xs
xsm
sm
md
lg

ลุงญี่ปุ่นมองว่าวัยหนุ่มสาว 20-30 ปี เป็นคนเรื่อยเปื่อย ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว อาทิตย์ที่แล้วผมพูดถึงความยากลำบากในการทำงานของมนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นเทียบกับช่างแรงงานก่อสร้างพีระมิดที่อียิปต์ เพราะหลายคนมองว่าสภาพการทำงานของมนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นต้องทำงานหนัก มีชั่วโมงทำงานยาวนาน เหนื่อยโหด จะพักดื่มน้ำก็ต้องแอบทำเพราะกลัวถูกเคลม และนอกจากนั้นในองค์กรบริษัทญี่ปุ่นก็มีคนหลายรุ่นที่ต้องมาทำงานร่วมกัน ซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะของแต่ละช่วงวัย มีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกัน บ้างก็เข้ากันได้ บ้างก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว


คนหลายรุ่นที่ต้องมาทำงานร่วมกันนั้น ขอยกตัวอย่างสามรุ่นที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ จากการสํารวจความตะหนักรู้เกี่ยวกับค่านิยมชีวิตและความเป็นอยู่สําหรับคนญี่ปุ่น คือ
 ・ รุ่น Yutori Generation : รุ่นที่เกิดในช่วงปี Heisei และได้รับการศึกษาในหลักสูตรที่ลดเนื้อหาการเรียนรู้ลง (ปัจจุบันอยู่ในช่วงอายุประมาณ 20-30 ปี+ นิดหน่อย )
 ・ รุ่น Lost Generation : รุ่นที่คนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากช่วงฟองสบู่แตก (ปัจจุบันอยู่ในช่วงอายุประมาณ 35-49 ปี)
 ・ รุ่น Bubble Generation : รุ่นของการจ้างงานในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ ในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู อยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น ผู้คนใช้จ่ายสูง แต่ก็มีรายได้มาก ( ปัจจุบันอยู่ในช่วงอายุประมาณ 50-55 ปี)


ญี่ปุ่นสมัยก่อนมีนโยบายสร้างประเทศให้แข็งแกร่ง โดยการสร้างทหารและกองทัพ แต่เมื่อแพ้สงครามโลกทำให้มุมมองการสร้างกองทัพเปลี่ยนไป โดยมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจและเทคโนโลยี จนกลายเป็นประเทศที่ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เมื่อฐานะทางเศรษฐกิจดีมาก นโยบายการสร้างคนของรัฐจึงออกมาที่ "ต้องทำให้คนรุ่นต่อๆ ไปมีความเป็นอิสระและมีลักษณะเฉพาะบุคคล " เป็นที่มาของการศึกษาแบบผ่อนปรน ที่ปรับปรุงใหม่โดยลดระดับความเข้มข้นของหลักสูตรลง ซึ่งฟังดูดีที่จะทำให้คนรุ่น Yutori มีความผ่อนคลายลดความจริงจังลง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักถ้าต้องฝากให้พวกเขาขับเคลื่อนประเทศในอนาคต


ด้วยวัยแรงงานญี่ปุ่นผู้ที่อยู่ในช่วงวัย 30 ต้นๆ หรือเรียกว่าช่วงวัย ゆとり世代 Yutori generation นั้น มักจะถูกคนญี่ปุ่นรุ่นลุงมองว่าเป็นรุ่นที่ทำงานไม่ได้ คำว่ายูโตริ Yutori มีความหมายในลักษณะ“เอ้อระเหย” หรือ “เรื่อยเปื่อย” เฉื่อยๆ เนือยๆ ทำงานตามคำสั่ง เป็นคำที่ไม่ค่อยสุภาพนะครับเพราะว่าให้ความหมายในบริบทเชิงลบมากกว่า โดยรวมแล้วแม้ว่าคนรุ่นนี้จะไม่มีคนที่เก่งยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ แต่ทุกคนสามารถอ่านออกเขียนได้ตามปกติ แค่มีภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากคนญี่ปุ่นรุ่นก่อนๆ ที่เก่งเรื่องตัวเลข การคำนวน ติดการเรียนและขยันขันแข็งอย่างมาก

พนักงานที่มีอายุอยู่ในช่วงวัย Yutori generation จะมีบุคลิกภาพที่ค่อนข้างเรื่อยเฉื่อยมีความผ่อนคลายในชีวิต เพราะเป็นรุ่นที่เติบโตขึ้นมาภายใต้อิทธิพลของระบบการศึกษาที่มีความเข้มงวดลดน้อยลง เนื้อหาของคู่มือการศึกษาแบบไม่เข้มงวด รวมทั้งชั่วโมงเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นของลดลงอย่างมาก เนื้อหาของหลักสูตรที่ลดความเข้มข้นลง 30-40% ส่วนใหญ่เกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ตําราเรียนบางลงครึ่งหนึ่ง มีเนื้อหาที่ถูกตัดออก เช่น


