กลุ่มผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรหลายคนในญี่ปุ่นถูกปฏิเสธที่จะได้รับวัคซีนโควิด-19 เพราะแพทย์กังวลความปลอดภัย ถึงแม้กระทรวงสาธารณสุขจะยืนยันว่าสามารถรับวัคซีนได้
คุณแม่มือใหม่วัย 35 ปีรายหนึ่งที่มีกำหนดคลอดในเดือนกันยายน เล่าว่า เธอถูกปฏิเสธจากแพทย์ไม่ให้รับวัคซีน ถึงแม้เธอจะยืนยันประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข และสมาคมสูตินรีเวชวิทยาแห่งญี่ปุ่นที่ระบุว่า วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอนาที่ญี่ปุ่นใช้ฉีดให้กับสตรีมีครรภ์และให้นมบุตรได้ตามคำแนะนำจากแพทย์
คุณแม่มือใหม่รายนี้พยายามโต้แย้งว่าเธอสามารถฉีดวัคซีนได้ แต่แพทย์ก็ยังยืนยันไม่ให้เธอรับวัคซีน
ก่อนฉีดวัคซีนที่ญี่ปุ่น ผู้ที่จะรับวัคซีนจะต้องกรอกใบประเมินสุขภาพที่มีคำถามต่างๆ และมีข้อหนึ่งระบุว่า "ขณะนี้ท่านมีแนวโน้มตั้งครรภ์ (ประจำเดือนมาช้า) หรือกำลังให้นมบุตรหรือไม่ ? และแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าสามารถรับวัคซีนได้หรือไม่
สูตินรีแพทย์หลายคนบอกว่า คำถามในใบประเมินผลสุขภาพนี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรรับวัคซีน
ด้านกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุว่า จำเป็นต้องคัดกรองสตรีมีครรภ์และให้นมบุตรเป็นกลุ่มที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษก่อนเข้ารับวัคซีน เพราะหลังรับวัคซีนอาจมีไข้สูง หรืออาการแพ้ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของแม่และทารกในครรภ์ได้ นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลของผู้ที่ได้รับวัคซีนในกลุ่มต่าง ๆ อย่างครอบคลุม
หญิงสาวรายนี้และสามีได้ยื่นคัดค้านไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบการฉีดวัคซีน ซึ่งสุดท้าย แพทย์ยินยอมฉีดวัคซีนให้หลังจากแจ้งว่า เธอต้องยอมรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
สมาคมสูตินรีเวชวิทยาแห่งญี่ปุ่นระบุว่า สตรีมีครรภ์รับวัคซีนได้หากได้รับการปรึกษาจากแพทย์ และการวิจัยในต่างประเทศยังไม่พบว่ามีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อแม่และทารก ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนจะส่งผลคุ้มครองต่อทั้งแม่และเด็ก
การวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร New England Journal of Medicine พบว่า วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอนา ไม่มีผลข้างเคียงที่แตกต่างระหว่างสตรีมีครรภ์และคนทั่วไป และไม่มีความแตกต่างที่จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติของทารก การคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักทารกน้อยกว่าปกติ
แพทย์ระบุว่า การปฏิเสธให้วัคซีนกับสตรีมีครรภ์จะทำให้พวกเธอตกอยู่ใต้ความเสี่ยง เพราะหากติดเชื้อจะมีอาการรุนแรง เนื่องจากในช่วงตั้งครรภ์ มดลูกจะดันกระบังลมให้เคลื่อนตัวขึ้นไปเบียดกับปอด ทำให้หายใจยากกว่าปกติอยู่แล้ว หากเกิดติดเชื้อก็จะมีแนวโน้มที่อาการปอดอักเสบรุนแรงกว่าปกติ.