xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อสังคมญี่ปุ่นค้นหาสาเหตุที่ผู้ร้ายไล่แทงเด็กนักเรียน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว วันเสาร์วันหยุดพักผ่อนที่จริงก็อยากจะเขียนเรื่องเบาๆ สนุกๆ ไม่ซีเรียสนักแต่พออ่านข่าวที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นทีไรก็มีแต่ข่าวเครียดๆ โดยเฉพาะช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับคนที่มีปัญหาทางจิตใจที่มักจะทำตัวเป็นปัญหาทางสังคมเยอะแยะมากมายและเมื่อเกิดเหตุใดๆ ขึ้นครั้งหนึ่งสังคมก็จะพากันค้นหาสาเหตุและบางคนก็โทษว่าเพราะสิ่งนั้นเพราะสิ่งนี้ ฟังแล้วก็รู้สึกเครียดไปกับสังคม นอกจากจะรู้สึกเศร้าแล้วก็รู้สึก「ドン引き」Donbiki  เป็นคำสแลง คือมันเป็นอารมณ์ที่ว่าทุกคนในสถานการณ์ร่วมนั้นๆ ต้องตกอยู่ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจโดยพฤติกรรมของใครบางคน หรือสภาพที่บรรยากาศเปลี่ยนไปทันทีทันใดอย่างฉับพลัน!!

เพื่อนๆ เคยดูเรื่อง Bowling for Columbine ไหมครับ ที่เป็นภาพยนตร์สารคดีของประเทศอเมริกัน โดย Michael Moore ภาพยนตร์พยายามจะชี้ถึงสาเหตุหลักของการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1999 ภาพยนตร์เล่าย้อนถึงเหตุการณ์นักเรียน ม.ปลายวัยรุ่น 2 คนซึ่งเป็นนักเรียนในโรงเรียนโคลัมไบน์ ของรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ที่อยู่ๆ นักเรียน 2 คนนั้นก็พกปืนมากราดยิงใส่เพื่อนนักเรียนในโรงเรียนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต13 ศพและบาดเจ็บอีกกว่า 20 คน แม้ว่าบางคนที่รอดชีวิตแต่ก็ต้องพิการ ซึ่งน่าสงสารมากและมือปืนก็ฆ่าตัวตายตามไปด้วย

Michael Moore หาเหตุผลมาอธิบายว่า เหตุผลที่แท้จริงของการสังหารหมู่ครั้งนั้นคืออะไรกันแน่ ซึ่งมีหลายความคิดเห็นจากคนในสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะประเด็นทางสังคมของอเมริกันที่กำลังตกอยู่ในภาวะความหวาดกลัว จากสื่อที่นำมาเสนอก็เต็มไปด้วยเรื่องราวรุนแรง น่าจะมีผลทำให้คนทั่วไปรู้สึกหวาดกลัวและไม่ไว้ใจคนอื่นก็ได้ หรือเพราะกฏหมายอเมริกาที่เอื้ออำนวยให้คนทั่วไปสามารถครอบครองอาวุธปืนได้ง่ายเกินไป หรือบ้างก็โทษไปที่นาย Marilyn Manson มาริลิน แมนสัน นักร้องเพลงอินดัสเทรียลร็อกชื่อดัง ที่ต้องตกเป็นจำเลยสังคมด้วย เพราะเขาถูกกล่าวหาว่าเพลงของเขากระตุ้นให้วัยรุ่น2 คนนั้นก่อเหตุการณ์นั้นขึ้น และในตอนหนึ่งของภาพยนตร์ก็ได้สัมภาษณ์มาริลิน แมนสัน ผู้ตกเป็นจำเลยสังคมด้วย คือเขาตอบว่า

*(คัดลอกบางตอนมาจากบทสัมภาษณ์)

Michael Moore: If you were to talk directly to the kids at Columbine or the people in that community, what would you say to them if they were here right now?
Marilyn Manson: I wouldn’t say a single word to them I would listen to what they have to say, and that’s what no one did.

ไมเคิล มัวร์: ถ้าคุณได้พูดคุยโดยตรงกับเด็กที่ Columbine หรือคนในชุมชนนั้น คุณจะพูดอะไรกับพวกเขา ถ้าพวกเขาอยู่ที่นี่ตอนนี้?
มาริลิน แมนสัน: ผมคงจะไม่พูดอะไรกับพวกเขาเลยสักคำ แต่ผมจะฟังสิ่งที่พวกเขาต้องการพูด และนั่นคือสิ่งที่ไม่มีใครทำ

บทสนทนานี้เป็นที่ฮือฮามาก เพราะฟังแล้วสกิดใจมากๆ จากบทสนทนานี้คือ สิ่งที่มาริลิน แมนสันตอบไปนั้นแสดงให้เห็นมุมมองของเขาต่อสิ่งที่เป็นปัญหาหรือกำลังเผชิญกับปัญหาอยู่ เขาบอกว่าเขาจะ “ฟัง” ..ฟังสิ่งที่พวกเขาต้องการพูด!! ก็เพราะไม่มีใครฟังปัญหานั่นเอง จึงทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นมา

ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้ก็เช่นกันคล้ายๆ กับสถานการณ์ข้างตน คนในสังคมต่างคนต่างคิดว่าสาเหตุที่ผู้ร้ายแทงเด็กนักเรียนที่ป้ายรถประจำทางที่เกิดขึ้นนี้มันคืออะไรกันแน่ และหลายคนพูดว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยจาก 平成 Heisei เฮเซย์เข้าสู่ยุค 令和 Reiwa เรวะรู้สึกว่าปัญหาพวก『無敵の人』Muteiki no hi to จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเยอะเลย

