คอลัมน์ "เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น" โดย "ซาระซัง"
หน้าสถานีรถไฟแถวบ้านฉันมักจะมีกลุ่มคนมาตั้งโต๊ะสามสี่ตัวอยู่ทุกสัปดาห์ บนโต๊ะมีกรงใส่ลูกแมวอยู่หลายกรง ทั้งแบบเพิ่งอายุไม่กี่สัปดาห์หรือหลายเดือน ติดป้ายไว้ว่า “หาคนรับเลี้ยง” พวกเขามีของเล่นแมวติดมาด้วย โดยเฉพาะไม้ที่ปลายติดพู่ไว้ให้แมวเขี่ยเล่น มีกล่องรับบริจาคช่วยเหลือแมววางไว้ ฉันขอเรียกคนกลุ่มนี้ว่า “ชมรมหาบ้านให้แมว” ก็แล้วกัน
คนจำนวนไม่น้อยที่เดินผ่านไปมาพากันหยุดแวะเวียนดูแมวน้อยเหล่านี้ ฉันเองก็ชอบทั้งสุนัขและแมวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยอดไม่ได้ที่จะต้องหยุดแวะดูเสมอเช่นกัน ฉันถามคนในชมรมว่าลูกแมวพวกนี้มาจากไหนหรือ เขาเล่าว่าไปเจอจากข้างทางบ้าง รับมาจากศูนย์อนามัยบ้าง
คือที่ญี่ปุ่นนี้หากเจ้าของเลี้ยงลูกสุนัขหรือลูกแมวไม่ไหว หาคนเลี้ยงไม่ได้ ก็จะเอาใส่กล่องมาไว้ข้างทางที่คนผ่านไปมาเผื่อจะมีใครเก็บไปเลี้ยง ทีนี้หากปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นบางคราวก็อาจจะมีชีวิตไม่รอดเพราะจะมีอีกามาจิกทึ้ง หรือถ้าเจ้าของเอาไปส่งศูนย์อนามัยก็ไม่แน่ว่าจะมีชีวิตรอด (เดี๋ยวจะเล่าต่อไป) ซึ่งหากคนในชมรมทราบก็จะไปช่วยแมวพวกนี้ไว้ก่อน โดยเอาไปไว้ที่เลี้ยงรวมของชมรมชั่วคราวและผลัดเวรกันไปดูแล บางคนก็รับแมวไปเลี้ยงจำนวนมากแล้วที่บ้านตัวเอง และพยายามจะหาคนช่วยแบ่งไปเลี้ยงบ้าง
สำหรับศูนย์อนามัยของญี่ปุ่นนั้นจะให้บริการหลายด้าน ส่วนหนึ่งที่เกี่ยวกับสุนัขและแมวได้แก่การ 1) กำจัดสุนัขและแมวจรจัดหรือที่เจ้าของพามาส่ง 2) หาคนรับเลี้ยงสุนัขหรือแมวเหล่านี้ 3) รอเจ้าของที่ทำสัตว์เลี้ยงหายมารับคืน
จากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงสิ่งแวดล้อม ณ พ.ศ. 2561 จำนวนสุนัขหรือแมวซึ่งศูนย์อนามัยรับไว้มีทั้งหมดประมาณ 1 แสนตัว ในจำนวนนี้ที่เจ้าของเป็นผู้นำมาส่งมีประมาณ 15,000 ตัว นับว่ามีสุนัขหรือแมวถึงร้อยละ 15 ที่ถูกเจ้าของพามาเอง นอกนั้นส่วนมากก็น่าจะถูกเจ้าของทิ้งอยู่ดีหรือไม่ก็พลัดจากเจ้าของ เพราะปกติญี่ปุ่นจะไม่ปล่อยสุนัขแมวเร่ร่อน
แต่ก็ยังดีที่ปริมาณสัตว์ที่ถูกกำจัดมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี และจำนวนสัตว์ที่ส่งคืนเจ้าของหรือมีคนมารับไปเลี้ยงก็มีจำนวนมากขึ้นโดยเฉพาะแมว อาจจะเป็นผลจากความพยายามของกลุ่มคนซึ่งรณรงค์เพื่อให้ไม่มีการกำจัดสุนัขและแมวในญี่ปุ่น ที่ทำให้ประชาชนมีความตระหนักมากขึ้นก็เป็นได้
