ญี่ปุ่นจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 31 ต.ค. การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครหน้าใหม่จำนวนไม่น้อย แต่คนเหล่านี้มีชื่อนามสกุลที่คุ้นเคยอย่างยิ่ง เพราะเป็นทายาทตระกูลนักการเมืองที่สืบทอดอำนาจจากรุ่นสู่รุ่น
นายซูซูมุ ยามางูจิ วัย 38 ปี เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหน้ารุ่นใหม่ของจังหวัดไซตามะ บิดาของเขาคือ นายไทเม ยามางูจิ วัย 72 ปี นักการเมืองคนสำคัญของพรรค LDP และเป็นสส.เจ้าของพื้นที่มานาน 25 ปี เขาส่งลูกชายไปฝึกงานเป็นเลขาของนายโยชิฮิเดะ ซูงะ อดีตนายกฯ ญี่ปุ่น ในสมัยที่นายซูงะเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อปูเส้นทางการเมืองให้กับทายาท
นายซูซูมุ ยามางูจิ บอกว่า เขาจะสืบสานแนวทางการเมืองของพ่อ พัฒนาบ้านเกิด บรรดาผู้สนับสนุนพรรค LDP พากันมาช่วยเขาหาเสียง โดยบอกว่าอย่าลืมผลงานของยามางูจิผู้พ่อ และโปรดสนับสนุนยามางูจิผู้ลูก
ชิโอซากิ ยาซูฮิสะ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของนายชินโซ อาเบะ ขณะนี้อายุ 70 ปี ก็ประกาศวางมือทางการเมือง และให้ลูกชายรับไม้ต่อลงสมัครรับเลือกตั้งที่จังหวัดเอฮิเมะ
นอกจากนี้ บรรดา “ผู้อาวุโส” ในพรรค LDP อีกหลายคนก็ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ และส่งต่อเส้นทางการเมืองให้กับทายาท ตามนโยบายของนายฟูมิโอะ คิชิดะ ประธานพรรค ที่ประกาศว่าพรรค LDP จะ “ผลัดใบ” ไปสู่ยุคของคนรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม นายคิชิดะ รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน เช่น นายชินโซ อาเบะ และสส. ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นล้วนก็มาจากตระกูลนักการเมืองที่สืบทอดอำนาจมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อจนถึงลูกหลาน
ตระกูลการเมืองที่สืบทอดอำนาจไม่ได้มีเฉพาะในญี่ปุ่น แต่จำนวนนักการเมืองจากตระกูลอำมาตย์ในญี่ปุ่นมีจำนวนมากกว่าประเทศอื่น ๆ
ในบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค LDP ครั้งนี้ 336 คนมี 104 คน หรือ 31% มาจากตระกูลนักการเมือง ขณะที่ฝั่งประชาธิปไตยแห่งรัฐธรรมนูญ แกนนำพรรคฝ่ายค้าน มีผู้สมัครที่มาจากตระกูลนักการเมืองราว 12.1%
ศาตราจารย์อูจิยามะ ยู แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ระบุว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP มีวัฒนธรรมสืบสานอำนาจตระกูลการเมือง เนื่องจากทายาทตระกูลการเมืองมีคุณสมบัติเด่น 3 ประการที่ทำให้มีโอกาสชนะเลือกตั้งสูง คือ มีฐานเสียง มีชื่อเสียง และมีเงินทุน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองกล่าวว่า การประสบความสำเร็จทางการเมืองต้องมีทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ มิเช่นนั้นต่อให้มีความรู้ มีปณิธาน แต่โอกาสที่จะมีที่ยืนทางการเมืองก็น้อยมาก
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เป็นนายกฯ เพียงไม่กี่คนที่มาจากสามัญชน ในช่วงที่เป็นผู้นำพรรค LDP เขาเคยเสนอให้ปรับปรุงกฎระเบียบของพรรค จำกัดการสืบทอดอำนาจของตระกูลการเมือง แต่เขากลับต้องพ้นจากอำนาจไปเสียก่อน
หลังจากนายฟูมิโอะ คิชิดะ เป็นนายกฯ คณะรัฐมนตรีของเขากลับเป็น “เหล้าใหม่ในขวดเก่า” เช่น นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลัง บิดาของเขาก็คือ นายเซนโก ซูซูกิ อดีตนายกรัฐมนตรี ตัวนายคิชิดะเองก็เล่นการเมืองต่อจากทั้งพ่อและปู่ ที่เคยเป็น สส.
ด้านพรรคฝ่ายค้าน ถึงแม้จะมีตระกูลการเมืองที่น้อยกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ซึ่งการสืบทอดอำนาจเช่นนี้ ผู้สมัครหลายคนก็เป็นลูกหลานของ สส. เจ้าของพื้นที่ นายยูกิโอะ เอดาโนะ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยแห่งรัฐธรรมนูญ บอกว่า ตระกูลการเมืองไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป ทายาทของนักการเมืองเป็นคนคุ้นเคยของประชาชนในพื้นที่ “ใจถึงพึ่งได้” มากกว่าคนใหม่แปลกหน้า
ขณะที่สังคมญี่ปุ่นมีความอนุรักษ์นิยมสูง ประชาชนจึงมีแนวโน้มที่จะเลือกทายาทนักการเมือง และก็เป็นสาเหตุที่ทำให้พรรค LDP ครองอำนาจได้อย่างยาวนานไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่ามรดกอำนาจเช่นนี้จะทำให้การเมืองเป็นเสมือน “กิจการในครอบครัว” ก็ตาม.