xs
xsm
sm
md
lg

ฆาตกรรม(ไม่)ต่อเนื่อง-ใครฆ่าใคร ตอนที่ 5 ลูกกระพรวนผูกคอแมว(ต่อ3)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

จากบทประพันธ์ของ Ango Sakaguchi (1906-1955)
ปรมาจารย์แห่งความลึกลับของฆาตกรรมปริศนา
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์

สงครามเพิ่งสงบ สังคมนครหลวงสมัยโชวะพยายามดิ้นรนกลับสู่ยุคทองในอดีตที่ไม่ใช่ว่าไกลโพ้น
ไม่เคยมีเสียดีกว่า ต้องสูญเสียไปแล้วอยากได้คืน...

“คืนนี้ฉันปวดหัวมาก” คุณนายอาคิโกะสะบัดหน้าไปทางหนึ่งแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องมีปิก้าก้าวตามไปติด ๆ แต่ก็ต้องชะงัก เพราะถูกลูกกอล์ฟจากที่ไหนไม่รู้บินมาโดนหัวดังป็อกลูกหนึ่งและโดนที่บ่าลูกหนึ่ง ที่มาของลูกกอลฟ์คือคุณนายอายากะ เธอเดาะมันเล่นอยู่เมื่อครู่ก่อน พอปิก้าอดีตสามีหันมานางก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้และเสไปมองทางอื่น

“นังบ้า”

ปิก้ากระโจนเข้าใส่อายากะอดีตเมีย บีบคอนางจนแทบจะล้มลงกับพื้นทั้งเก้าอี้พอดีผมผลุดลุกขึ้นปรี่เข้าไปผลักปิก้ากระเด็นไปทางหนึ่ง โคโรกุกระโจนตามมาติด ๆ พร้อมกับฉวยขวดเบียร์เปล่าติดมือขึ้นมาด้วย ท่าทางบู๊เต็มที่สมกับนักต่อสู้ฝ่ายซ้ายที่มีชื่อด้านการทะเลาะวิวาท ผมไม่ได้กล้าหาญชาญชัยอะไรนักอาศัยที่อยู่ใกล้และไวกว่าจึงเข้าประชิดตัวปิก้าก่อนคนอื่น และอีกอย่างก็นอนใจเพราะมีดอกเตอร์โคเซอยู่นั่งยิ้มจิบสาเกดูการวิวาทอยู่ตรงนั้น นายคนนี้เป็นพระเอกขวัญใจชาวบ้านตามซอย มีคนเคยเห็นหนุ่มคนนี้บุกเดี่ยวปักหลักสู้กับยากูซ่าเกือบสิบคนไม่มีหนีจนอีกฝ่ายเลือดอาบไปตาม ๆ กัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นดอกเตอร์ก็คงจะเข้ามาช่วยได้ทันการ ผมจึงฮึกเหิม
“โธ่เอ๋ย ทำเป็นอัศวินม้าขาว แน่จริงก็ท้าดวลกันตัวต่อตัวแบบสุภาพบุรุษฝรั่งซีวะ แต่เห็นอย่างนี้แล้วมันก็คงจะเก่งแต่หมาหมู่ ไอ้พวกขี้ขลาด”

ปิก้าว่าแล้วก็เปิดเบียร์สองขวดบนโต๊ะ คว้าติดมือข้างละขวดยกขึ้นดื่มอั๊ก ๆ เดินตรงไปทางสวน

“อย่างนี้ต้องจัดการครับ ล้อมกรอบด้วยหมัดเหล็กให้หายซ่าเสียทีดีไหม”

คามิยามะอดีตทนายความประจำตระกูลเอ่ยขึ้น สองผัวเมียคู่นี้เวลาอยู่กับพวกบริวารบ่าวไพร่จะพูดโวคุยไม่จบ แต่พอมาอยู่กับพวกเราข้างบนนี้กลับนิ่งเงียบเกือบไม่พูดอะไรสักคำ

“หือ...กล้ามใหญ่จริงนะ เดี๋ยวนี้หากินกับพวกแก๊งนักเลงหรือยังไง”

อุสึมิกวีหลังค่อมโพล่งออกมาตรง ๆ ไม่มีเกรงใจใคร แต่เพราะยิ้มแย้มอยู่เสมอไม่แสดงว่ามุ่งร้าย จึงไม่มีใครถือสา