ภาพซ้าย:วันสุดท้ายก่อนสุนัขสองตัวจะถึงคิวถูกกำจัด / ภาพขวา:มีผู้มารับไปเลี้ยงหลังทันทีที่เห็นประกาศในเฟสบุคของ Angels Among Us Pet Rescue ในสหรัฐฯ
ฉันเคยดูสารคดีเกี่ยวกับงานกำจัดสุนัขของศูนย์อนามัย เขาจะขังสุนัขรวมกันก่อนจะกดปุ่ม สักครู่จะได้ยินเสียงสุนัขร้องโหยหวน ก่อนจะค่อย ๆ ล้มลงขาดใจตายทีละตัว ชวนให้สลดสังเวชใจที่ครั้งหนึ่งสุนัขที่เป็นมิตรกับคนเหล่านี้ก็เคยมีเจ้าของที่รักและเลี้ยงมา ก่อนที่วันหนึ่งจะถูกทอดทิ้ง หรือถูกเจ้าของนั่นเองเป็นผู้จูงมาสู่เงื้อมือมัจจุราชเช่นนี้
ที่ญี่ปุ่นหาสุนัขและแมวเลี้ยงได้ง่าย ถ้าไม่จำเพาะเจาะจงว่าต้องการสายพันธุ์ดี ๆ ก็สามารถติดต่อที่ศูนย์อนามัยหรือชมรมหาบ้านใหม่ให้สุนัขและแมวได้หลายแห่ง มักมีการสัมภาษณ์เพื่อดูว่าเจ้าของใหม่เหมาะที่จะเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพียงใด และอาจต้องช่วยชำระค่ายาค่ารักษาที่ผ่านมาของสัตว์ตัวนั้น รวมทั้งค่าธรรมเนียมอื่นเล็กน้อย
เพื่อนร่วมงานฉันสองคนรับสุนัขและแมวมาจากศูนย์อนามัย นับว่าได้ช่วยชีวิตสัตว์ที่จะถูกฆ่าให้ได้มีชีวิตรอด และยังเจือจุนด้วยการเลี้ยงดูต่อด้วย ทั้งคู่ต่างก็ได้สัตว์เลี้ยงที่เชื่องและว่านอนสอนง่ายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เห็นเพื่อน ๆ รักพวกมันมากก็พลอยดีใจไปกับทั้งคนเลี้ยงและสัตว์เลี้ยง ที่ต่างก็เป็นความอบอุ่นให้กัน
ฉันเองก็ไปดูแมวของชมรมหาบ้านให้แมวที่หน้าสถานีรถไฟอยู่เรื่อย จนมาวันหนึ่งฉันเหลือบไปเห็นแมวที่อยู่ในกล่องพลาสติกแยกไว้ต่างหาก แม้จะเห็นไม่ถนัดตา แต่ก็ไม่รู้นึกอย่างไรจึงถามคนในชมรมถึงแมวตัวนั้น คุณป้าคนหนึ่งตอบ “อ๋อ แมวตัวนั้นจะเอาไปฉีดยา เป็นภูมิแพ้น่ะ” ฉันถาม “เป็นแมวที่คุณเลี้ยงไว้เอง ไม่ได้หาบ้านให้ใหม่ใช่ไหมคะ” เขาตอบ “เปล่า ถ้าใครจะเอาก็ยกให้นะ” ฉันจึงขอดูแมวตัวนั้น พอเห็นหน้าปุ๊บก็หลงรักมันเข้าทันที
มันเป็นแมวสามสีขนยาวฟูสลวย หน้าหวานซึ้ง แต่เป็นแมวโตแล้ว เขาว่ามันอายุประมาณขวบหนึ่ง พี่น้องมันก็เป็นแมวสามสีแบบนี้ แต่มีตัวนี้ตัวเดียวที่ขนยาว ตัวอื่น ๆ ขนสั้น แมวสามสี (ขาว ดำ ส้ม) แบบนี้เป็นแมวที่มักพบเห็นทั่วไปในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เป็นแมวพันธุ์ผสมและมักเป็นแมวจรจัด ที่แปลกคือแมวสามสีมักเป็นตัวเมีย หากมีตัวผู้หลงมา คนญี่ปุ่นจะถือว่ามันเป็นแมวนำโชค
