ถ้าพูดถึงจังหวัดโอกินาว่า เพื่อน ๆ คงนึกถึงภาพวิวทะเลสีฟ้าตัดกับธรรมชาติสีเขียวของป่าไม้สุดอุดมสมบูรณ์ โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศสไตล์ทรอปิคอลใต้ท้องฟ้าสีครามกันใช่ไหมคะ? ซึ่งโอกินาว่าเหมือนเป็นโลกอีกใบของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหมู่เกาะที่มีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากเกาะฮอนชู เกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัด
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาโอกินาว่า จะมีเป้าหมายหลักคล้าย ๆ กันเลยก็คือ การมาพักผ่อนหย่อนใจ ทิ้งความเหนื่อยล้าจากชีวิตประจำวันให้พัดไปกับคลื่นทะเล รีเฟรชร่างกายและจิตใจให้พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป แต่การไปเที่ยวโอกินาว่าที่มี “เกาะย่อย” มากมายในระยะเวลาและงบประมาณที่จำกัดดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคใหญ่ของนักท่องเที่ยวอย่างเราจริงไหมคะ? แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ! ครั้งนี้ เราจะมาแนะนำ “5 เส้นทางขับรถเที่ยวเกาะย่อยโอกินาว่า” ที่จะพาเพื่อน ๆ ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมโดยการขับรถยนต์ ซึ่งเป็นสไตล์การเที่ยวอีกแบบหนึ่งที่จะช่วยควบคุมเวลาและค่าใช้จ่ายได้ตามต้องการ ส่วนจะมีสถานที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปชมกันเลย!
1.”เกาะโคริ” ที่เที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวโอกินาว่ามือใหม่ต้องมา!
“เกาะโคริ” ถูกเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะแห่งความรัก” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะหลักโอกินาว่า เพื่อน ๆ สามารถชมน้ำทะเลสีเขียวมรกตที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาได้จากการขับรถยนต์ข้าม “สะพานโคริโอฮาชิ” ที่มีความยาว 1,960 เมตร น้ำทะเลที่ล้อมรอบสะพานจะทำให้รู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่กลางท้องทะเลเลย!
อีกฟากหนึ่งของสะพานโคริโอฮาชิ ที่หาดทีนูทางทิศเหนือของเกาะโคริ เป็นสถานที่ตั้งของหินรูปหัวใจ “Heart rock” ซึ่ง 5 หนุ่มไอดอลวง ARASHI เคยมาถ่ายโฆษณาให้กับสายการบิน JAL ที่นี่ด้วย แฟน ๆ ที่อยากเที่ยวตามรอย ARASHI ห้ามพลาดเด็ดขาด! โขดหินที่ตั้งซ้อนกันจนมองเห็นเป็นรูปหัวใจ ทำให้ที่นี่กลายเป็นดินแดนแห่งความรักสุดโรแมนติก อย่างไรก็ตาม เส้นทางที่เดินเข้ามาสู่ Heart rock เป็นทางลาดที่ค่อนข้างลื่น จึงขอแนะนำให้สวมรองเท้าผ้าใบเพื่อการเดินทางที่สะดวกและกระฉับกระเฉงมากขึ้น
2.ชมวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกกันที่ “เกาะเซโซโกะ”
