ฉีดน้ำถนน ปลูกดอกมอร์นิ่งกลอรี่ ฯลฯ รองรับโตเกียวโอลิมปิกแบบยุคเอโดะโบราณ!?

สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว จะเข้าสู่เดือนกันยายนก็หมายความว่าที่ญี่ปุ่นเริ่มจะหมดฤดูร้อนแล้วนะครับ ปกติแล้ววันหยุดภาคฤดูร้อนส่วนใหญ่ของโรงเรียนในประเทศญี่ปุ่นจะสิ้นสุดลงช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมนั้นเอง และอาทิตย์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมนี้เด็กๆ ที่ขี้เกียจจะรู้สึกว่าเป็นช่วงที่มีความยากลำบากมากเพราะโรงเรียนใกล้เปิดเทอมแล้วต้องรีบปั่นการบ้านกันเต็มที่ ผมก็เช่นกันตอนที่เป็นเด็กผมจะขี้เกียจมากโรงเรียนหยุดเป็นเดือนสองเดือนก็ไม่ทยอยทำการบ้านเอาแต่เล่นสนุกสนาน ซนไปวันๆ พอใกล้ๆ สิ้นเดือนสิงหาคมนี่จะเป็นช่วงที่เหนื่อยมากเพราะผมต้องรีบทำการบ้านที่ค้างมาเป็นเดือนๆ (●´ω`)ノ บางวิชาของชั้นมัธยมต้นมีการบ้านที่ต้องลงบันทึกสภาพอากาศในแต่ละวันตั้งแต่วันที่เริ่มปิดเรียนจนถึงวันเปิดเรียนพอมาถึงสิ้นเดือนเอาละสิไม่เคยบันทึกไว้เลย　　พอถึงปลายเดือนสักวันที่ 25 สิงหาคมโรงเรียนใกล้จะเปิดล่ะ ผมก็เริ่มคิดขึ้นมาได้ว่าครูให้ลงบันทึกอุณหภูมิและสภาพอากาศทุกวันแล้วผมจะทำยังไงก็ต้องไปตะเวนขอลอกเพื่อนนั่นเอง ชีวิตช่วงนี้เด็กญี่ปุ่นเหนื่อยมาก

จริงๆ แล้วที่คุณครูให้ลงบันทึกสภาพอากาศและอุณหภูมิทุกวันคิดว่าเป็นเพราะคุณครูมีกุศโลบายที่จะให้นักเรียนได้ใส่ใจข่าวและสิ่งแวดล้อม การที่ต้องทำการบ้านทุกวันๆ เพื่อที่จะไม่ให้นักเรียนเรื่อยเปื่อยจนกลายเป็นเด็กเกเรในท้องถิ่น ซึ่งผมคิดว่าที่จริงแล้วก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่เหมือนกันแต่ว่าเด็กนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนมัธยมในโตเกียวหรือเมืองหลวงโรงเรียนที่มีระดับทางสังคมหรือว่ามีระดับสักหน่อยเด็กพวกนี้ทางบ้านเพียบพร้อมมากเป็นทุนเดิม ก็ไม่มีทางที่จะเป็นเด็กเกเรได้ การบ้านที่จะต้องมาบันทึกสภาพอากาศและอุณหภูมิในแต่ละวันแบบเด็กต่างจังหวัดคงจะไม่มีเป็นแน่ อย่างไรก็ตามช่วงหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นนี้ก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าร้อนมากมีอุณหภูมิร้อนระอุโดยเฉพาะปีนี้ร้อนมากเป็นพิเศษไม่ใช่แค่อุณหภูมิภายนอกที่เราวัดได้เท่านั้น แต่อุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกจะยิ่งมีความร้อนมากขึ้นไปอีกหลายเท่า ปีนี้มีข่าวว่าอุณหภูมิที่โตเกียวที่คนสัมผัสได้นั่นร้อนถึง 45 องศาเซลเซียสเลยก็มีและมีผู้ที่เป็นลมแดด ร่างกายขาดน้ำไปแล้วหลายคน ผมเองไม่เคยยินข่าวว่าที่เมืองไทยร้อนจนทำให้คนถึงแก่ชีวิตเลยแต่ที่ญี่ปุ่นมีเรื่องเหตุจากความร้อนที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตไปแล้วเป็นร้อยๆ คนร้อนขนาดไหนลองคิดดูครับ แต่อีกประมาณหนึ่งปีนับจากนี้จะมีการจัดงานใหญ่ระดับโลกนั่นคือกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 และพาราลิมปิกครั้งที่ 32 ที่โตเกียวด้วย

กีฬาโตเกียวโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 มีแผนการที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคมถึง 9 สิงหาคมพ.ศ. 2563 เป็นช่วงที่เรียกได้ว่าร้อนระอุเลยก็ว่าได้ ก่อนนี้ญี่ปุ่นได้วางแผนจัดงบประมาณจำนวนมากเพื่อให้รองรับค่าใช้จ่ายของการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการพิจารณาเรื่องท่าอากาศยาน,โครงการสร้างรางรถไฟสายใหม่, และการสร้างสถานที่จัดการแข่งขันต่างๆ ซึ่งทั้งหมดจะจัดการแข่งขันในกรุงโตเกียวโดยรวมถึงในเขตประวัติศาสตร์และย่านธุรกิจใจกลางของกรุงโตเกียวด้วย

ผมจำได้ว่าเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้วที่โตเกียวเพิ่งจะได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกครั้งที่จะมาถึงนี้ โตเกียวยังมีโฆษณาและออกแคมเปญประชาสัมพันธ์อยู่เลยว่าเป็นช่วงที่โตเกียวอากาศดี อากาศอบอุ่น ไม่หนาว ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่อบอุ่นน่าเที่ยวมาก แต่กลายเป็นว่า ณ ปัจจุบันนี้ SNS เอยหรือว่าข้อความทางโลกออนไลน์ต่างๆ โซเชียลเน็ตเวิร์คไปไกลกว่าที่คิด คนทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นที่แท้จริงของตัวเองผ่านสื่อและส่งกระจายกันต่อไปได้อย่างกว้างขวางโดยเฉพาะทวิตเตอร์ ถ้าจะเทียบให้เห็นง่ายๆ อย่างที่เมืองไทยชอบเล่น Facebook ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ชื่อจริงและเป็นเพื่อนที่อยู่ในแวดวงที่รู้จักกัน เมื่อเพื่อนโพสข้อความอะไรหรือรูปภาพหรือเรื่องราวต่างๆ เพื่อนๆ ก็จะมากดไลท์กดแชร์ แล้วก็พยามชมพูดในแง่ดีมากกว่า แต่ที่ญี่ปุ่นจะเล่น Twitter เป็นส่วนมากซึ่งทวิตเตอร์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้ชื่อจริงและอาจจะมีการใช้ชื่อแฝงโดยที่ไม่สามารถรู้ว่าผู้ที่เล่นที่แท้จริงนั้นเป็นใคร ซึ่งข้อความที่อยู่ในTwitter ก็เลยทำให้เป็นข้อความที่เป็นจริงจากความรู้สึกที่ต้องการสื่อออกมา แล้วทุกคนก็จะมาอ่านแสดงความคิดเห็นและกดไลท์กดแชร์กันมากขึ้น

นอกจากเรื่องแคมเปญที่เคยออกมาแรกๆ เรื่องสภาพอากาศต่างๆ แล้วมาดูปัจจุบันว่าร้อนและน่าเป็นห่วงแค่ไหน ปัจจุบันโตเกียวช่วงเดือนกรกฏาคม-สิงหาคมเป็นช่วงที่ร้อนระอุและไม่น่าเที่ยวมากที่สุด นอกจากนั้นเรื่องงบประมาณต่างๆ ในการจัดงานก็เปลี่ยนไปจากแผนเดิม เช่น แผนที่จะสร้างสนามกีฬาแห่งชาติใหม่ที่ยิ่งใหญ่มากๆ ก็ได้ถูกยกเลิกแล้วได้มีการจัดการประกวดราคาอีกครั้งโดยมีการลดสเปกลงมากมาย ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนในช่วงการก่อสร้างสนามกีฬาก็เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอาจจะมากกว่าการคาดการณ์งบประมาณเดิมถึงสี่เท่าจึงมีการนำเสนอให้มีการปรับปรุงแผนงานเพื่อลดงบประมาณต่างๆ รวมถึงการย้ายสถานที่จัดการแข่งขันออกนอกกรุงโตเกียวก็ได้ และกีฬาหลายๆ ประเภทก็ไม่ได้รับการผลักดันอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมา ต่อไปนี้ก็คงต้องติดตามต่อว่าจะญี่ปุ่นมีแผนรับมือกันอย่างไร

