ญี่ปุ่นเริ่มใช้ “แอสตราเซเนกา” ในประเทศ หวังปิดเกมวัคซีนภายในเดือนพ.ย.

รัฐบาลญี่ปุ่นจัดส่งวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” ให้กับจังหวัดต่าง ๆ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงกว่า 20,000 คนต่อวัน โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกคนที่ต้องการภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน

วัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” ได้รับการอนุมัติให้ใช้ภายในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แต่เนื่องจากผลข้างเคียงของวัคซีนที่อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่นำวัคซีนนี้ใช้กับประชาชนทั่วไป โดยในญี่ปุ่นใช้วัคซีน 2 ชนิด คือ ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา

แต่เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงกว่าวันละ 20,000 คน ขณะที่ผู้ติดอาการหนักก็สูงเป็นประวัติการณ์ และผู้เสียชีวิตที่เคยมีไม่ถึง 10 คนต่อวัน ก็เพิ่มขึ้นเป็น 47 คนเมื่อวานนี้ (17 ส.ค.)


รัฐบาลญี่ปุ่นจึงตัดสินในนำวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” ออกมาใช้กับประชาชนในจังหวัดที่อยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และหลังจาก 23 ส.ค. จะขยายพื้นที่แจกจ่ายให้ทั่วประเทศ โดยมีเงื่อนไขของผู้ที่จะรับวัคซีน คือ

- อายุ 40 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่แพ้วัคซีน mRNA อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่เคยได้รับวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า ในต่างประเทศ 1 เข็ม

จังหวัดโอซากาได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว 350,000 โดส และเปิดให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติข้างต้นจองฉีดตั้งแต่เมื่อวานนี้ มีผู้จองมากถึง 99.1% ในจำนวนนี้มีผู้ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี 4 คน


การเปิดทางให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อเร่งการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในกลุ่มคนอายุ 40-50 ปี ซึ่งขณะนี้เป็นผู้ติดเชื้อและผู้มีอาการหนักกลุ่มใหญ่ที่สุด นอกจากนี้วัคซีนแอสต้ราเซนเนก้าผลิตได้ในญี่ปุ่น ไม่ต้องนำเข้า จึงเพิ่มการผลิตได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนหนึ่งยังมีความกังวลผลกระทบของวัคซีนชนิดนี้ แต่การจองวัคซีนไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา สำหรับกลุ่มคนอายุน้อยขณะนี้ยังค่อนข้างยาก เพราะจำนวนวัคซีนที่กระทรวงสาธาณสุขกระจายให้กับจังหวัดต่าง ๆ ถูกตัดลดลงอย่างมาก เพื่อสำรองไว้ให้ที่ถึงกำหนดรับวัคซีนเข็มที่ 2 ก่อนหน้านี้ หลายจังหวัดต้องระงับการจองวัคซีนเข็มแรกชั่วคราว

คณะแพทย์ได้ให้ความเห็นว่า วัคซีนทุกชนิดไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่ลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ การฉีดวัคซีนมีข้อดีมากกว่าผลข้างเคียง ขอให้ประชาชนอย่าเลือกวัคซีน เข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด.