ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป ได้ประกาศผลกำไรรายไตรมาสมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับบรรดาบริษัทของญี่ปุ่น ที่เจ็บหนักถ้วนหน้าจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป ซึ่งมีธุรกิจหลักคือบริการเครือข่ายโทรคมนาคมในญี่ปุ่น และขยายไปยังธุรกิจไฮเทคอื่น ๆ ประกาศกำไรสุทธิในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน มากถึง 1.1 ล้านล้านเยน หรือราว 10,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายในส่วนของ “อาลีบาบา” ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ช ของจีน ที่ซอฟต์แบงก์เข้าไปถือหุ้นด้วย ยอดขายของอาลีบาบาเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 3 เป็นมากกว่า 2.3 ล้านล้านเยน หรือราว 22,000 ล้านดอลลาร์
ในช่วงหลายปีนี้ ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ปได้เพิ่มการลงทุนจำนวนมากในธุรกิจเทคโนโลยีใหม่ กองทุน "วิชั่น ฟันด์" มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ของซอฟแบงก์ ได้เพิ่มการลงทุนในหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI
ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นของซอฟต์แบงก์ สวนทางกับบรรดาบริษัทต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ที่ล้วนแต่ประกาศผลกำไรที่ลดลง เป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ
นิสสัน ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนลดลงมากกว่า 98% โดยเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับบริษัทในไตรมาสเดียวกันนี้ ทำให้นิสสันประกาศตัดลดคนงานราว 12,500 ตำแหน่งทั่วโลกภายในเดือนมีนาคม 2566
บริษัทในอุตสาหกรรมอื่น เช่น แคนนอน โคมัตสึ ออมรอน ต่างก็ปรับลดประมาณการณ์ผลกำไรลงเช่นเดียวกัน.