“สะพานเซโซโกะโอฮาชิ” เป็นสะพานเชื่อมต่อกันระหว่างเกาะเซโซโกะกับเกาะหลักโอกินาว่า เปิดให้ใช้งานเมื่อปี 1985 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปมาระหว่างเกาะได้อย่างสะดวกสบาย เพราะอยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่าชุราอุมิเพียง 10 นาทีเท่านั้น ความพิเศษของสะพานเซโซโกะโอฮาชิก็คือ ตรงกลางสะพานถูกสร้างยกสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เรือเดินสมุทรลอดผ่านได้สะดวก จึงทำให้ที่นี่เหมาะแก่การถ่ายภาพทิวทัศน์เป็นอย่างยิ่ง เพราะมีทั้งทะเลสวย ๆ และสะพานที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
“หาดเซโซโกะ” อีกหนึ่งชายหาดสวยที่เป็นความภูมิใจของชาวโอกินาว่า ทั้งนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นนิยมมาเดินเล่นชมบรรยากาศธรรมชาติบนหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ที่ทอดยาวเป็นระยะทางกว่า 800 เมตร อีกทั้ง ยังสามารถชมวิวอีกฟากหนึ่งของ “เกาะอิเอจิม่า” และ “เกาะมินนะชิมะ” ได้จากชายหาดแห่งนี้ด้วย
กิจกรรมที่น่าสนใจบนหาดเซโซโกะก็คือการดำน้ำแบบสนอร์เกิลลิ่ง (Snorkelling) เพราะทะเลที่นี่ค่อนข้างตื้น ทำให้มองเห็นปลาและปะการังได้ด้วยตาเปล่าเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางทะเลออกปฏิบัติงานในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนตุลาคม จึงหมดกังวลเรื่องอุบัติเหตุทางทะเลได้เลย
ไปเที่ยวกันต่อที่หมู่บ้านเกาะเซโซโกะ แวะนั่งพักชิล ๆ กันที่ร้าน “Ringo Cafe” กับเมนูขนมมาการองกว่า 20 รสโดยฝีมือของเจ้าของร้านชาวฝรั่งเศส มีจุดเด่นที่การนำไส้ครีมมาการองมาผสมกับวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่นโอกินาว่า เช่น เหล้าอาวาโมริ ชาซัมปิงฉะ ถั่วลิสงจากเกาะอิเอจิม่า และผลไม้ตามฤดูกาลต่าง ๆ เกิดเป็นรสชาติเฉพาะตัวสไตล์โอกินาว่า แถมยังเหมาะที่จะซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝากอีกด้วย
3.”ถนนไคจูโดโร” ประตูสู่เกาะแยกอีกหลายแห่งในโอกินาว่า
“ถนนไคจูโดโร” ตั้งอยู่ในเขตเมืองอุรุมะทางภาคกลางของเกาะหลักโอกินาว่า เป็นสะพานที่มีความยาวทั้งหมด 4.7 กิโลเมตร เป็นเส้นทางมุ่งสู่เกาะแยกอีกหลายแห่งในโอกินาว่า ได้แก่ เกาะฮามาฮิงะชิมะ เกาะเฮนซะจิมะ เกาะมิยางิจิมะ และเกาะอิเคจิมะ นอกจากจะเป็นเส้นทางสำหรับให้รถสัญจรไปมาแล้ว ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของสะพานแห่งนี้คือ มีที่นั่งกระจายอยู่หลายแห่งบนสะพาน ให้คุณได้แวะนั่งพักกินลมชมวิวของท้องทะเลได้อย่างจุใจ ถ้ารู้สึกท้องหิวขึ้นมาก็อย่าลืมแวะไปที่ “อุมิโนะเอคิ อายาฮาชิคัง” ที่ตั้งอยู่ตำแหน่งศูนย์กลางของถนนไคจูโดโร เพราะที่นี่มีเมนูอาหารท้องถิ่นโอกินาว่าอร่อย ๆ ให้ได้เลือกรับประทานเยอะแยะมากมาย
ขับรถบนถนนไคจูโดโรมุ่งหน้าไปต่อกันที่เกาะมิยางิจิมะ เพื่อน ๆ จะมองเห็นอาคารหลังหนึ่งตั้งสูงเหนือหน้าผา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ “โรงผลิตเกลือนูจิมาสุ” หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ”Nuchi Masu Sightseeing and Salt Makings Manufacturing Factory” ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตเกลือด้วยกระบวนที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครครั้งแรกของโลก