“ขอโทษครับ เห็นผมเป็นอย่างนั้นจริงรึ ผมก็ร่างใหญ่ไปยังงั้น ไม่มีเรี่ยวมีแรงอะไรกับเขาหรอก กล้ามนี่ก็ไม่มีพิษสงหรอกครับ”

“ผู้ชายที่ไร้กำลังวังชาไร้หมัดเหล็กปกป้องสุภาพสตรีอย่างผม คงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรักผู้หญิงหรอกนะ ดูเหมือนว่ายิ่งยุคสมัยผ่านไปชายเรายิ่งจำเป็นต้องเตรียมหมัดเหล็กเอาไว้ ว่าไงโมคุเบ...ผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเศส ที่นั่นเขามีอัศวินหลังค่อมบ้างไหม”

“คุณอุสึมิแต่งบทกวีให้ฉันรวบรวมเป็นชุดเลยนะ บทกวีอุทิศให้แก่หญิงขี้ริ้วผู้มีบาดแผลทางใจ เยี่ยมไหม เธอสรรเสริญฉันเสียจนปลื้มอย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่ต้องการให้ใครมาปกป้องด้วยหมัดเหล็กหรอกเขาไม่ได้กลั่นแกล้งอะไร ฉันอยากสรรเสริญกวีหลังค่อมผู้ร่าเริงคนนี้ด้วยซ้ำ”

ชิงุซะ ลูกพี่ลูกน้องของคาซุมะเอ่ยขึ้น บอกตามตรงผมไม่ชอบผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้วร่างอ้วนท้วนคนนี้เลย นางเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ ประเภทหน้าเนื้อใจเสือ หลงตัวเอง

“คำว่าบาดแผลทางใจน่ะมากไป ผมแค่เขียนบทกวีอุทิศให้แก่หญิงผู้ขี้ริ้วเท่านั้นเอง”

“อ้าวพูดอย่างนี้ฉันก็เขินใคร ๆ เขาแย่น่ะซี เวลาคุยกันสองคนเห็นพูดนั่นพูดนี่”

“หญิงขี้ริ้วจะมาเกี้ยวชายอัปลักษณ์ให้ได้อะไร หญิงขี้ริ้วย่อมแอบใฝ่ฝันถึงชายรูปงามและชายอัปลักษณ์ย่อมต่อสู้เพื่อหญิงงาม แต่ก็นั่นแหละผมมันไม่มีอะไรที่น่าสนใจเอาเสียเลย”

อุสึมิกวีหลังค่อมยกสองมือขึ้นกุมขมับ นิ้วของเขายาวเรียวและใบหน้าของเขาเล็กมือทั้งสองจึงปิดหน้าได้มิดพอดี กวีหลังค่อมลุกขึ้นจากที่นั่นบอกกับทุกคนว่า

“ฉันของตัวก่อน คืนนี้จะแต่งบทกวีดีไหมนะ เพื่อหญิงผู้ขี้ริ้ว”

“รอเดี๋ยว ไปเดินเล่นด้วยกันสักครู่หนึ่งเถอะ ไม่รึ ? ไม่รังเกียจใช่ไหม”

“ก็ไม่ได้คิดหวังว่าจะมีใครชวน”

“สวนทางนี้ไม่เอาดีกว่า นายปิก้าคงยังดื่มเบียร์อั๊ก ๆ อยู่ ไปทางป่าต้นบีชดีกว่า”

ชิงุซะ เดินไปหยิบไฟฉายออกมาจากลิ้นชักตู้พยักหน้าเรียกกวีหลังค่อม แล้วพากันเดินออกไปทางประตูเข้าออกห้องกินข้าว

“น่าเกลียด” ทามาโอะพูดพลางสะบัดหน้าไปทางหนึ่ง

“น่ารักดีออก” ถ้าที่นั่นไม่มีนายคามิยามะ ก็ไม่มีใครพูดขึ้นมาเมื่อเห็นชัดว่าทามาโอะกำลังขวางเต็มที่อย่างนี้

