xs
xsm
sm
md
lg

วันทะเลญี่ปุ่น.. คนญี่ปุ่นไม่เคยมีใครสอนล้างหัว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว ช่วงนี้ถือว่าเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างแท้จริง ที่เมืองไทยถึงจะร้อนแต่ก็จะมีฝนตกลงมาทำให้ชุ่มฉ่ำและคลายร้อนลงได้บ้าง แต่ที่ญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อนนี่ร้อนมากครับโดยเฉพาะเมืองที่อยู่ในหุบเขาหรือเมืองที่เป็นแอ่งกะทะแบบมีภูเขาล้อมรอบจะร้อนเป็นพิเศษ เพื่อนๆ อาจจะไม่เชื่อแต่ต้องเชื่อว่า คนญี่ปุ่นกว่า 70% ชอบฤดูร้อนนะครับ เพราะเป็นช่วงที่ได้ออกไปเที่ยวนอกบ้าน เป็นช่วงเวลาที่มีงานเทศกาลต่างๆ มากมายและได้ไปเที่ยวทะเลด้วย คนญี่ปุ่นมีความทรงจำที่ดีมากมายเกี่ยวกับทะเล เวลาได้ไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน คนรักและครอบครัว จะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ที่ญี่ปุ่นจะมีวันทะเลแห่งชาติด้วยครับ ปีนี้วันทะเลก็เป็นวันหยุดแห่งชาติ ตรงกับวันที่15 กรกฎาคมที่ผ่านมานี่เอง

"วันทะเล" หรือในภาษาญี่ปุ่นว่า "海の日" (Umi no hi) ปีละครั้งคือทุกวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม ถือเป็นวันหยุดราชการของประเทศญี่ปุ่นด้วย เพื่อระลึกถึงความสำคัญทะเลและเป็นการขอบคุณด้วยเพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล ทุกคนใช้ชีวิตโดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับทะเลครับ ปกติชายหาดและทะเลที่ญี่ปุ่นจะมีช่วงเวลาเปิดปิดให้มาเล่นน้ำและทำกิจกรรมต่างๆ โดยจะดูจากอุณหภูมิน้ำทะเลและคุณภาพน้ำส่วน จะไม่ได้เปิดให้เที่ยวได้ตลอดเวลา ใหญ่จะเปิดให้เที่ยวประมาณช่วงต้นเดือนกรกฎาคม~กลางเดือนสิงหาคม ยกเว้นโอกินาวา หาดเปิดช่วงเดือนมีนาคม/เมษายน~กลางเดือนตุลาคม และมีกฏระเบียบข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตามด้วยครับ

คนญี่ปุ่นชอบไปเที่ยวทะเลหน้าร้อนเพราะพาลูกๆ และครอบครัวไปเล่นน้ำบางคนอาจจะไปกับกลุ่มเพื่อนสนิท หรือคู่รักก็จะได้ใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆอวดหุ่นกันเต็มชายหาด และต่างก็จะสนุกกับกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น

◆การนอนรับลม อาบแดด ก่อกองทราย หรือวิ่งเล่นตามชายหาด
◆การลงเล่นน้ำทะเล เล่นเรือหรือกระดานโต้คลื่น, พาราเซลลิ่งหรือให้มอเตอร์โบ๊ทลากตัวเราขณะที่ลอยอยู่บนอากาศโดยใช้ร่มชูชีพ
◆กิจกรรมชายหาดต่างๆ เช่น เล่นปิดตาตีแตงโม, วอลเล่ย์บอลชายหาด
◆กิจกรรมใต้น้ำ เช่น ดำน้ำสกูบา, ดำน้ำสน็อร์กเกิลหรือดำน้ำตื้น ,การนั่งเรือ

ที่ชายหาดจะมีสถานที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวใช้บริการอาบน้ำ เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ให้บริการให้เช่ายืมอุปกรณ์ต่างๆ ขายอาหารเครื่องดื่มที่เรียกว่า บ้านทะเลหรือ 海の家 umi no ie ถือเป็นสถานที่ที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อชายหาดเปิด และก็จะปิดตัวเมื่อถึงช่วงปิดหาดเช่นกันครับ ถ้าตามความคิดผมจะให้อิมเมจของ 海の家 umi no ie ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างแบบร้านอาหารที่ตั้งเป็นเพิงเหมือนร้านอาหารรับลมริมทะเล บางร้านก็จะออกแนวลูกทุ่งเก่าๆ ซกๆ อาจเพราะเปิดแค่บางช่วงไม่กี่วัน ก็ต้องเก็บร้าน หรือบางร้านอาจจะตั้งใจทำให้เป็นคอนเซ็ปท์เฉพาะตัวก็ได้ ส่วนเมนูอาหารที่มีขาย ก็จะทำง่ายๆ ที่คุ้นเคยกันดี เช่น ข้าวโพดย่าง , น้ำแข็งใสราดน้ำหวานสีสดใส, คอนยัคคุมิโซะ, ราเม็ง, เพื่อนๆ อาจจะคิดว่าหน้าร้อนอากาศร้อนๆ จะกินอาหารร้อนๆ พวกราเม็งเอย คอนยัคคุมิโซะเอยจะดีเหรอแต่คนญี่ปุ่นคิดว่ายิ่งร้อนทานอาหารที่ร้อนอากาศภายนอกอาคารร้อนยิ่งกินเหงื่อออกพลักๆ ช่วยกำจัดเกลือให้ระบายออกไปกับเหงื่อแถมกินลมชมทะเลอาหารอร่อยบรรยากาศดีและมีความสุขใจ