ซึ่งต่อไปนี้คงจะมีการเตรียมความพร้อมสู่โตเกียวโอลิมปิก 2020 และนับถอยหลังแล้วครับ หลายๆ เรื่องที่คนญี่ปุ่นมองว่าแม้ว่าจะได้ประโยชน์ในแง่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ประเทศและจะมีแขกและนักท่องเที่ยวมากมายมาเยือนจากทั่วโลก จะได้รู้จักโตเกียวและได้เห็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในโตเกียวและญี่ปุ่น แต่ว่าอีกมุมหนึ่งก็พูดถึงเรื่องของการประหยัดงบประมาณในการดำเนินการหลายเรื่องมากจนเหมือนขี้เหนียวจนเกินไป ที่เป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นมองว่าจะทำแบบนี้จริงหรือ แต่เราก็พยายามมองในแง่ดีแล้วกันครับ ผมจะขอยกตัวอย่างบางเรื่องที่คนญี่ปุ่นพูดกันที่สื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นว่าการจัดโตเกียวโอลิมปิกจะทำแบบนี้จริงๆ หรอ

1. เรื่องการร้องขอให้ประชาชนร่วมมือกันงดเดินทางในช่วงมีการจัดงาน ถ้าเป็นไปได้ให้ดูทีวีอยู่ที่บ้านตัวเอง ร้องขอเรื่องการงดใช้รถยนต์และลดการเดินทางโดยรถสาธารณะในช่วงของการจัดงาน ขอความร่วมมือไม่สั่งอาหารหรือว่าสินค้าเดลิเวอรี่เพื่อจะได้ลดความแออัดของปริมาณการเดินทาง ขอให้ลดการใช้Wi-Fi เป็นต้น

2. เรื่องของการรณรงค์ให้คนช่วยกันรดน้ำบนถนนเพื่อช่วยดับร้อนในช่วงการจัดงาน 打ち水 uchimizu ให้ปลูกดอกไม้ เช่น 朝顔 morning glory คล้ายๆ ดอกผักบุ้ง

3. เรื่องของกีฬาไตรกีฬาหรือการแข่งขันกีฬา3 ประเภทแบบต่อเนื่องกันโดยจะแบ่งตามลำดับดังนี้คือว่ายน้ำ→จักรยาน→วิ่ง ระยะทางในการแข่งขันกีฬาแตะละประเภทนั้นแบ่งออกได้เป็นหลายระยะทางแตกต่างกันออกไปดังนี้แต่มาตรฐานโอลิมปิกคือที่ระยะ 1.5/40/10 กิโลเมตร ครั้งนี้จะจัดที่สวนน้ำโอไดบะ จะใช้เป็นสถานที่ชั่วคราวสำหรับการจัดในครั้งนี้ ซึ่งหาดโอไดบะนั้นเป็นหาดที่คนญี่ปุ่นยังไม่กล้าลงไปว่ายน้ำเลย

4. เรื่องขอความร่วมมือเป็นอาสาสมัคร รวมทั้งล่ามภาษาแบบ volunteer หรืออาสาสมัครซึ่งคือผู้ที่จะมาอาสาช่วยเหลือหรือทำงานด้วยความเต็มใจโดยไม่ได้ถูกบังคับ ขอคนที่ยินดีที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมฟรี โดยให้ช่วยรวมตัวกัน อาสาสมัครของกองกีฬาบางอย่างเช่นวิ่งมาราธอน ต้องเริ่มตั้งแต่ตีห้าเพื่อป้องกันแดดร้อนช่วงสาย คนที่เป็นทีมอาสาสมัครจะไม่ได้ห้องพักคืนก่อนงานแต่ถูกขอความร่วมมือว่า คืนก่อนงานไม่ต้องนอนหลับ ตอนกลางคืนให้นั่งคุยรอๆ จนกว่าจะเช้าเอาแล้วกัน

