ญี่ปุ่นห่วงเรียนออนไลน์ทำเด็กเครียด อาจถึงฆ่าตัวตาย

กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยสถิตินักเรียนฆ่าตัวตายครึ่งปีนี้ 270 คน คาดสาเหตุส่วนหนึ่งเพราะโรคระบาดทำให้นักเรียนบางส่วนต้องเรียนออนไลน์อยู่กับบ้าน จนเครียดและซึมเศร้า

กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น รายงานสถิตินักเรียนประถมและมัธยมฆ่าตัวตายตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม ปีนี้ 270 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน 29 ราย โดยตลอดทั้งปี 2563 มีนักเรียนฆ่าตัวตาย499 ราย เป็นสถิติสูงที่สุดตั้งแต่รวบรวมมา

ในจำนวนนักเรียนที่จบชีวิตตัวเอง 270 รายนั้นเป็นนักเรียนชั้นประถม 7 ราย มัธยมต้น 75 ราย และมัธยมปลาย 188 ราย


ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า เด็กญี่ปุ่นที่ฆ่าตัวตายมักมาสาเหตุจากการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน แต่หลังจากโรคโควิด-19 ระบาด โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดเรียน เด็กๆ ต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้บางคนต้องมีปัญหากับพ่อแม่ที่ต้องทำงานที่บ้านเช่นกัน เด็กจะรู้สึกว่าไม่มีพื้นที่และเวลาส่วนตัว อึดอัดอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ เด็ก ๆ ยังสูญเสียการเข้าร่วมกิจกรรมที่โรงเรียน ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้เด็กได้รับความสำเร็จ และความสุขที่ได้ใช้เวลากับเพื่อนฝูง การเก็บตัวอยู่กับบ้านเพราะโรคระบาด ทำให้เด็กไม่มีใครที่จะระบายความกลัดกลุ้มและไม่สบายใจ


ญี่ปุ่นใช้การเรียนออนไลน์น้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โรงเรียนประถมและมัธยมแทบจะไม่ใช้การเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ โดยให้นักเรียนเฉพาะที่มีสมาชิกครอบครัวติดเชื้อเรียนออนไลน์ แต่มาตรการป้องกันโรคระบาดก็ทำให้ไม่สามารถเรียนแบบเต็มชั้นเรียนได้ บางโรงเรียนให้นักเรียนสลับเวลามาเรียน ไม่สามารถกินอาหารร่วมกันได้ กิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนก็ลดลงอย่างมาก

องค์กรพิทักษ์เด็กและโรงเรียนกำลังหามาตรการเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ทำให้เด็กๆ รู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ เช่น เพิ่มโอกาสให้เด็กที่เผชิญความยากลำบากจากโรคระบาดได้มีที่ปรึกษาและมีกิจกรรมนอกบ้าน รวมทั้งสอนให้เด็กประเมินตัวเองว่ากำลังเครียด ซึมเศร้า และรู้วิธีขอความช่วยเหลือ.