“นั่นน่ะรึน่ารัก พูดออกไปน่ะรู้รึเปล่าว่าน่ารักหมายความว่ายังไง ชิงุซะล่อผู้ชายราวกับหล่อนเป็นคนสวยเต็มประดา คงคิดละซีว่าจะปั่นหัวนายกวีหลังค่อมนั่นได้ น่าขยะแขยง อีกาที่เอาขนนกยูงมาเสียบหางชูคอยังจะดูดีกว่าหลายเท่า”

ผู้หญิงเป็นมนุษย์ประเภทที่ช่างสังเกตและค่อนแคะคนอื่นได้ดีถึงขึ้นอัจฉริยะเลยทีเดียว โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่สวยไม่งามจะต้องแสวงหาจุดด้อยมาค่อนขอดกันให้เจ็บใจกันไปข้างหนึ่ง คุณทามาโอะดื่มสาเกเข้าไปมาพอดู และวันนี้ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วยเลยยิ่งดวดย้อมใจไม่ยั้ง

“วันนี้ขอดื่มให้จั๋งหนับสักวันเถอะ”

“พอทีเถอะคุณทามาโอะ เดี๋ยวจะอาเจียน ทรมานมากเลยนะ”

คุณนายอายากะห้าม ดาราสาวโคโจพลอยสำทับ

“จริงด้วย คุณทามาโอะ ดื่มมากมายขนาดนั้นไม่ดีกับร่างกาย พอเถอะ”

“ก็ได้ แต่ขอดื่มอีกสักนิดเถอะ ทำไมรึ คุณรู้ไหมเวลาฉันดื่มเงียบ ๆ อย่างนี้ ฉันเห็นภาพลวงตา เห็นคุณวานิถูกฆ่า เห็นชัดเจนมาก แม้กระทั่งสีหน้าจองผู้หญิงที่จ้วงแทงมีดสั้นลงไป ฉันเห็นทุกขั้นตอนเลยคุณ มันคือใบหน้าของปีศาจน่าเกลียดหน้ากลัว ใบหน้าของปีศาจริษยา”

“ไม่เอาน่า เรื่องแบบนี้พอได้แล้ว วันนี้เราแยกย้ายกันไปนอนดีกว่า”

“ขอโทษนะ ทุกคน”

คุณทามาโอะจับมือคุณนายอายากะไว้แล้วเริ่มร้องไห้กระซิก ๆ รู้สึกว่านางจะเข้ากับพี่สะใภ้คนนี้ได้ดีกว่าคุณนายอากิโกะอดีตพี่สะใภ้ (ปัจจุบันเป็นเมียโมคุเบ) ซึ่งไม่ถูกกันราวกับไม้เบื่อไม้เมา

คุณนายอายากะประคองคุณทามาโอะที่ยังร้องไห้กระซิก ๆ พากลับไปห้องส่วนตัวของนาง และกลับมาได้แค่สิบนาทีสาวใช้ก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงาน

“คุณนายเจ้าคะ คุณหนูอาเจียนใหญ่เลย ท่าทางจะไม่สบายเอามาก ๆ บอกให้ช่วยเชิญคุณหมอ” เอบิสึกะเงยหน้าขึ้นสีหน้าบอกบุญไม่รับ

“บ้ารึเปล่า เรียกหมอไปรักษาคนเมาเหล้า เป็นเจ้าหญิงมาจากไหนรึ” เอบิสึกะตวาด “ไปบอกโคโตมิ แม่นางพยาบาลคนนั้นซิ”

“เจ้าค่ะ”
สาวใช้หายไปราวสามสิบนาทีขึงกลับมารายงานว่านายของหล่อนนอนหลับสบายไปแล้ว ผมดูนาฬิกาพบว่าเป็นเวลา 22.05 น. พอดีกับที่ปิก้ากลับเข้ามา ทุกคนก็เลยถือโอกาสลุกขึ้นชวนกันไปนอน

“อะไรกัน พอผมกลับมาก็จะไปนอนกันหมด ไม่เห็นจะต้องหนีกันเลย แต่ก็ตามใจ ไปก็ไป ผมอยู่คนเดียวเงียบดี สบายมาก”

เราต่างกลับเข้าห้องพักส่วนตัวโดยไม่สนใจกับคำพูดของปิก้า ยังไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงจานกระเบื้องหรือไม่ก็ขวดเกล้าสาเกแตกกระจาย ผมเปิดประตูมองลงไปข้างล่าง ก็เห็นคุณนายอายากะวิ่งหน้าซีดหนีออกมา

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”

“ค่ะ ฉันกำลังเก็บถ้วยชาม อยู่ ๆ นายนั่นก็...”