● ตัดหลักสูตรการคํานวณพื้นที่สี่เหลี่ยมคางหมูที่รุ่นๆ ก่อนๆ ได้เรียนรู้ตอนประถมศึกษาปีที่ 5 ออกไป ทำให้พวกเขาคำนวนไม่ได้ และการคิดเชิงตรรกะไม่ดีเท่าที่ควร
● อัตราส่วนวงกลม อัตราส่วนเส้นรอบวง π เปลี่ยน 3.14 → เป็น 3 เลขกลมๆ
●นอกจากนั้นแล้วช่วงนั้นคุณครูผู้สอนจํานวนมากเคยเป็นพวกคอมมิวนิสต์ หมายถึงมีผลต่อพฤติกรรมของเด็กๆ อย่างแน่นอน
●ไม่ถูกปลูกฝังให้มีความพยายามด้วยตัวเอง หรือต้องฝ่าฟันให้ชนะ สมมุตว่ามีการวิ่งแข่ง เด็กๆ จะถูกสอนให้ทุกคนรอกัน จับมือกันแล้วรอเข้าเส้นชัยพร้อมๆ กัน และยกตัวอย่างคอร์สสอนว่ายน้ำ สมัยที่ผมเป็นเด็กเล็ก ผมต้องเรียนว่ายน้ำอย่างโหด ถึงแม้ผมจะเรียนช้าอย่างไร แต่ครูจะเข้มงวดและเด็กทุกคนในห้องต้องว่ายน้ำให้ได้ในที่สุด ผิดกับหลักสูตรการศึกษาของรุ่น Yutori จะเน้นแนวที่ว่า ใครทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องทำ ไม่ต้องพยายาม เด็กหลายคนในรุ่นนี้จึงว่ายน้ำไม่เป็น เป็นต้น

เมื่อเนื้อหาการเรียนรู้ลดลงประมาณ 30% ทำให้ความสามารถทางวิชาการของคนรุ่นนี้ลดลง ระบบการคิดของสมองลดลง จึงกลายเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องร่างคู่มือการเรียนรู้ฉบับปรับปรุงใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้คนรุ่น Yutori มีความแตกต่างจากคนช่วงวัยอื่นถ้าเทียบกับคนในช่วงวัยอื่นๆ ของประชากรญี่ปุ่น

เมื่อศึกษาหล่อหลอมคุณค่าของการใช้ชีวิตของแต่ละรุ่นดังกล่าว รวมทั้งความคิดพื้นฐานของมุมมองเกี่ยวกับคุณค่าของคนรุ่นYutori generation คนรุ่นอื่นๆ มองว่าลักษณะของพนักงานรุ่นยูโตริ Yutori generation นั้นมีแนวโน้มดังต่อไปนี้เมื่อเขาอยู่ในองค์กร


●เป็นพนักงานที่มีประสบการณ์น้อยตั้งแต่อายุน้อย เพราะไม่ถูกฝึกให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลําบาก ไม่ถูกปูพื้นให้มีความพยายามที่จะต่อสู้และริเริ่มสําหรับถนนสายใหม่ๆ

●พวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวและคนรอบข้างมาโดยตลอด ครอบครัวจะคอยช่วยและสร้างสภาพแวดล้อมให้ก่อนที่พวกเขาจะเจอปัญหาหรือพบกับความล้มเหลว เป็นสาเหตุที่เชื่อกันว่าทำให้พวกเขาขาดความสามารถในการเผชิญกับความเป็นจริงเพราะขาดประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาจากสภาพที่เป็นอยู่ ด้วยพลังความสามารถของตัวเอง

