พรรครัฐบาลของนายกฯ ชินโซ อาเบะ ยึดเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันอาทิตย์ แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ 2 ใน3 ที่จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ขณะที่เกาหลีใต้ร้อน ๆ หนาว ๆ ว่าผู้นำญี่ปุ่นจะเดินหน้าใช้ไม้แข็งต่อ หรือยอมเจรจาผ่อนคลายการควบคุมการส่งออกวัสดุไฮเทค
ญี่ปุ่นจัดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม โดยการเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการหยั่งความนิยมต่อรัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่บริหารประเทศมานาน 6 ปีครึ่ง
นายกฯ ชินโซ อาเบะ ประกาศว่า หากชาวญี่ปุ่นต้องการเสถียรภาพ ขอให้เลือกพรรค LDP ของเขาให้บริหารประเทศต่อไป ขณะที่พรรคฝ่ายค้านชูนโยบาย “เปลี่ยนญี่ปุ่น” พร้อมวิจารณ์ความโอหังของรัฐบาล ที่ครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภามานานกว่า 6 ปี
การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครึ่งหนึ่ง โดยวุฒิสภาญี่ปุ่นมีจำนวนทั้งสิ้น 245 คน มีวาระ 6 ปี ทุก ๆ 3 ปี ครึ่งหนึ่งในจำนวนนี้จะหมดวาระ และจะต้องจัดการเลือกตั้งเข้ามาใหม่ให้ครบจำนวน
ผลการเลือกตั้งคือ พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลญี่ปุ่นกับพรรคโคเมโตซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้ที่นั่งรวม 141 ที่นั่ง รักษาเสียงข้างมากเกินครึ่งหนึ่งของวุฒิสภาได้ ขณะที่ฝ่ายค้านมีที่นั่งรวม 104 ที่นั่ง
อาเบะชนะจริงหรือ ?
แต่หากพิจารณาผลการเลือกตั้งอย่างละเอียดจะพบว่า ภายใต้ชัยชนะของพรรครัฐบาลนั้น มีนัยแห่งความถดถอยเช่นกัน เพราะพรรครัฐบาลได้ที่นั่งลดลงจากที่เคยมีอยู่ก่อนเลือกตั้ง และที่สำคัญคือ ไม่สามารถรักษาเสียง 2 ใน 3ของทั้งสองสภา ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภา ก่อนที่จะจัดการลงประชามติทั่วประเทศ
พรรครัฐบาลเมื่อรวมกับพรรคนิปปอน อิชิน ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน แต่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีเสียงรวม 160 เสียง ยังไม่ถึงเกณฑ์เสนอแก้รัฐธรรมนูญที่ต้องการเสียง 164 เสียง
นอกจากนี้ จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ก็มีเพียงร้อยละ 48 ต่ำเป็นประวัติการณ์ ทำให้พรรครัฐบาลอ้าง “ฉันทามติ” ได้อย่างไม่เต็มปากเต็มคำนัก
เมื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่นายกฯ อาเบะ คว้าชัยในการเลือกตั้ง น่าจะเป็นเพราะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น ราคาหุ้นพุ่งสูง ขณะที่พรรคฝ่ายค้านไม่มีนโยบายที่เป็นรูปธรรม มีเพียงการโจมตีการรวบอำนาจของรัฐบาล ชาวญี่ปุ่นจึงเลือกความสงบ จบที่อาเบะ!!
แต่ของขวัญที่ชาวญี่ปุ่นจะได้รับแน่นอน คือ การขึ้นภาษีผู้บริโภคจากร้อยละ 8 เป็น 10 ในเดือนตุลาคมนี้ ตามที่นายอาเบะประกาศไว้ ขณะที่ปัญหาสังคมผู้สูงอายุก็ยังคงไล่ล่า จนมีความกังวลว่าอาจทำให้กองทุนเกษียณอายุของรัฐถึงขั้นล้มลงได้
เกาหลีใต้มีหนาว ทรัมป์รอทวงสัญญา
เกาหลีใต้ ซึ่งขณะนี้บาดหมางกับญี่ปุ่นจากการที่ญี่ปุ่นสั่งควบคุมการส่งออกวัสดุไฮเทคไปยังเกาหลีใต้ จนอาจทำให้บริษัทเกาหลีใต้ไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนสำคัญของสมาร์ทโฟนและจอภาพ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหัวใจของแดนโสม
รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังจับตาว่า หลังการเลือกตั้งนายอาเบะจะยังคงใช้นโยบายแข็งกร้าวต่อเกาหลีใต้ต่อไป โดยปลดเกาหลีใต้ออกจาก “บัญชีสิทธิพิเศษทางการค้า” ซึ่งจะทำให้การส่งออกไปยังเกาหลีใต้ ต้องใช้เวลานานถึง 90 วัน หรือว่ารัฐบาลญี่ปุนจะหันมาเจรจากับเกาหลีใต้ เพราะสงครามการค้าส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย
นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้ คาดว่านายโบลตันจะเรียกร้องให้ทั้ง 2 ชาติคลี่คลายเรื่องนี้ผ่านการเจรจา เนื่องจากทั้ง 2 ชาติเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวเป็นนัยว่า เขายินดีที่จะเป็นตัวกลางในเรื่องนี้ นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังเคยระบุว่า หลังการเลือกตั้ง สหรัฐจะเดินหน้าเจรจาให้ญี่ปุ่นซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ และลดความไม่เป็นธรรมที่ญี่ปุ่นได้เปรียบทางการค้าต่อสหรัฐอย่างมหาศาล.