ฉันไม่ทราบว่าแมวสามสีตัวนี้เป็นเพศอะไรหรือจะนำโชคหรือเปล่า แต่ก็เอ่ยปากว่าอยากได้ตัวนี้จัง คุณป้าถามทันที “เอาไหม ๆ” แต่ฉันก็กังวลอยู่อย่าง เพราะเคยได้ยินเพื่อนบอกว่า ถ้าจะเลี้ยงแมวก็ทำใจนะ เฟอร์นิเจอร์พังยับเยินแน่นอน เลยถามว่า “มันข่วนโซฟาหรือวอลเปเปอร์ไหมคะ” คุณป้าตอบ “ตัวนี้ไม่นะ หาที่ฝนเล็บให้มันสิ ที่ทำจากกระดาษลูกฟูกน่ะ แมวก็จะไปข่วนพวกนี้แทน”
ที่ผ่านมาแม้จะอยากเลี้ยงสุนัขหรือแมว สามีก็มักบอกว่าอย่าเลย แต่น่าแปลกที่ครั้งนี้พอเขาเห็นหน้าเจ้าเหมียวตัวนี้กลับไม่ว่าอะไร เออออห่อหมกยอมให้เลี้ยงเสียดื้อ ๆ คุณป้าสัมภาษณ์ฉันว่าเคยเลี้ยงแมวหรือยัง ที่บ้านมีสัตว์เลี้ยงอื่นไหม ฯลฯ พอตอบคำถามเป็นที่พอใจแล้วดูท่าจะผ่าน คุณป้าก็บอกว่าวันนี้ยังให้ไม่ได้นะ ขอเอาแมวไปหาหมอก่อน แล้วเดี๋ยวไว้จะไปส่งแมวให้ถึงบ้านตามวันเวลาที่นัด
พอถึงวันนัด คุณป้าก็ขับรถพาแมวมาส่ง แมวก็เดินไปมาในบ้านฉันแบบตื่น ๆ ว่าที่นี่ที่ไหน ก่อนจะมุดไปหลบอยู่ใต้โซฟาเป็นเวลาสามวันเต็ม จนฉันกังวลไปต่าง ๆ นานาว่าเธอจะตรอมใจหรือเปล่า แต่พอถามคนที่เลี้ยงแมวแล้วก็ทราบว่าเป็นอาการปกติของแมวบางตัวเมื่อมาอยู่ที่ใหม่
ก่อนคุณป้าจะกลับในวันนั้น คุณป้าก็น้ำตารื้นขึ้นมา ทำเอาฉันตกใจ กังวลว่านี่เป็นแมวที่คุณป้ารักและจริง ๆ แล้วไม่ได้อยากจะให้หรือเปล่า ฉันถามคุณป้าว่าเอาแมวคืนไหม เลี้ยงมันมาเป็นปีก็คงจะรักมัน แต่คุณป้าปฏิเสธแข็งขัน บอกว่าที่บ้านก็รับเลี้ยงแมวอยู่ 20 กว่าตัวแล้ว ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง มีคนรับไปเลี้ยงแหละดี จะได้หายห่วงไปอีกเปลาะ
ฉันบอกคุณป้าว่าถ้าทำใจไม่ได้ จะมารับคืนเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะฉันก็ไม่สบายใจหากไปพรากของรักของหวงของใครเขามา แต่คุณป้าก็ไม่เคยมารับคืน เพียงแต่มาติดตามผลถึงบ้านหลังผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ว่าแมวเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาในการเลี้ยงอย่างไรบ้างไหม
หลังจากนั้น ทุกครั้งที่ฉันเดินผ่านหน้าสถานีและเห็นคุณป้า ก็จะเดินเข้าไปทักทายและเล่าเรื่องแมวให้ฟัง ฉันบอกว่ายังไม่กล้าตัดเล็บแมวเลย กลัวว่ามันจะสยายกรงเล็บฉีกร่างฉันเป็นชิ้น ๆ เสียก่อน คุณป้าอีกคนที่ยืนฟังอยู่ช่วยแนะนำ “เอาไปให้หมอตัดให้สิ หมอเขาเก่ง รู้วิธีตัด คิดเงิน 500-800 เยนอะไรก็ยอมไปเถอะ อย่างน้อยแมวมันก็ไม่เกลียดเรา ถ้ามันจะเกลียดก็คงเกลียดหมอแทนน่ะจ้ะ” พลางหัวเราะสดใส