แต่อาหารและบริการใน 海の家 umi no ie นั้นจะค่อนข้างมีราคาแพงกว่าปกติสักหน่อยดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวทะเลจึงมักจะนำอาหารและเครื่องดื่มไปกินเอง โดยใส่ภาชนะเก็บความเย็นเหมือนกระติกน้ำครับ ส่วนน้ำก็ใส่ขวดพลาสติกแบบใหญ่ที่สุด สมัยก่อนใสในขวดเบียร์แบบขนาด3 ลิตรเพื่อนำไปใช้ล้างหน้าล้างตาหลังเล่นน้ำทะเล ตอนเด็กๆ ที่บ้านผมก็หิ้วน้ำและอาหารไปกันเองแบบนี้เป็นความทรงจำดีๆ ครับ ตอนนั้นเล่นน้ำเสร็จก็จะใช้น้ำจืดที่หิ้วมาล้างหน้าล้างตาและล้างหัวด้วย ซึ่งไม่เคยมีใครสอนใครมาก่อนเลยว่าต้องล้างหัวอย่างไร เพื่อนๆ เคยมีคนสอนวิธีการล้างหัวหรือการสระผมไหมครับ

ด้วยความทรงจำวัยเด็ก ดังนั้นวันนี้ผมจึงคิดว่าจะคุยเรื่องวิธีการสระผมแบบคนญี่ปุ่นสักหน่อย ปกติถ้าเป็นเรื่องการใช้ห้องน้ำการอาบน้ำก็จะมีการสอนการแนะนำวิธีใช้อยู่บ้างใช่ไหมครับ แต่การสระผมนี่ไม่ค่อยมีใครสอนกันนะครับ ภาษาญี่ปุ่นคำว่า ผม เขียนว่า"髪" Kami เป็นคำคันจิที่ประกอบมาจากคำว่า 長い Nagai ที่แปลว่ายาว , 友だち Tomodachi ที่แปลว่าเพื่อน เพื่อให้จำอักษรและความหมายได้ง่ายจะหมายถึงความเป็นเพื่อนที่ยาวนานก็ได้โดยมีความหมายแฝงว่า ผมเป็นเพื่อนที่ยาวนาน ..หรือหัวไม่ล้านนั่นเอง เพราะไม่ค่อยมีใครอยากหัวล้านหรอกใช่ไหมแต่ไม่ว่าจะสมัยก่อนจนถึงสมัยนี้ก็ไม่ค่อยมีใครถามกันเรื่องวิธีการสระผมนักโดยเฉพาะผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่เชื่อว่ายิ่งมีน้ำมันอยู่บนศีรษะเยอะมากและสระผมจนหนังศีรษะแห้งขาดน้ำมันบนผิวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ดีทั้งนั้นแถมยิ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วงด้วย

ดังนั้นผู้ชายญี่ปุ่นจะสระผมด้วยวิธีและข้อห้ามดังนี้ครับ

1. ไม่ใช่เล็บขูดผิวบนศีรษะเพราะทำให้น้ำมันบนผิวศีรษะไม่สมดุลน้ำมันจะถูกขูดออกไปเยอะแล้วฮอร์โมนจะยิ่งสั่งร่างกายให้ผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มอีกๆและเป็นสาเหตุให้ผิวลอกเกิดรังแคตามมา รังแคที่เกิดจากการหลุดลอกของผิวหนังบนศีรษะเป็นขุยสีขาวบนหนังศีรษะนั่นเองแต่ที่ผมเคยไปสระผมตามร้านตัดผมที่เมืองไทยส่วนใหญ่ช่างจะชอบใช้เล็บจิกและขูดๆเกาอย่างแรงซึ่งก็อาจจะเป็นการรับข้อมูลมาคนละอย่างก็เป็นได้ว่าการสระแบบไหนคือสิ่งที่ดีต่อสภาพผมและหนังศรีษะแต่จะต่างจากที่ญี่ปุ่นอยู่สักหน่อย