คุณนายหยุดยืนตั้งสติ แล้ววิ่งกลับไปที่ห้องของตน ตอนนั้นผมได้ยินเสียงลูกกระพรวนที่รองเท้าแตะ และรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเมื่อนึกถึงคำพูดของนักสืบจมูกมด ผมเดินเลยไปเคาะประตูห้องดอกเตอร์โคเซ

“ว่าไงดอกเตอร์ ได้อะไรคืบหน้าบ้างไหม”

“ประเมินความสามารถของผมสูงไปไหม ผมไม่ใช่เชอร์ล็อคโฮมส์นะครับ ทุกอย่างยังอยู่ในสายหมอกทึบทึมอยู่เลย อย่างแรกเลยมาบ้านนี้ผมตื่นเต้นไปกับกามารมย์ของคุณ ๆ มากกว่าคดีฆาตกรรมเสียอีก แต่ต่อสู้กับความตื่นเต้นแบบนั้นผมก็หมดเรี่ยวแรงจะทำอะไรแล้ว นี่ถ้าไม่มีแม่หนูที่โตเกียวให้คิดถึงพอผ่อนคลายบ้างแล้วละก็ ผมเป็นลมเป็นนานแล้ว”

“เอาละ ๆ ลูกกระพรวนที่หลุดจากรองเท้าแตะของคุณนายอายากะ ตกอยู่บนพื้นที่เกิดเหตุฆาตกรรมนายวานิ ไม่ใช่รึ”

“ครับ ตกอยู่ใต้เตียง”

“อย่างนี้ก็หมายความว่า คุณนายอายากะเป็นผู้ต้องสงสัยคนที่หนึ่งอย่างนั้นรึ”

“เป็นไปได้ยังไงครับ แมวมันคงไม่ห้อยลูกกระพรวนไปจับหนูหรอก แต่ดูแผนผังนี้ซีครับ ดูแล้วสงสัยว่าใครเป็นคนจัดห้องให้พวกท่านทุกคน แล้วทำไมคุณอุซุมิกวีหลังค่อมคนเดียวถึงได้ห้องชั้นล่าง”

“เอ เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เราไปถามคุณคาซุมะกันดีกว่า”

ผมกับดอกเตอร์พากันไปที่ห้องคุณคาซุมะ คุณนายอายากะกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยต้องรออยู่ข้างนอกครู่หนึ่ง

“เชิญครับ อายากะมาค้างอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืน กลัวนายโดอิ โคอิจิ หรือเจ้าปิก้านั่นแหละ เพราะเข้ามารังควานถึงในห้อง”

“ก็มันไม่ธรรมดาเลยนี่คะ ฉันรู้แน่ชัดเลยว่าใครกำลังวางแผนทำอะไร คดีที่เกิดขึ้นวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่วางไว้ นี่ไม่รู้เหมือนกันนะว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันทำบุญครบรอบวันตายคุณแม่ ลูกกุญแจของทุกห้องในบ้านอยู่กับใครก็ไม่รู้ นี่คุณ ฉันว่าเราต้องเอาเชือก ไม่ดีนะ ลวดดีกว่า มาล่ามประตูเอาไว้นะ”

“ไม่ต้องกังวลถึงขนาดนั้นหรอก ดอกเตอร์มาอยู่ด้วยทั้งคนอย่างนี้ ฆาตกรอายุไม่ยืนแน่”

“ดอกเตอร์อยากรู้ว่าใครเป็นคนจัดห้องให้พวกเราพัก และทำไมกวีค่อมกับนายปิก้าถึงอยู่ชั้นล่าง”

“อุสึมิกวีค่อมเขาเป็นคนขออยู่ชั้นล่างเองเพราะไม่อยากขึ้นลงกระไดให้เหนื่อยแล้วยังอยู่ใกล้ห้องสุขาด้วย อายากะไม่อยากอยู่ร่วมชั้นเดียวกันกับนายปิก้าก็เลยไปอยู่ห้องญี่ปุ่นข้างล่างทั้ง ๆ ทั้ง ๆ ชั้นบนนี่ก็ยังมีห้องเหลือ ส่วนห้องพักของแขกคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ผมเป็นคนจัดสุ่ม ๆ ไปอย่างนั้นเอง”