การที่เป็นอาสาสมัครในครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าจะได้รับค่าตอบแทนหรือเปล่าถึงแม้ว่าจะได้รับความภูมิใจ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ครั้งโตเกียวโอลิมปิกครั้งแรกนั้นผู้ที่เป็นอาสาสมัครต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นล่ามภาษา หรือว่าทำงานต่างๆ ก็ยังได้รับค่าแรงเป็นเงินถึง 30,000 yen (คิดเป็นเงินไทยก็หมื่นกว่าบาท) เงิน 30,000 yen เมื่อ50 กว่าปีที่แล้วถือว่ามีมูลค่าสูงมากนะครับ แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้รับค่าแรงหรือเปล่า เพราะครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครล่ามภาษา หรือว่าแพทย์ พยาบาล ต่างก็ถูกขอความร่วมมือให้ช่วยเป็นอาสาสมัครแบบสมัครใจทั้งสิ้น

5. ประเด็นเรื่องการระดมพล 動員Dōin ที่จริงเป็นคำศัพท์ที่ใช้เกี่ยวกับทหาร มีจุดประสงค์เพื่อรวบรวมและย้ายผู้คนและสิ่งต่างๆ เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้อย่างเป็นระบบ/ในการรวบรวมกำลังพลสำรองนั้นทำให้ ได้จำนวนคนจำนวนมากมาใช้ในกิจการงานที่ต้องการ ทำไมถึงมีการรวมตัวกันได้เพราะว่าทางรัฐบาลได้ร้องขอไปที่บริษัทหรือโรงเรียนต่างๆ ให้ช่วยระดมพล ดังนั้นผู้ที่เป็นสมาชิกอยู่ในองค์กรนั้นๆ จึงต้องทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครไปโดยปริยาย

ถ้าเปรียบเทียบกับโตเกียวโอลิมปิกครั้งที่แล้วเมื่อ 50 ปีก่อน ครั้งนั้นทุกคนมีความหวัง และเชียร์กันอย่างร่วมมือร่วมใจ ครั้งนั้นมีการพัฒนาอย่างหลากหลาย เช่น การสร้างระบบรถไฟชินกันเซน และสนามบินและสิ่งก่อสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการจัดงานโอลิมปิกมากมาย แต่เทียบกับครั้งนี้ซึ่งเป็นยุค 2020 กลายเป็นว่าการจัดงานโอลิมปิกฤดูร้อนที่มีมาตรการรองรับโดยการให้คนมาช่วยกันรดน้ำตามถนนและการปลูกดอกไม้ที่เรียกว่ามอร์นิ่งกลอรี่ เพื่อให้ความสดชื่นในยามเช้า หลายคนพูดว่านี่มันเป็นมาตรการรองรับโอลิมปิกในยุคเอโดะโบราณหรือเปล่า หลายคนยังพูดติดตลกอีกว่าอีกหน่อยก็คงจะต้องมีแขวนกระดิ่งหรือนำกังหันลมฤดูร้อนมาติดเพื่อให้เกิดความผ่อนคายแน่ๆ แทนที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้แต่กลายเป็นว่ามีความประหยัดงบจนเกินไปไหม

นอกจากนั้นจากเรื่องการจัดงานโอลิมปิกในครั้งนี้ก็ทำให้โรงแรมต่างๆ แม้ว่าจะเป็นโรงแรมขนาดเล็กก็เพิ่มค่าที่พักขึ้นเป็นอีกหลายเท่าตัว และยังมีอีกหลายหลายประเด็นที่เกี่ยวกับโตเกียวโอลิมปิกที่สามารถหยิบยกมาพูดเป็นเรื่องราวได้ ต่อไปก็จะมีการนำมาพูดให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันอีกในโอกาสหน้าครับ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นที่พักหรือสถานที่ต่างๆ ก็แทบจะถูกจองเต็มไปหมดแล้วใครจะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนั้นต้องรีบหน่อยนะครับ วันนี้สวัสดีครับ