สวัสดีครับ เมื่อมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก็ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการสื่อสารทั้งข่าวสาร การส่งต่อข้อมูล และสืบหาแหล่งความรู้ต่างๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ นวัตกรรมของโลก เกิดความความทันสมัย เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เกิดสื่อสังคมออนไลน์ สื่อสังคมโซเชียลมีเดียที่มีการแชร์ข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น และสามารถค้นหาแหล่งที่มาได้ง่ายและไวขึ้น มีตัวอย่างเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อประมาณเจ็ดปีก่อนที่ญี่ปุ่นครับ ตอนนั้นมีนักวิจัยสาวคนหนึ่งโพสต์เรื่องผลการวิจัยเซลล์ที่สามารถยั้บยั้งการเกิดโรคมะเร็งชนิดหนึ่งได้ จากนั้นก็มีนักอ่านจำนวนมากเข้ามาแสดงความยินดีและชื่นชมผลงานที่เธอนำเสนอ ต่างก็ยกย่องชื่นชมว่านับว่าเป็นความรู้ที่ดีมาก มีคุณค่าขนาดนี้สมควรต้องได้รางวัลโนเบลแล้วล่ะ แต่ก็มีนักอ่านอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่ปักใจเชื่อนัก จึงไปสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมและได้ความว่าเรื่องที่เธอนำมาโพสต์นั้น เป็นบทความที่ก๊อปปี้มาจากผลงานการวิจัยของคุณหมอนักวิจัยท่านหนึ่ง เมื่อคนรู้ความจริงก็พากันต่อว่าสาวคนนั้นแต่ก็แค่พอเป็นพิธีคงเพราะเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายน่าจะโดนถล่มมากกว่านี้ และต่อจากนั้นทำให้นักอ่านทั่วไปเกิดความลังเลสงสัยในบทความทางวิชาการที่มีคนนำมาโพสต์มากขึ้นว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
เรื่องการคัดลอกและวาง หรือก๊อปปี้แอนด์เพลส ( copy and paste コピー&ペースト)นั้นขอให้ความหมายของคำว่าก๊อปปี้ในที่นี้ว่า การลอก/เลียนแบบและอาจจะนำข้อมูลของคนอื่นมาแชร์และอาจจะแสดงออกว่าเป็นข้อมูลของตนเอง ซึ่งที่ญี่ปุ่นเองก็มีมากมายหลายเคส สมัยที่ผมเรียนจบใหม่ๆ ตอนนั้นทุกคนใช้คอมพิวเตอร์กันเป็นปกติแล้ว เรื่องการก๊อปปี้และวาง และบางคนก็นำข้อมูลนั้นๆ มาแชร์ก็มีเยอะขึ้น จนมีประกาศห้ามในหลายสถาบันว่าถ้าเจอใครก๊อปปี้ข้อมูลคนอื่นมาจะโดนลงโทษ ครูอาจารย์ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะต้องเสียเวลาไปตรวจสอบว่าเป็นข้อมูลของคนอื่นหรือไม่ แต่สมัยนั้นเรื่องการก๊อปปี้และนำข้อมูลมาแชร์กันนั้น บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่น่ารักและดีต่อใจ ซึ่งวันนี้มีเรื่องที่เป็นที่นิยมมากในบรรดานักเล่นโซเชี่ยลมีเดียสมัยก่อนที่อยากนำมาให้อ่านเล่นๆ กันในวันนี้ 2 เรื่องครับ คือ เรื่องเมื่อนักเลงไปร้านโยชิโนยะ กับ เรื่องกล้องดิจิทัลของท่านแม่
●เมื่อนักเลงไปร้านโยชิโนยะ
