11 มีนาคม 10 ปีก่อน ญี่ปุ่นเผชิญภัยพิบัติครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ แต่ความประหวั่นพรั่นพรึงถึงภัยพิบัติใหญ่ยังคงไม่เลือนหาย ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวกำลังแรงในอีกไม่นาน ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะขยายเวลาทำงานการฟื้นฟูบูรณะออกไปอีก 10 ปี
คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลญี่ปุ่นเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวกำลังแรงนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หลังจากพบว่าเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณภูมิภาคโทโฮกุ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น) และใกล้ร่องลึกก้นสมุทรญี่ปุ่นที่ทอดตัวตามชายฝั่งโทโฮกุไปจนถึงภูมิภาคคันโต (บริเวณกรุงโตเกียว)
ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดหรือแมกนิจูด 4 ขึ้นไป ในพื้นที่การสั่นสะเทือนระลอกหลังหรืออาฟเตอร์ช็อก 208 ครั้ง ถือว่าบ่อยกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 อย่างมาก
ไม่มีใครบอกได้ว่า แผ่นดินไหวใหญ่ในญี่ปุ่นจะเกิดขึ้นอีกมื่อไหร่ แต่การเคลื่อนไหวใต้พื้นโลกที่ถี่กว่าปกติ ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนที่น่าสะพรึง
รัฐบาลขยายเวลาฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยจนถึงปี 2574
คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นผ่านความเห็นชอบนโยบายใหม่เพื่อการฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหสและคลื่นสึนามิเมื่อ 10 ปีก่อน โดยจะขยายเวลาทำงานการฟื้นฟูบูรณะออกไปอีก 10 ปี จนถึงปี 2574
ระยะเวลาอีก 5 ปีนับตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ จะเป็นระยะที่ 2 ของการฟื้นฟูบูรณะและการสร้างความมีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่ โดยจะใช้งบประมาณมากถึง 1.6 ล้านล้านเยน หรือราว 5 แสนล้านบาท
ถนนหนทางและสาธารณูปโภคในพื้นที่ประสบภัยเมื่อ 10 ปีก่อนได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่แล้ว แต่ชุมชนต่าง ๆ ยังไร้ผู้คน จำนวนประชากรในพื้นที่ลดลงอย่างมาก ผู้ที่อพยพออกไปจำนวนมากไม่หวนคืนสู่ถิ่นฐาน การเยียวยาจิตใจประชาชนและการสร้างชุมชนขึ้นใหม่เป็นภารกิจสำคัญในระยะต่อไป
รัฐบาลจะส่งเสริมให้ประชาชนกลับไปอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิม และจะสนับสนุนให้ผู้คนจากต่างถิ่นเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่ที่ยกเลิกคำสั่งอพยพแล้ว รวมทั้งจะสร้างศูนย์การวิจัยและการศึกษาระหว่างประเทศขึ้น เพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถให้เข้ามาในพื้นที่ที่เคยประสบภัยพิบัติ
ที่สำคัญคือ รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงไม่สามารถหาหนทางที่จะจัดการกับอนาคตของซากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ที่พังพินาศอย่างไร ? คำสั่งอพยพยังคงมีผลบังคับใช้ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า และภายในยังมีแท็งก์น้ำที่กักเก็บที่ปนเปื้อนสารทริเทียมและสารกัมมันตรังสีอื่น ๆ จำนวนมหาศาล รัฐบาลญี่ปุ่นเคยเสนอให้ปล่อยน้ำที่บำบัดแล้วลงสู่ทะเล แต่ชาวประมงในพื้นที่คัดค้านจึงปล่อยให้เรื่องค้างคามาตลอด โดยรัฐบาลญี่ปุ่นบอกว่าจะตัดสินใจว่าจะจัดการปัญหานี้ในเวลาที่เหมาะสม.