●ส่วนเรื่องลักษณะการทำงาน ตามความรู้สึกของคนญี่ปุ่นรุ่นลุง คนที่อยู่ในช่วงวัย  Yutori generation เป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถทางการศึกษาลดลงกว่าระดับดั้งเดิม (ทั้งนี้ไม่รวมคนช่วงวัยนี้ที่เรียนในระบบการศึกษาของโรงเรียนเอกชนชั้นนำ) และส่วนใหญ่มีความพยายามน้อย โดยมีลักษณะย่อยๆ ดังต่อไปนี้
*มักจะไม่คิด ไม่ทำอะไรจนกว่าจะได้รับคำสั่ง
*เน้นการใช้ชีวิตส่วนตัว ไม่มีความทะเยอทะยาน ไม่ค่อยมีความยึดติด เช่น การไต่เต้าสู่ระดับงานที่สูงขึ้น
*มักจะให้ความสำคัญกับตัวเองมากกว่างาน
*ท้อถอยง่าย จิตใจอ่อนแอ ไม่มีความอดทนต่อความเครียดและสภาพแวดล้อม
*ไม่สนใจเรื่องการแต่งงานและการใช้ชีวิตแบบการสร้างครอบครัว
*ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบตัว ความอยากรู้อยากเห็นน้อย พัฒนาการไม่ดี ประเด็นนี้ทำให้คนญี่ปุ่นที่อยู่ในยุคสร้างชาติ(ผู้ที่เติบโตมาในยุคที่ต้องทำงานหนัก) รับไม่ได้
*สนใจเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต เพราะเป็นที่นิยมมากช่วงที่คนรุ่นนี้เริ่มเข้าสู่วัยเรียน


คนสมัยก่อนต้องการขึ้นสู่การเป็นที่หนึ่ง ( ลึกๆ อาจจะไม่ได้อยากเรียนคณะดังๆ หรือมหาวิทยาลัยบางมหาวิทยาลัยทว่าเลือกเพราะมันคืออันดับหนึ่ง เป็นต้น ) มีเรื่องเล่าจากการ์ตูนเรื่อง”มหาวิทยาลัยโตเกียว 東京大学物語 Tokyo daigaku monogatari" นานมาแล้ว(มากกว่า10 ปีก่อน) มีแต่คนที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้สําเร็จการศึกษาที่ดีที่สุดจากมหาวิทยาลัยโตเกียว เพื่อเข้าทำงานเป็นทนายความหรือสอบเข้าทำงานในตำแหน่งข้าราชการพลเรือนแห่งชาติ (ระดับประเทศ) เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องแย่งชิงและแข่งขันกันอย่างมาก ด้วยความที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ตอนนี้ความทะยานอยากและการแข่งขันอย่างจริงจังได้สิ้นสุดลงแล้วในยุคยูโตรินี้ เพราะทนายความกลายเป็นงานที่น่าเหนื่อยและไม่มีใครอยากทำ สําหรับข้าราชการพลเรือนแห่งชาติ ที่ต้องทำงานไปอย่างยาวนานในตําแหน่งทั่วไปมากกว่า 30 ปี ทว่าถ้าต้องทํางานหนักขนาด 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คำนวนค่าจ้างเทียบเป็นรายชั่วโมงแล้ว ดูเหมือนจะแย่กว่าคนที่ทำงานพาร์ทไทม์เสียอีก (*´ー`) " ก่อนหน้านี้การทำงานเป็นข้าราชการหนุ่มอาจน่าภูมิใจ เพราะสมัยก่อนญี่ปุ่นยังมีอํานาจทางเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้... ไม่รู้ว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร... คนรุ่นนี้จึงมักจะหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมการทํางานหนักรวมถึงการทํางานที่ยาวนานกว่าปกติ


ลองคิดดูสิ 150 ปีนับตั้งแต่การฟื้นฟูเมจิ รวมถึงช่วงเวลาที่ญึ่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม จนมาถึงยุคการสร้างประเทศที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นจากต่างประเทศ มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของญี่ปุ่นตามลำดับ ระบบการศึกษารุ่นยูโตริ Yutori generation ก็เป็นกระบวนทัศน์ที่หวังจะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เช่นกัน เพียงแต่ผลลัพธ์ออกมาผิดคาด (´・ω・ ` )


แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเด็นนี้จะเป็นเพราะระบบการศึกษาของรุ่นยูโตริ Yutori generation ที่ผ่อนปรนลง และมักถูกวิพากษ์วิจารณ์และประเมินบุคลิภาพของคนรุ่นนี้ในเชิงลบเนื่องจากมีผลต่อภาพลักษณ์และความแข็งแกร่งของประเทศของญี่ปุ่นกว่าที่ควรจะเป็นในปัจจุบัน แต่ไม่ใช่ว่าข้อดีไม่มีนะครับ คนรุ่นนี้ก็มีข้อดีเช่นกัน เพราะคนเราต่างก็มีคุณค่าในตัวเองไม่มีใครแย่ไปเสียทุกอย่าง ไว้มีโอกาสผมจะเขียนข้อดีและคนในองค์กรจัดการและดูแลพวกเขาอย่างไร เล่าสู่กันฟังครับ สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น