สำรวจญี่ปุ่นหลังภาวะฉุกเฉิน อยู่บ้านหยุดเชื้อจริงหรือ ? (ชมภาพชุด)

หนึ่งสัปดาห์หลังจากญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อสกัดไวรัสโควิด-19 ญี่ปุ่นเงียบเหงาลงอย่างชัดเจนในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ในวันปกติ ผู้คนยังเดินทางไปทำงานอยู่มาก ห่างไกลจากเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการลดการสัญจรของประชาชน ลงให้ได้ 70%


ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในญี่ปุ่น คำนวนปริมาณการสัญจรของผู้คนในแต่ละพื้นที่ โดยรวบรวมข้อมูลจากจากสถานีฐานที่รับส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ พบว่า ในช่วงสุดสุปดาห์ที่ผ่านมา (11-12 เมษายน) จำนวนผู้คนที่ออกภายนอกลดลงอย่างมาก หลังจากรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา


ข้อมูลระบุว่า จำนวนผู้คนในพื้นที่ย่านสถานีชิบูยะในกรุงโตเกียว ลดลง 73.7% เมื่อเทียบกับจำนวนเฉลี่ยในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว และลดลง 25.5% เมื่อเทียบกับ 2 วันก่อนที่จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน

พื้นที่รอบสถานีโยโกฮามา ผู้คนลดลง 76.5% จากเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว และ 25.7% จากก่อนประกาศภาวะฉุกเฉิน

พื้นที่รอบสถานีโอซากา ผู้คนที่ออกมาภายนอกลดลง 82.9% และ 58.2% ตามลำดับ

พื้นที่รอบสถานีเท็นจิน ในเมืองฟูกูโอกะ จำนวนผู้คนลดลง 73.2% และ 25.2% ตามลำดับ

รัฐบาลต้องการลดการสัญจรของผู้คนให้ได้อย่างน้อย 70% หรือควรจะได้ 80% ในกรุงโตเกียวและจังหวัดอื่น 6 จังหวัด เพราะการลดติดต่อระหว่างบุคคล จะช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส








ระบบงานญี่ปุ่นไม่ยอมให้ Work from Home
แต่เมิ่อเข้าสู่วันปกติสถานการณ์กลับแตกต่างไป ชาวญี่ปุ่นยังคงเดินทางไปทำงานเหมือนเดิม ถึงแม้จะความแออัดจะลดลงบ้าง แต่ยังห่างไกลจากเป้าหมาย ลดลง 70% ของรัฐบาล

สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ชี้ว่า ในวันทำงานการสัญจรของผู้คนบริเวณสถานีโตเกียวผู้คนลดลง 38% บริเวณสถานีโอซากา ผู้คนลดลง33% สถานีชิบูยะ ผู้คนลดลงเพียง9.8% เขตอูราวะ ในจังหวัดไซตามะ จำนวนผู้คนลดลง 7.7% เขตซันโนมิยะ ในเมืองโกเบ ผู้คนลดลง15.2%


รัฐบาลละเลงขนมเบื้องด้วยปาก
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า จำนวนผู้ที่เดินทางไปทำงานยังไม่ลดลงตามที่คาดหวัง จึงมีแผนที่จะขออย่างต่อเนื่องให้ธุรกิจต่าง ๆ ลดจำนวนพนักงานที่ทำงานในสำนักงานลงร้อยละ 70 หรือมากกว่า โดยใช้มาตรการต่างๆ เช่น การทำงานออนไลน์

การที่ชาวญี่ปุ่นยังคงเดินทางไปทำงานที่สำนักงานนั้น ส่วนหนึ่งเพราะระบบการทำงานที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เน้นการสั่งการ ควบคุม ตรวจสอบ ถึงแม้มีเทคโนโลยีเอื้อให้ทำงานที่บ้านได้ แต่เจ้านายกลับไม่เอื้อ

ปัญหายังเกิดจาก “ความลักลั่น” ของรัฐบาลเอง ที่ระบุในประกาศภาวะฉุกเฉิน ให้ยกเว้นการเดินทางไปทำงาน แต่กลับใช้วิธีร้องขอให้บริษัทต่าง ๆ ช่วยกันลดการเดินทางให้ได้ 70%

ความลักลั่นยังเห็นได้จากนโนยายของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะให้เงินสนับสนุนกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ให้พนักงานทำงานจากบ้านได้ แต่ทางกระทรวงกลับแจ้งว่า จะเปิดรับการยื่นขอเงินสนับสนุนนี้ใน “เดือนมิถุนายน” !!!