“เวลาไม่มีแขกเราสองคนไม่มาอยู่เรือนฝรั่งหรอกค่ะ เราไปอยู่ที่เรือนใหญ่ด้านหลัง คุณทามาโอะนอนข้างล่าง ส่วนเราใช้ห้องชุดสามห้องชั้นบน”

“คนที่ชื่อคามิยามิ ฮิโรชิ มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับครอบครัวคุณหรือเปล่าครับ” คุณคาซุมะลังเลกับคำถามของดอกเตอร์อยู่อึดใจหนึ่งก่อนตอบว่า

“คามิยามะเคยเป็นเลขานุการของคุณพ่อ แต่หลังจากลาออกไปแล้วก็ยังมาที่นี่อยู่เสมอ ผมก็ได้แต่เดาเอาว่าคงรู้จุดอ่อนอะไรของคุณพ่อแล้วมาขู่เอาเงินหรืออะไร ถามคุณพ่อก็ไม่ได้เรื่องเพราะไม่ยอมเล่าเรื่องอะไรที่ลึกซึ้งให้ผมฟัง คุณแม่ที่ตายไปเมื่อปีก่อนเกลียดคน ๆ นี้ราวกับไส้เดือนกิ้งกือ ความเกลียดของคุณแม่นี่ไม่ปกติเลยครับ ผมก็เดาอีกว่าบางทีความลับนั้นอาจเป็นความลับเกี่ยวกับคุณแม่ก็ได้ จะยังไงก็ตามทีคุณพ่อผมทำงานการเมืองที่ต้องวางยุทธศาสตร์อะไรมากมาย ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีความลับอะไรหลาย ๆ อย่างให้คนมาขู่เอาเงินได้ ผมเป็นเด็กคิดว่าถึงจะถามคุณพ่อก็คงไม่บอก ผมก็เลยไม่ถาม”

“มาบ่อยหรือครับ”

“ปีนึงก็ราวสี่ห้าครั้งเห็นจะได้ เมียเขาเคยเป็นนางบำเรอของคุณพ่อ หล่อนเคยทำงานเป็นเกอิชาอยู่ที่ชิมบาชิ มาทีไรก็พาหล่อนมาด้วยทำหน้าตาเฉยพักอยู่หลายวันราวกับเป็นบ้านของตัวเอง จะว่าไปเมื่อปีที่แล้วก็มาก่อนคุณแม่ตายสองสามวัน และบังเอิญอยู่ตอนคุณแม่สิ้นลมด้วย มีคนเล่าว่าก่อนวันที่คุณแม่จะสิ้นลงวันหนึ่ง เขาได้เข้าไปหาคุณแม่ ไล่คนอื่น ๆ ออกไปหมดแล้วก็เถียงอะไรกันใหญ่ ผมก็มาเดาอีกว่านายนั่นคงจะไม่ได้มาขู่คุณพ่อโดยตรง แต่ขู่ผ่านทางคุณแม่ และจนแล้วจนรอดผมก็เดาไม่ถูกว่าความลับนั้นคืออะไร”

เสื้อนอนของคุณนายอายากะสวยงามมากจนผมต้องมองตาค้าง เสื้อชุดนั้นตัดด้วยฝีมือประณีตมากเป็นชุดจีนที่ดัดแปลงเป็นแบบฝรั่ง สีผ้าที่ใช้ก็เข้ากันอย่างงดงามแปลกตา

“ชุดนอนของคุณนายสวยมากราวกับเสื้อใส่ออกงาน”

คุณคาซุมะฝืนยิ้มกับคำชมของผม

“คุณนายเขามีเสื้อนอนเหมือนชุดออกงานแบบนี้สักสิบสี่สิบห้าชุดได้ และตอนนี้ของปีหน้าผมก็ไม่รู้เหมือนกันจะมีสักกี่สิบชุด ตอนคุณมาก็กำลังเปลี่ยนใส่ชุดนอน สาปแช่งนายปิก้าบ่นไม่หยุดปากว่าเป็นตัวการที่ทำให้ต้องใส่ตัวเดียวซ้ำสองคืน ในห้องนี้เธอไม่ได้เก็บเสื้อผ้าเอาไว้น่ะครับ คุณจะต้องตกใจเมื่อรู้ว่า คุณนายคนนี้ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งเช้า กลางวัน และเย็น เปลี่ยนทรงผมแล้วก็เครื่องประดับด้วยนะครับ ขยันมาก”

คุณนายอายากะยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้ตอบว่าอย่างไร คงจะเชื่อใจสามีว่ารักนางสุด ๆ แม้ว่าจะนินทาเอาต่อหน้าต่อตาเช่นนั้น ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าความรักของผู้หญิงคนนี้ช่างน่าชื่นชมเสียจริง นางเป็นผู้หญิงที่เกิดมาเพื่อชีวิตยามค่ำคืนโดยแท้ คุณนาย อายากะอาจจะกลัวฆาตกรแต่จริง ๆ แล้วก็คงอยากขึ้นมาอ้อนสามีนั่นแหละ ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่มีสมองคิดถึงเรื่องอื่นนอกจากความน่ารักและความงามเท่านั้นเอง

ผมกลับห้องก็พบเคียวโกะทำหน้าไม่ค่อยจะสบอารมณ์นัก

“เมื่อกี้ สาวใช้มาบอกว่าหลังอาหารพรุ่งนี้ให้เราสองคนไปหา ท่านบอกว่าอยากมาหาเองแต่ร่างกายไม่อำนวย”

นั่นไม่ใช่ข่าวดีเลย ท่านอุตางาวะประมุขของตระกูลเป็นหวัดแล้วดื่มเบียร์เข้าไปท้องเลยเสีย นอนซมไปตั้งแต่เช้าวันที่พวกเรามาถึง ท่านออกจากงานการเมืองที่กระทรวงแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างเบื่อ ๆ วัน ๆ ก็ได้แต่เรียกชาวบ้านมาเล่นหมากล้อมกันพอเพลิน บางวันก็มารับประทานอาหารค่ำที่เรือนฝรั่ง ตั้งแต่เรามาถึงยังไม่ได้พบหน้าพบตากันแต่ผมก็อดภาวนาเงียบ ๆ ว่าอย่าเพิ่งหายป่วยจนกว่าเราจะกลับก็จะดีไม่น้อย

“สาวใช้ของท่านชื่อชิซุเอะน่ารักมากเลยคุณ บอกว่าอายุ 18 จะเข้ากันได้ดีกับแม่โคโตมินางพยาบาลหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“พอที ฉันปวดหัวกับเรื่องราวพัลวันพัลเกของผู้คนที่นี่เต็มทีแล้ว”

ผมเองก็ร่ำสุราเข้าไปไม่น้อยเหมือนกัน พอหัวถึงหมอนจึงหลับทันที
[ตัวละครในเรื่องและความสัมพันธ์ระหว่างกัน]
ผม ยาชิโระ ซุนเป คนเล่าเรื่อง ภรรยาชื่อเคียวโกะ เคยเป็นเมียน้อยนายอุตางาวะ ทามอน บิดาของคาซุมะ
อายากะ ภรรยาคนปัจจุบันของคาซุมะ
ดอกเตอร์โคเซ นักสืบอัจฉริยะ
อุซุงิ อาคิโกะ นักประพันธ์สตรีอดีตภรรยาของอุตางาวะ คาซุมะ ปัจจุบันอยู่กับ มิยาเกะ โมคุเบ
แขกของทามาโอะ -โมจิซึกิ วานิ -ทังโงะ ยุมิฮิโกะ -อุสึมิ อากิระ กวีหลังค่อม
ชิงุซะ หญิงขี้ริ้วลูกพี่ลูกน้องของคาซุมะ
คามิยามะ ฮิโรชิ กับ คิโซโนะ ภรรยา อดีตทนายความนายอุตางาวะ
อุตางาวะ ทามาโอะ น้องสาวคาซุมะ
อาคาชิ โคโจ ดาราสาว ภรรยาของ (โคโรกุ) ฮิโตมิ นักเขียนบทละคร
โดอิ โคอิชิ จิตรกรอดีตสามีของอายากะ (ถูกเรียกว่าปิก้า)
โมโรอิ โคโตมิ นางพยาบาล


กำลังโหลดความคิดเห็น