รัฐสภาญี่ปุ่นรับรองการแก้ไขกฎหมายควบคุมโรคติดต่อ โดยกำหนดบทลงโทษทั้งบุคคลและธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ร่างกฎหมายที่ผ่านการลงมติเมื่อวันพุธที่ 3 ก.พ. เพิ่มมาตรการบังคับเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด จากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นทำได้เพียง “ขอความร่วมมือ” จากประชาชน และให้เงินช่วยเหลือกับภาคธุรกิจเพื่อให้ลดเวลาทำการ
กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า โดยผู้ติดเชื้อที่ปฏิเสธการรักษาหรือกักตัวมีโทษปรับไม่เกิน 500,000 เยน (ราว 150,000 บาท) ผู้ที่ไม่แจ้งเส้นทางการติดเชื้อหรือไม่ให้ข้อมูลมีโทษปรับไม่เกิน 300,000 เยน (ราว 100,000 บาท)
ร้านอาหารและธุรกิจที่ไม่ร่วมมือลดเวลาทำการ มีโทษปรับไม่เกิน 300,000 เยน (ราว 100,000 บาท)
กฎหมายนี้ยังจะให้รัฐบาลสามารถออกมาตรการเพื่อจำกัดสิทธิบางอย่างของประชาชนได้ ถึงแม้จะไม่มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข
ก่อนหน้านี้ เคยมีกรณีผู้ติดเชื้อไม่ยอมหยุดงานเพื่อพักรักษาตัว รวมทั้งออกจากโรงพยาบาลไปแช่น้ำแร่ร้อนจนแพร่เชื้อไปทั่ว และในการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งล่าสุดนี้ ร้านอาหารจำนวนมากก็ไม่ร่วมมือลดเวลาทำการ โดยอ้างว่าเงินช่วยเหลือที่ได้รับจากรัฐบาลไม่เพียงพอ จำเป็นต้องทำธุรกิจเหมือนเดิม
เดิมรัฐบาลญี่ปุ่นเสนอใช้มาตรการลงโทษจำคุก และปรับเงินสูงถึง 1 ล้านเยนกับผู้ที่ไม่ร่วมมือในการควบคุมโรค แต่ในการพิจารณาในรัฐสภา รัฐบาลถูกโจมตีอย่างหนักเพราะมีกรณี สส.พรรครัฐบาลหลายคนไปสังสรรค์ยามราตรี แต่กลับจะใช้มาตรการเข้มงวดกับประชาชน สุดท้ายรัฐบาลจึงต้องยอมถอย โดยยกเลิกโทษอาญา และลดจำนวนเงินค่าปรับลง.