ตอนที่ผมเป็นเด็กน้อยประมาณป.3 คุณครูบอกว่าจะมีการตรวจสภาพศีรษะและรังแค ผมเองก็กลัวว่าจะมีรังแคดังนั้นก่อนที่จะถึงวันตรวจสภาพผมหนึ่งอาทิตย์ ผมเองก็สระผมอย่างหนักทุกวันเลยแล้วก็ใช้เล็บเกาๆเพราะว่ากลัวว่าจะมีรังแคแต่มันกลับทำให้หัวผมยิ่งมีรังแคเกิดขึ้นเต็มเลยครับҨ(´-ω-`)

2. อีกเรื่องที่เกี่ยวกับน้ำมันบนศีรษะคือการใช้แชมพูและจำนวนครั้งการสระผม ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตัดผมหรือทำสีผมจะมีการสระผมหลายครั้งมากบางคนกลับบ้านก็สระอีก นี่ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้มีน้ำมันที่ศีรษะเยอะขึ้น ที่ญี่ปุ่นมักจะใช้แชมพูปริมาณน้อย ผู้ชายผมสั้นปริมาณที่พอเหมาะคือใช้ปริมาณดแชมพูที่เทลงที่มือให้มีขนาดประมาณเหรียญห้าบาทไทย ส่วนผู้หญิงผมยาวก็สักเหรียญสิบบาทก็ได้ นอกจากปริมาณแชมพูแล้วการล้างแชมพูให้หมดก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน เคยมีคุณหมอด้านสุขภาพและผิวพรรณบางคนบอกว่าถ้าเป็นไปได้ไม่ควรใช้สารเคมีต่างๆกับร่างกายมากเกินไปบางคนแทบจะไม่ได้ใช้สบู่แชมพูเลย แต่เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับไม่ใช้ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นตัวได้นะจ้ะ

เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนแชมพูยี่ห้อหนึ่งมีโฆษณาออกมา 朝シャンAsa shan เป็นแคมเปญเกี่ยวกับแชมพูของคนสมัยก่อน ลุงป้าที่มีอายุ50-60 ปีขึ้นไปน่าจะรู้จักเรื่องนี้ดีประมาณว่า"ทุกๆ วันช่วงเช้าต้องสระผมแล้วไปเรียน ไปทำงานจะทำให้มีเสน่ห์และถูกตาต้องใจคนรอบข้าง" แต่ที่จริงแล้วสระผมแต่พอดี น้อยครั้งต่อหนึ่งวัน น่าจะดีที่สุดเพราะไม่ทำให้เกิดน้ำมันบนศีรษะมากเกินไป

3. เรื่องอุณหภูมิน้ำแล้วตอนอาบน้ำหรือสระผมควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นกันแน่ข้อนี้อาจจะแตกต่างกันระหว่างมุมมองของคนไทยกับคนญี่ปุ่นนะครับ ก่อนอื่นคนญี่ปุ่นมักจะไม่อาบน้ำด้วยน้ำเย็นเพราะคิดว่ามีผลต่อต่อมน้ำมันด้วยจึงมักจะใช้น้ำอุ่นมากกว่า

ผมมีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเขามีผมหยิกหยักศกมาแต่กำเนิดแต่อยากมีผมตรงบ้างจึงไปร้านทำผมเพื่อให้ช่างยืดผมตรงให้ ช่างทำผมอบรมเขาหลายอย่างว่าผมเขาเสียมากหลายจุดนะตรงนั้นตรงนี้บลาบลา แต่เขาฟังแล้วก็รู้สึกเริ่มรำคาญแล้วจึงบอกว่าถึงแม้ว่าช่างจะเป็นมืออาชีพเรื่องเส้นผม แต่พวกผมก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่ด้วยเรื่องผมๆ แค่อย่างเดียวนะ!! เหมือนกันตอนที่ผมไปร้านทำผมที่ญี่ปุ่นตอนที่ช่างสระผมให้ก็จะชวนลูกค้าคุยๆคุยนั่นนี่มากมายเป็นเรื่องปกติของช่างที่ญี่ปุ่น พอผมบอกว่าแชมพูดีจังจากนั้นช่างทำผมจะสารยายสรรพคุณของแชมพูและผลิตภัณฑ์ของร้านทันทีเพื่อขายของนั่นเอง

4. ใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพผมและถนอมหนังศีรษะ ที่ญี่ปุ่นมีแชมพูสำหรับผู้ชายและเพื่อป้องกันผมร่วง ด้วยสูตรที่คิดค้นมาพิเศษให้เหมาะสมกับสภาพผมท่านชาย ผมมักจะซื้อกลับมาใช้ที่เมืองไทยด้วยเพราะว่าร้านที่เมืองไทยไม่มีขายเลยนี่ก็เกือบจะหมดอีกแล้วถ้าได้ไปญี่ปุ่นต้องเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมอยากซื้อเลยครับ

และนี่ก็คือแนวคิดการสระผมแบบผู้ชายญี่ปุ่นที่มักจะไม่มีใครสอนกันนักต้องคอยเรียนรู้เอาเอง เพื่อนสระผมกันอย่างไรบ้างครับ และช่วงนี้ทะเลเปิดแล้ว ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่าครับ วันนี้สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น