามีเพียงดาบเล่มนี้ซึ่งเป็นดาบที่มีชื่อเสียง ที่สืบทอดมาจากเมืองมุตสึ คุณลองดูสิสวยใช่ไหม "
ฝ่ายสามีกับภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมดาบเล่มนั้น โจรป่าเห็นดังนั้นจึงพูดว่า "ถ้าท่านอยากได้ดาบเล่มนี้ ท่านเอาธนูไม้เก่าๆ นั่นมาแลกกับฉันไหม"
ฝ่ายสามีบอกว่าคันธนูที่เขามีนั้นมันไม่ค่อยดีนัก และดาบของโจรป่าก็เป็นดาบที่ดีจริงๆ ดังนั้นนอกจากเขาจะอยากได้ดาบแล้ว ยังคิดว่าถ้านำดาบไปขายจะได้เงินมากมาย เขาคิดและแลกเปลี่ยนไปโดยไม่ลังเล
ฝ่ายสามีบอกกับภรรยาว่า มันน่าลำบากที่จะเดินทางด้วยอาวุธธนู จึงแลกธนูเก่ากับดาบของโจรป่า ฝ่ายสามีกับภรรยาก็ดีใจที่ได้แลกเปลี่ยนดาบดีๆ กับธนูที่น่าเบื่ออย่างที่เขาคิด
โจรป่าจึงได้ถือคันธนู ถือลูกธนูสองดอก แล้วตามหลังเขาไป ฝ่ายสามีกับภรรยาแบกสัมภาระและกระบอกไม้ไผ่ไว้ข้างหลังและถือดาบที่แลกมา
ในที่สุด เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในป่าและจะแวะรับประทานอาหารกลางวัน โจรป่าก็พูดว่า "ที่ๆ มีคนผ่านไปมาไม่ค่อยดีนักหลบไปทางนี้ดีไหม"
ฝ่ายสามีจึงเดินลึกเข้าไป เมื่อถึงที่ลับตาคน โจรป่าก็เล่งธนูไปที่สามีและง้างคันธนูเต็มเหนี่ยว แล้วพูดว่า "ข้าจะยิงเอ็ง ถ้าเอ็งเคลื่อนไหว" อย่างที่โจรป่าพูด ฝ่ายสามีและภรรยาของเขาไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น พวกเขาประหลาดใจและตกใจอย่างมาก
จากนั้นโจรป่าก็ขู่ว่าจะ "เดินเข้าไปในที่ลึกที่สุดของภูเขา ไป" สามีพาภรรยาของเขาเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของภูเขาตามที่โจรสั่ง จากนั้นโจรป่าสั่งว่า "วางของและทิ้งดาบ!!" สามีภรรยาจำยอมโยนของทั้งหมดและทิ้งดาบลง โจรป่าก็เข้ามาใกล้และปล้นพวกเขา และมัดสามีไว้แน่นกับต้นไม้
เมื่อโจรป่าเข้าไปใกล้ผู้หญิงและมองดูเธอ ก็เห็นว่าเธออายุประมาณ 20 ปี และถึงแม้เธอจะเย่อหยิ่งและขัดขืน แต่เธอก็มีเสน่ห์และสวยงามมาก เมื่อโจรป่าเห็นผู้หญิงสวยเขาก็รู้สึกหลงใหลจนลืมทุกสิ่งและพยายามถอดชุดกิโมโนของเธอออก ฝ่ายผู้หญิงก็ไม่สามารถขัดขืนได้และถอดชุดกิโมโนออกตามที่บอก จากนั้นโจรป่าก็ถอดชุดกิโมโนแล้วนอนกับผู้หญิงในอ้อมแขนของกันและกัน หญิงสาวไม่สามารถทำอะไรได้และเชื่อฟังสิ่งที่โจรป่าบอก แต่สามีของเธอจะคิดอย่างไร เพราะเขาเฝ้าดูทุกขณะที่โดนผูกติดอยู่กับต้นไม้?
แล้วโจรป่าก็ยืนขึ้น สวมชุดกิโมโนเหมือนเดิม แล้วแบกกระบอกไม้ไผ่และธนูไว้ข้างหลัง หยิบดาบแล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังม้าของพวกเขา แล้วพูดกับผู้หญิงว่า “ข้าขอโทษ แต่ข้าช่วยไม่ได้ ที่จริงอยากฆ่าสามีเธอด้วยแต่เธอ เลยไม่ฆ่าสามีเธอ ข้าจะไปแล้ว ขอโทษ ”
จากนั้นผู้หญิงก็เข้ามาหาสามีและแก้เชือกให้ สามีของเธอก็ตกใจอย่างมาก ผู้หญิงพูดว่า "คุณเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีอะไรดี ฉันฝากอนาคตกับคุณไม่ได้เลย"
สามีไม่พูดอะไร พูดไม่ออก และเดินตามกันไปเพื่อกลับบ้านของตัวเองที่ชนบท (จบ)
มีนักเขียนคนหนึ่งวิจารณ์ว่า เขาประทับใจเรื่องตอนที่โจรป่าไม่ขโมยชุดกิโมโนของผู้หญิงด้วย (ทั้งๆ ที่สมัยก่อนโจรมักจะขโมยชุดกิโมโนเพราะมีราคาแพง) แล้วชมโจรป่าว่าฉลาดหัวดี ส่วนฝ่ายสามีกับภรรยาช่างน่าสงสารจริงๆ เป็นเรื่องโง่ที่จะให้คันธนูและลูกธนูแก่คนแปลกหน้าที่พบเจอในป่าบนภูเขา ในที่สุดก็ไม่มีใครรู้ว่าโจรป่าคนนั้นเป็นใคร
สมัยก่อนมีเรื่องเล่าที่เป็นต้นกำเนิดแนวคิดเรื่องเหล่านี้จากหนังสือ คนจากุโมโนกาตาริชู 今昔物語集 Konjaku Monogatarishū ที่เขียนในยุคเฮอันเมื่อพันกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมผลงานเรื่องเล่ามุขปาฐะที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นมากมาย เป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนา นิยายทั่วไป อาจจะเป็นเรื่องเล่าทั้งจากอินเดีย จีน และญี่ปุ่นเอง ซึ่งคนจากุโมโนกาตาริ เป็นหนังสือที่ค่อนข้างจะมีเรื่องราวที่ดีๆ มากมายที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนสมัยใหม่นี้นำเรื่องมาดัดแปลงอีกหลายๆ เรื่องที่มีชื่อเสียง เช่น รีวโนซูเกะ อากูตางาวะ, ราโชมอน* ( เป็นหนังสือ , และสร้างเป็นภาพยนตร์) คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จักครับ
*ราโชมอน (ย่อ) เป็นเรื่องราวคดีฆาตกรรม ที่เกิดบริเวณประตูราโชมอน เริ่มต้นด้วยการเดินทางเข้าไปในป่าของซามูไรและภรรยา ในระหว่างทางไปพบโจรป่า โจรอ้างว่าเพราะลมพัดเพียงวูบเดียว ทำให้เห็นใบหน้าสวยของภรรยาซามูไรจากนั้นจึงออกอุบายกับซามูไรว่าจะมีดาบเก่าขายให้ในราคาถูกๆ หากสนใจให้เข้าไปดูด้วยกันในป่า ซามูไรหลงกลก็เดินเข้าป่าไปด้วยกัน และซามูไรก็โดนโจรจับมัดไว้ที่ต้นไม้ จากนั้นโจรหลอกล่อภรรยาสาวของซามูไรเข้าไปในป่านั้นแล้วหลับนอนกับเธอต่อหน้าสามีเธอ...ฯ
ซึ่งผมก็คิดว่าเรื่อง โจรปล้นธนูและภรรยาของนักเดินป่านี้เป็นเรื่องที่เขียนออกมาได้ดี โดยเฉพาะประเด็นที่นักเขียนสมัยใหม่วิจารณ์กันและผมก็คิดว่ามันมีความยอดเยี่ยม เนื่องจากตามที่นักเขียนได้วิจารณ์ไปข้างต้น สองสามีภรรยาคงจะไม่ได้ไปแจ้งตำรวจเพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้เพราะว่าอาจจะทำให้พวกเขาเกิดความอับอายขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นมุมมองที่สะท้อนพฤติกรรมคนญี่ปุ่นและสร้างความประทับใจให้คนทั่วไป ขนาดต้นฉบับเขียนเรื่องราวไว้นานเป็นพันปีแล้วผู้คนก็ยังแชร์และพูดถึงจนทุกวันนี้ ส่วนถ้าโยงถึงเรื่อง NTR ก็คงเป็นรุ่นแรกของ NTR เลยเชียวและเป็นไปได้ว่าคนญี่ปุ่นอาจจะชอบแนวนี้มาตั้งแต่พันกว่าปีที่แล้วก็ได้ วันนี้เล่าสู่กันฟัง สวัสดีครับ