ฉันยิ้มตอบ ในใจคิดหาทางตัดเล็บแมวด้วยตัวเองให้ได้อยู่ดี พอคุ้นเคยกับแมวมากขึ้นจนรู้นิสัย ก็เลยรู้วิธีหลอกล่อแมว เช่นตัดเล็บแค่ไม่กี่นิ้วก่อน พอเธอเริ่มปัดหางพั่บ ๆ แสดงความหงุดหงิด ก็นับเป็นสัญญาณเตือนว่าฉันต้องห่วงความปลอดภัยของตัวเองแล้ว ก่อนจะปล่อยเธอไป รอโอกาสตัดเล็บอื่นต่อวันหลัง
ถามคุณป้าสองคนด้วยว่าปกติใส่ยาหยดหลังแมวกันเห็บหมัดไหม คุณป้าบอกว่าที่ผ่านมาเลี้ยงในบ้านจึงไม่ได้ใส่ยา แต่สุดท้ายฉันก็ไปหายามาหยดหลังให้ทุกเดือน เพราะต้องการป้องกันโรคที่เกิดจากแมลงอีกหลายชนิด วันหนึ่งเอาแมวไปหาหมอเพราะเห็นเกาหูบ่อย หมอตรวจแล้วบอกว่าไม่มีไรหู (สุดท้ายเป็นเพราะภูมิแพ้) และถามว่าเลี้ยงอย่างไร ฉันบอกว่าใส่ยาหยดหลังให้ทุกเดือน หมอบอกว่า “อย่างนี้นี่เอง ดีแล้วที่ใส่ บางคนนึกว่าเลี้ยงในบ้านจะไม่มีเห็บหมัด ไม่มีตัวไร ไม่จริงหรอก"
แมวฉันนี่ก็เรียบร้อยมากอย่างที่คุณป้าบอกเลยค่ะ เธอไม่เคยข่วนโซฟา อย่างมากก็แค่ยืนด้วยสองขาหลัง เอาขาหน้าเกาะโซฟาแล้วแอ่นหลังยืดตัว ไม่ค่อยจะปีนป่ายขึ้นโต๊ะ หรือก่อความเดือดร้อนให้เจ้าของเลย เวลาฉันนั่งอยู่บนโซฟาแล้วแมวเดินมาหา ก็จะมานั่งมองหน้าเหมือนขออนุญาตก่อนว่าขึ้นมาได้ไหม พอเรียกให้ขึ้นมา แมวถึงจะกระโดดมานั่งด้วย สามีบอกขำ ๆ ว่า “สงสัยที่เรียบร้อยเพราะเป็นแมวญี่ปุ่น”
เจ้าเหมียวตัวนี้รักเจ้าของมาก เวลาฉันหรือสามีกลับมาถึงบ้านบางทีเธอก็จะวิ่งมาต้อนรับ หรือตอนเช้าตอนใกล้เวลาเจ้าของจะตื่นนอน เธอก็มานอนรออยู่หน้าห้องก่อนจะเดินตามไปมาราวกับลูกเจี๊ยบ เวลาเจ้าของยืดเส้นยืดสายอยู่ที่พื้น เธอก็จะมายืดเส้นยืดสายหรือกลิ้งตัวไปมาอยู่ข้าง ๆ ตาม
ถ้าใครอยากเลี้ยงสุนัขและแมว รวมทั้งมีความพร้อมในระยะยาวที่จะเลี้ยงให้มันสุขสบายและไม่เหงาได้ อยากให้ลองมองหาสุนัขและแมวถูกทิ้งดูก่อนนะคะ แล้วจะพบว่าความอบอุ่นที่หยิบยื่นให้กันนั้นเป็นความชุ่มชื่นใจมากเพียงใด
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีค่ะ.
"ซาระซัง" สาวไทยที่ถูกทักผิดว่าเป็นสาวญี่ปุ่นอยู่เป็นประจำ เรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ชั้นประถม และได้พบรักกับหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัย เป็น “สะใภ้ญี่ปุ่น” เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโตเกียวนานกว่า 5 ปี ปัจจุบันติดตามสามีไปทำงาน ณ สหรัฐอเมริกา ติดตามคอลัมน์ “เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น” ที่ MGR Online ทุกวันอาทิตย์.