★ก่อนอื่นขออธิบายเพิ่มเติม ในมุมมองของคนญี่ปุ่นในสังคมญี่ปุ่น ส่วนใหญ่มองว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารที่ได้รับการยอมรับจากตลาดมากพอสมควรเพราะคนญี่ปุ่นชอบกินข้าวหน้าเนื้อ ร้านนี้ มีความโดดเด่นด้วยเมนูข้าวหน้าเนื้อหรือที่เรียกว่า “กิวด้ง” ร้านนี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่ตลาดปลาและค่อยๆ เปลี่ยนรูปแบบร้านเป็นแบบบริการตัวเองเป็นหลักแต่ก็พัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยมาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้จะขายแค่เมนูข้าวหน้าเนื้อเพียงอย่างเดียว ในปัจจุบันมีหลายเมนู เช่น ปลาแซลมอน อุด้ง แกงกะหรี่ เป็นต้น เป็นการขยายฐานลูกค้าไปด้วยในตัวเพราะมีรายการเมนูที่หลากหลายขึ้น นอกจากนั้นลูกค้าส่วนใหญ่จะสั่งอาหาร Set หลัก แล้วเพิ่มข้าว เพิ่มสลัด เพิ่มหัวหอม เพิ่มไข่ เพิ่มซุป อีกด้วย ที่ญี่ปุ่นมองว่าเป็นร้านอาหารที่มีสไตล์ที่เหมาะกับคนที่ทำงานทั่วไปโดยเฉพาะแนวช่าง แรงงาน ก่อสร้างพนักงานบริษัท หรือคนที่ต้องการกินอาหารปริมาณเยอะแต่ราคาถูกและต้องการความรวดเร็ว ไม่ใช่ร้านแนวคาเฟ่ นั่งชิล หรือนั่งคุยกันเพลินๆ ใช้เวลานานๆ กับเพื่อนและครอบครัว
▽คนเล่าเรื่องคือคนที่ไปใช้บริการที่ร้านเป็นประจำ (ขาประจำ)
🤠เมื่อวานนี้ผมไปร้านโยชิโนยะใกล้บ้าน
อะไรหว่า มันเป็นวันอะไรทำไมคนเยอะขนาดนี้ เยอะจนผมหาที่นั่งไม่ได้
😼ผมว่ามันต้องเป็นเพราะไอ้ประกาศลดราคา 150 เยน นี้แน่ๆ บ้าเอ้ย โง่เอ้ย ปกติแล้วพวกเอ็งไม่ได้มานี่เพื่อรับส่วนลด 150 เยนนี่ คนเยอะบ้าไปแล้ว
😾นั่นดูสิ เหมือนกับว่ามีพ่อแม่บางคนจะพาลูกๆ มาด้วย นี่มันร้านโยชิโนยะนะเฟ้ย มันใช่ที่สำหรับพาครอบครัวสี่คนมาไหมเนี่ย เหอะ! น่ายินดีด้วย
😬ดูคนพ่อมาทำเท่ห์โชว์กินอาหารจานใหญ่ให้ลูกดูใช่ไหมเนี่ย ผมไม่ได้มองนะ!!
🤫อ่ะพวกคนที่มีที่นั่ง เอาไปเลย 150 เยน เอาไปเลย เอาที่นั่งมาให้ผมหน่อยเถอะ
😧ร้านโยชิโนยะมันเป็นร้านที่คนแนวดิบๆ เถื่อนๆ มากินนะไอ้พวกที่มาชิลกับครอบครัวมันใช่ป้าวเนี่ย ดูดิโต๊ะนั่งรูปตัวยู ที่พร้อมมองหน้าและพร้อมบวกกับคนที่นั่งตรงหน้า มันเป็นเรื่องปกติของที่นี่นะเฟ้ย
🤤แต่ผมว่ามันก็ดีที่มีบรรยากาศแบบนั้น ไม่รู้ว่าจะถูกแทงหรือไม่ถูกแทง เด็กและผู้หญิงกินข้าวอยู่บ้านเถอะไป
😮จากนั้น เมื่อผมสามารถหาที่นั่งได้ ก็เห็นคนข้างๆ ก็สั่งซุปเพิ่มแบบขอน้ำเยอะๆ ขอถ้วยใหญ่ ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง !🥴
🤒เดี๋ยวนี้ซุปแบบนั้นมันไม่ค่อยนิยมสักเท่าไหร่แล้วนะไอ้น้องเอ้ย ..ดูๆ มันทำอะไรน่ะ ยังมาทำหน้ากวน ภูมิใจ?
🤨ผมอยากจะถามว่าน้องเอ้ยเอ็งอยากกินน้ำซุปจริงๆ หรอ อยากจะถามจริงๆ ขอเวลาสักหน่อยเด้ เลอะเทอะเอ้ย!
