ญี่ปุ่นให้ความสนใจการเปิดเกาะภูเก็ตให้นักท่องเที่ยวมาเยือนได้อีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่กับการควบคุมโรคระบาด ถ้าประสบความสำเร็จอาจนำมาใช้หลังงานโตเกียว โอลิมปิก
ตั้งแต่การระบาดของโควิดเมื่อกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกาะภูเก็ตที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวมากถึงร้อยละ 90 เปลี่ยนจาก “เกาะสวรรค์” กลายเป็น “เกาะร้าง” นักท่องเที่ยวต่างชาติแทบจะเป็นศูนย์ ชายหาดร้างผู้คน ธุรกิจต่าง ๆ ได้รับผลอย่างหนัก
ชาวญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับช้างและท้องทะเลที่สวยงามของภูเก็ตบอกว่า รายได้ลดลงมากถึงร้อยละ 80
เมื่อเทียบกับช่วงโควิดระบาด จนแทบจะไม่สามารถจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคนได้ครบ แต่เธอต้องตัดสินใจนำรายได้ที่มีอยู่ใช้เป็นค่าอาหารและค่าเลี้ยงดูช้างก่อน
วันที่ 1 กรกฎาคม ภูเก็ตได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งตามโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ซึ่งหมายถึง “กระบะทราย” ที่เด็ก ๆ เล่นได้อย่างเสรีภายในพื้นที่โดยมีทรายช่วยป้องกันไม่ให้เจ็บตัวหากล้มลง คำนี้ถูกนำมาใช้กับการจำกัดพื้นที่เพื่อทดลองทำบางสิ่ง โดยมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นตามมา รัฐบาลไทยได้ทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งโดยมีมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด
นักท่องเที่ยวที่มาถึงเกาะภูเก็ตจะได้รับการยกเว้นจากการกักตัว หากได้รับวัคซีนครบแล้ว และตรวจพบว่าไม่ติดเชื้อโควิดเมื่อมาถึงสนามบิน นักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่มาถึงภูเก็ตต่างบอกว่า รู้สึกดีมากที่ได้กลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง และจะพักผ่อนให้เต็มที่
ชาวญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวในภูเก็ตระบุว่า “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เป็นโครงการที่จำเป็น เพราะหากมัวแต่นั่งรอท่ามกลางความกังวล การทดลองเดินหน้าอาจจะให้ผลที่ดีกว่า
นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าภูเก็ตจะต้องมีเงื่อนไขคือ โดยสารเที่ยวบินตรงมายังภูเก็ต, ท่องเที่ยวและทำกิจกรรมอยู่ภายเกาะภูเก็ตเท่านั้น และมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงโควิดระดับต่ำถึงปานกลาง ซึ่ง ญี่ปุ่นยังไม่อยู่ในประเทศที่เข้าร่วม “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ได้
อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวภูเก็ตบางส่วนก็บอกว่า ยังไม่อยากให้เปิดการท่องเที่ยวท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ กลัวว่าจะกลับมาระบาดหนักอีกรอบ
สื่อมวลชนญี่ปุ่นตั้งคำถามว่า การฟื้นฟูการท่องเที่ยวและการควบคุมโรคคระบาดจะทำควบคู่ไปด้วยกันได้หรือไม่? ในขณะที่รัฐบาลไทยตั้งเป้าหมายว่าจะทดลองเปิด “แซนด์บ็อกซ์” ในพื้นที่อื่นๆ อีก
ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เป็นโครงการที่น่าจับตามอง หลายประเทศในยุโรปก็เริ่มจะให้ประชาชนเดินทางระหว่างประเทศได้อีกครั้ง โดยใช้ “วัคซีนพาสปอร์ต” โดยในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ ญี่ปุ่นก็พึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างมากเช่นเดียวกัน หากมาตรการควบคุมโรคระบาดที่ญี่ปุ่นใช้ในช่วงงาน “โตเกียวโอลิมปิก” ได้ผลดี รัฐบาลก็ควรนำกรณีศึกษาจากหลาย ๆ ประเทศมาเป็นตัวอย่างเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกครั้ง.