เอเอฟพี - เจแปน แอร์ไลนส์เผยผลประกอบการไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 62 (เม.ย.-มิ.ย.) กำไรลดกว่า 32% ชี้เป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันและสงครามการค้าสหรัฐกับจีน
วานนี้ (31 ก.ค.) สายการบินเจแปน แอร์ไลนส์ หรือ เจเอแอล เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2562 (ปีงบประมาณญี่ปุ่นเริ่มในเดือนเมษายน) ว่า กำไรสุทธิลดลงถึงร้อยละ 32.1 จากผลของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่กระทบชิ่งไปยังอุปสงค์ต่อการขนส่งสินค้า
กำไรสุทธิของเจเอแอลในช่วงเมษายน-มิถุนายนปีนี้ หล่นลงเหลือ 11,900 ล้านเยน หรือราว 3,360 ล้านบาท จากที่เคยทำกำไรสูงถึง 17,500 ล้านเยน (ราว 4,940 ล้านบาท) ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้ว่าในปีนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 หรือคิดเป็นยอดขายรวม 355,700 ล้านเยน (ราว 100,500 ล้านบาท)
แถลงการณ์ของทางสายการบินญี่ปุ่นระบุว่า ผลจากความตึงเครียดของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของบริษัทเกิดความไม่แน่นอน ขณะเดียวกันรายได้จากธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศก็ตกลงร้อยละ 3.3 จากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
อย่างไรก็ตาม เจเอแอลยังคงคาดการณ์ผลกำไรสุทธิในปีนี้ซึ่งจะสิ้นสุดในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 ไว้อยู่ที่ 114,000 ล้านเยน (ราว 32,200 ล้านบาท) และยอดขายรวมอยู่ที่ 1.56 ล้านล้านเยน (ราว 440,000 ล้านบาท)
ก่อนหน้านั้นในวันอังคารที่ 30 ก.ค. เอเอ็นเอ โฮลดิงส์ บริษัทแม่ของสายการบินเอเอ็นเอก็เปิดเผยเช่นเดียวกันว่า ในช่วงไตรมาสแรกกำไรสุทธิลดลงเกือบร้อยละ 30 เมื่อเทียบกันปีต่อปี โดยให้เหตุผลว่า แม้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นแต่ต้นทุนและภาระภาษีก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เอเอ็นเอยังคงเป้าหมายการคาดการณ์แบบทั้งปีไว้ในระดับเดิม