และเกลือนูจิมาสุยังได้รับการจดบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ว่าเป็นเกลือที่มีแร่ธาตุมากที่สุดในโลก ที่โรงผลิตเกลือนูจิมาสุจะมีบริการไกด์นำเที่ยวพาชมห้องผลิตเกลือสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะ เกลือที่ผลิตเสร็จสมบูรณ์แล้วจะมีเนื้อเนียนละเอียด อุดมไปด้วยประโยชน์จากแร่ธาตุ และช่วยในด้านความสวยความงามได้อีกด้วย โดยเพื่อน ๆ สามารถซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงามแปรรูปจากเกลือนูจิมาสุ เครื่องปรุง และขนมต่าง ๆ ที่ร้านค้าชั้น 2 ของอาคารได้อีกด้วย
ที่โรงผลิตเกลือนูจิมาสุยังมีจุดชมวิวภายในอาคารที่ชื่อว่า “คาฟู บันตะ” เป็นภาษาถิ่นโอกินาว่ามีความหมายว่า “หน้าผาแห่งโชคลาภ” ที่นี่เป็นจุดชมวิวบนหน้าผาที่มีความสูง 80 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ว่ากันว่าบริเวณโดยรอบพื้นที่ชมวิวทั้งหมดเป็นจุดพาวเวอร์สปอต (Power Spot) อันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวโอกินาว่า ทำให้เราเหมือนรับได้ประโยชน์ทางใจสองต่อ ทั้งรู้สึกผ่อนคลายไปกับวิวทะเลสวย ๆ รับลมเย็นจากจุดชมวิวสูง ๆ และสัมผัสได้ถึงพลังแห่งโชคลาภกันอีกด้วย นอกจากนี้ บริเวณด้านล่างของหน้าผายังมีหาดทรายสีขาวที่ชื่อ “นูจิ โนะ ฮามะ” ซึ่งเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลในตอนหลางคืนอีกด้วย
แวะรับประทานของว่างคลายร้อนกันต่อที่ร้านน้ำแข็งไส “รุอัน พลัส ชิมาชิโระ” นอกจากทางร้านจะพิถีพิถันในการเลือกน้ำแข็งที่มีคุณภาพ ใช้เทคนิคการไสน้ำแข็งโดยคำนึงถึงอุณหภูมิและความความชื้นในแต่ละวันแล้ว ยังมีเมนูน้ำแข็งไสที่ราดด้วยน้ำเชื่อมโฮมเมดสูตรพิเศษและเสิร์ฟบนชามเครื่องปั้นดินเผาจากเกาะมิยางิจะมะอีกด้วย โดยน้ำเชื่อมของทางร้านเกือบทั้งหมดเป็นน้ำเชื่อมแบบโฮมเมด มีท็อปปิ้งให้เลือกกว่า 20 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี, มะม่วงสุก, ผงชาเขียว, น้ำตาลมัสโควาโด้และนม เป็นต้น นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ยังสามารถซื้อชามเครื่องปั้นดินเผาลวดลายแบบเดียวกับที่ใช้เสิร์ฟน้ำแข็งไสเป็นของที่ระลึกกลับบ้านได้ด้วย
4.พบกับสุดยอดเกาะตากอากาศที่ “เซนางะจิมะ”
“เกาะเซนางะจิมะ” ตั้งอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนาฮะเพียงขับรถยนต์ 15 นาที เป็นแหล่งรวมของโรงแรมรีสอร์ท บ่อน้ำพุร้อนออนเซ็น และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย มีวิวสวย ๆ ให้ชมรอบเกาะ อีกทั้งยังมองเห็นเครื่องบินจากท่าอากาศยานนาฮะได้อีกด้วย แม้จะเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่สามารถขับรถเที่ยวรอบเกาะโดยใช้เวลาเพียง 3 นาที แต่ก็อัดแน่นไปด้วยความสุข สนุกสนาน เมนูอาหารอร่อยถูกปาก พร้อมบรรยากาศสุดผ่อนคลาย ที่รับรองได้เลยว่าเที่ยวได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ!