😎จะบอกให้นะ ถ้าถามว่าร้านโยชิโนยะมีอะไรที่กำลังฮิตล่าสุดนะเหรอ ก็คงจะเป็นชุดข้าวหน้าเนื้อเพิ่มข้าวแบบขอหัวหอมเยอะๆ นี่แหละ อิ่มดี!!
หัวหอมเยอะๆ เนื้อน้อย สั่งไข่เพิ่ม นี่คือวิธีการสั่งของคนที่รู้จักร้านนี้เป็นอย่างดี รู้ป่าว!
🤓แต่ว่าหากจะสั่งอาหารแบบนี้ อาจมีอันตรายได้นะ พนักงานจะหมายหัวคนสั่งไว้เลย ซึ่งก็ไม่แนะนำสำหรับมือสมัครเล่นเท่าไหร่หรอก
ฉะนั้นคนทั่วไปสั่งชุดเนื้อหรือชุดปลาแซลมอนธรรมดาๆ ไปเถ้อะ!
-จบ-
●เรื่องกล้องดิจิทัลของท่านแม่
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม่ของผมก็เป็นคนที่ไม่มีเซนส์หรือความรู้เรื่องเครื่องมือเครื่องจักรเลย และเมื่อเธอซื้อกล้องดิจิทัลมา และเล่นถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน จนเมมโมรี่เต็ม!😒😞
👵🏻 J( 'ー`)し ホラ。デジカメカッタノ Hora กล้องดิจิทัล!!📸
เห็นได้ชัดว่าเธอดูมีความสุข ยิ้มร่าเริงและได้ถ่ายรูปมากมาย ดูน่าสนุกสนาน
แต่จากนั้นไม่นานดูเหมือนว่าหน่วยความจำของกล้องจะเต็ม หลังจากนั้นผ่านไปสองสามวันที่เธอไม่สามารถถ่ายรูปได้ เธอขอให้ผมช่วย
👵🏻 ช่วยหน่อยลูก แม่ต้องทำอย่างไร?
👦🏻ผมตะโกนว่า "ผมยุ่งอยู่ อ่านคู่มือสิ!"
ผมยุ่งมากบอกให้แม่อ่านคู่มือเอาเอง !!!!
__,มีแต่เรื่องน่าเบื่อ__,
J( 'д`)し ~ \(Д´#) _ถ่ายแต่รูปไม่เข้าเรื่องละสิ!
( っ[l◎]
👵🏻 แม่พูดเศร้าๆ ว่า "... แม่ขอโทษ"
....
แล้วแม่ของผมก็เสียชีวิตไปเมื่อวันก่อน
วันที่ผมพอจะว่าง ก็อยากรู้ว่าแม่ถ่ายอะไรไว้เต็มพื้นที่ ผมสงสัยว่าแม่ถ่ายอะไรนักหนา
พอลองเอามาเปิดดู
นั่นมั่นรูปใบหน้าตอนที่ผมนอนหลับนี่ ... ผมหยุดร้องไห้ไม่ได้เลยครับ 😭
-จบ-
อ่านตัวอย่างเรื่องก๊อปปี้แอนด์เพลสสมัยก่อนที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบกันเล่นๆ เพลินๆ ครับ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาเองหรือเปล่า แต่การเขียนเรื่องแนวนี้แล้วมีคนชื่นชอบเรื่องราวและนำไปแชร์ต่อเยอะมาก เรื่องนี้แชร์มาตั้งแต่สมัยที่คนยังใช้คอมพิวเตอร์และใช้อินเทอร์เน็ตก๊อปปี้และแชร์ผ่านช่องทางอีเมลบ้าง ข้อความบ้าง เรื่องมีราวที่ถูกส่งต่อมาให้อ่านแบบนี้ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นมองว่า คนเขียนมีวรรณศิลป์ในการเขียน และสะท้อนสังคมญี่ปุ่นด้วย และถ้ามองในแง่ดีอย่างน้อยก็ให้ข้อคิดให้กำลังใจและอ่านเพลิน ทุกวันนี้แม้แต่คนที่ไม่ค่อยเน้นเรื่องการถ่ายภาพก็ใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้นเพราะสะดวกใช้งานง่าย และปัจจุบันการแชร์เรื่องราวต่างๆ ก็จะไวขึ้นและมีเรื่องที่หลากหลายมาก ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านและการส่งต่อดีๆ วันนี้สวัสดีครับ