ที่ “เซนางะจิมะ อุมิคะจิ เทอเรส” เป็นแหล่งรวมร้านค้าสำหรับสายช้อป พร้อมทั้งร้านคาเฟ่สุดโฟโตเจนิก ที่รวมเมนูอาหารทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศให้เลือกรับประทานมากมาย วิวทิวทัศน์ของที่นี่ก็สวยไม่แพ้ใคร แสงแดดจะส่องทำให้ทั่วทั้งพื้นที่ขาวสว่างเป็นประกายในตอนกลางวัน ส่วนตอนเย็นก็จะมีการจุดคบไฟกว่า 40 ดวงให้เราได้เห็นวิว 2 สไตล์ได้ในสถานที่เดียว
5.ลงใต้ไป “เกาะโอจิมะ” ขุมทรัพย์เมนูอร่อย
เดินทางจากตัวเมืองนาฮะลงใต้ไปยังเกาะโอจิมะ 40 นาที เป้าหมายของเราคือเมนูอาหารขึ้นชื่อ “โอกินาว่าเทมปุระ” ซึ่งมีจุดเด่นที่ต่างจากเทมปุระทั่วไปตรงความหนานุ่มของตัวแป้งทอด เสิร์ฟชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำด้วยราคาย่อมเยา แถมมีเมนูให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปลาทอดเทมปุระ หมึกทอดเทมปุระ ผักทอดเทมปุระ ฯลฯ นอกจากนี้ ภายในเกาะโอจิมะยังมีร้านเทมปุระหลายสูตรหลายรสชาติเรียงรายให้เลือกกินกันไม่หวาดไม่ไหว เป็นอีกหนึ่งเมนูที่จะทานเป็นอาหารมื้อหลักก็ได้ เป็นอาหารมื้อว่างระหว่างขับรถก็ดี
ภาพที่เพื่อน ๆ จะได้เห็นเมื่อมาเที่ยวเกาะโอจิมะในช่วงฤดูร้อนก็คือ ราวตาก “หมึกบินแดดเดียว” ที่เรียงรายเป็นทางยาว ว่ากันว่าหมึกบิน หรือ Purpleback Flying Squid สามารถกระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำได้สูงที่สุดเกือบ 50 เมตรเลยทีเดียว การนำหมึกบินมาตากแดดราวครึ่งวัน จะทำให้เนื้อหมึกบินอร่อยยิ่งขึ้นเพราะรสอูมามิถูกกักเก็บเอาไว้ หลังผ่านกระบวนการตากแดดจนได้ที่แล้ว เราสามารถรับประทานหมึกแดดเดียวได้ทันทีเลย หรือจะนำไปตุ๋น นำไปหมักเกลือเพื่อเพิ่มความอร่อยในหลาย ๆ เมนูก็ย่อมได้ โดยฤดูกาลตากหมึกบินแดดเดียวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคม
แวะกินกันต่อที่ร้านอาหารประจำท้องถิ่นที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าท่าเรือชาวประมงกับร้าน “อิมาอิยุโนะมิเสะ โอจิมะ ไคซังบุซึ โชะคุโด” ร้านอาหารโลคอลหน้าตาบ้าน ๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดา! โดยคำว่า อิมาอิยุ เป็นภาษาถิ่นโอกินาว่าแปลว่า ปลาสดใหม่ และแน่นอนว่าปลาที่ร้านอิมาอิยุก็ถูกนำเข้ามาสดใหม่ทุกวัน ลูกค้าสามารถเลือกวิธีการปรุงอาหารในแบบที่ชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นเมนูซุปปลา ปลาย่างเนย ปลานึ่ง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารขึ้นชื่อโอกินาว่าให้เลือกอีกมากมาย เช่น โอกินาว่าโซบะ สาหร่ายพวงองุ่น เป็นต้น นอกจากจะได้ทานอาหารสดใหม่แล้ว ที่หน้าร้านอิมาอิยุเรายังจะได้เห็นวิวทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่มีทั้งอาหารตาและอาหารท้องถิ่นอิ่มท้องเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 5 เส้นทางขับรถเที่ยวไปยังเกาะย่อยโอกินาว่าที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นไอเดียหรือเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ อยากลองไปขับรถเที่ยวในโอกินาว่ากันดูนะคะ เพราะในประเทศญี่ปุ่นมีบริการเช่ารถยนต์คอยรองรับในหลายพื้นที่ ซึ่งการเช่ารถจะช่วยบริหารเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ง่าย แถมยังสะดวกสบายกว่าการเดินทางที่บริการขนส่งสาธารณะเข้าถึงได้ยากอีกด้วย
ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดโอกินาว่าได้ที่นี่
Facebook Fanpage: Visit Okinawa th
Official Website: VISIT OKINAWA JAPAN
บทความโดย ANNGLE เรียบเรียงโดย Rabbit_Rapz