『無敵の人』Muteiki no hi to คือผู้ซึ่งไม่อาจหาคู่แข่งได้!! เป็นแบบไหนจึงเรียกว่าที่เป็น ' ผู้ซึ่งไม่อาจหาคู่แข่งได้!! ตามความหมายแปลประมาณว่าคนที่อยู่ยงคงกระพัน' พูดง่ายๆคือ "คนที่ไม่มีอะไรจะสูญเสีย" เพราะไม่มีอะไรที่จะสูญเสีย, หรือคนที่ไม่ลังเลสำหรับการสูญเสีย เป็นผู้ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือในสังคม, กลัวการสูญเสียทรัพย์สินและงานของพวกเขา, และมีแนวโน้มก่ออาชญากรรม.

ที่จริงแล้วจุดประสงค์ของการเป็นผู้ร้ายของคนเหล่านี้คือ: ทำอะไรก็ที่ได้เริ่ม reset ชีวิตตัวเอง เปรียบเหมือนเป็นการทำลายซากปรักหักพัง 破滅 destruction ให้แตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งได้มาทำลายความหวังของตนให้พังทลายจนหมดหวังป่นปี้ ที่บอกตอนต้นว่าเป็นพวกที่ซึ่งไม่อาจหาคู่แข่งได้ คือบางคนนั้นหมดหวังจนหาทางออกไม่ได้ เขาเลือกที่จะจบชีวิตตนเอง ความกล้าตรงนี้เองที่เปรียบเปรยว่าไร้คู่แข่ง แต่ก็คนละแบบกับการฮาราคีรีที่เป็นการฆ่าตัวตายโดยการคว้านท้องในยุคซามูไรนะครับ และไม่ใช่พวกพลีชีพแบบ 神風 Kamikaze หรือกองกำลังจู่โจมพิเศษซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งหรือเรียกว่าการโจมตีแบบพลีชีพ (suicide attacks)

เมื่อพูดถึงพวก 無敵の人 Muteki no hito ที่เป็นผู้สิ้นหวังในชีวิตทำอะไรก็ที่ได้ reset ชีวิตตัวเองนั้น ปกติการใช้ชีวิตในสังคมญี่ปุ่นที่เรียกได้ว่ามีความเคร่งเครียดและกดดันมากทั้งเรื่องครอบครัว การใช้ชีวิตส่วนตัว หน้าที่การงานต่างๆ เป็นต้น ความเครียดและกดดันที่สะสมพอกพูนไปนานวันเข้ามีผลทำให้คนบางคนที่หาทางออกไม่ได้แล้วกลายเป็นพวก 無敵の人Muteki no hito ส่วนใหญ่เกิดกับคนช่วงอายุสามสิบปลายถึงสี่สิบปีหรืออาจมี 30 ต้นๆ บ้าง ตัวอย่างเหตุการณ์ที่เคยเกิดเหตุอาชญากรรมจากพวก 無敵の人Muteki no hito ที่มีผลกระทบกับสังคมก็อย่างเช่น กรณีที่คนร้ายที่ใช้มีดไล่ฟันนักท่องเที่ยวที่ Akihabara หรือ คนร้ายที่ใช้มีดไล่ฟันในรถชินกันเซ็นและข่าวล่าสุดคือ

◇คดีแทงเด็กนักเรียนที่ป้ายรถประจำทางหน้าสถานีรถไฟ Noborito Odakyū

เมื่อไม่กี่วันมานี้ เกิดเหตุคนร้ายเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เกิดคลุ้มคลั่งใช้มีดไล่แทงเด็กนักเรียนประถมและคนที่กำลังยืนรอรถประจำทางอยู่อย่างบ้าคลั่งและแทงแบบไม่เลือกหน้า เหตุเกิดที่หน้าสถานีรถไฟ Noborito Odakyū ในเมืองคาวาซากิ จังหวัดคานากาว่า ผมเคยไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานีนี้หนึ่งครั้ง รู้สึกจะเป็นชานเมืองที่คาบเกี่ยวระหว่างเมืองคนรวยและเมืองคนหาเช้ากินค่ำ เมืองนี้คนญี่ปุ่นจะมีอิมเมจว่ามีร้านนวด ร้านอาบน้ำค่อนข้างเยอะ และอุตสาหกรรม งานก่อสร้างเยอะครับ เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพบาด เจ็บอีกมากมายประมาณ 19 คน จากนั้นคนร้ายได้ปาดคอตัวเองตายตามไปแล้วด้วย เขาชื่อว่านาย Iwasaki Ryuichi อายุ51 ปี มีบ้านอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร

พอเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทุกคนช็อคไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจึงมีประเด็นพูดคุยมากมายในโลกโซเซี่ยลเน็ตเวิร์ค ต่างก็พูดกันว่านาย Iwasaki เป็นคนที่มีปมและในอดีตเป็นเด็กกำพร้าที่มีปัญหาพ่อแม่ของเขาเลิกทางกันตอนอยู่ชั้นประถมศึกษา น้องชายของพ่อ (น้าชาย) จึงนำมาเลี้ยงไว้ในบ้านที่มีย่าแท้ๆ ของเขาและครอบครัวของน้าชายซึ่งก็มีลูกชายและลูกสาวอายุไล่เลี่ยกันกับเขา และคงจะถูกเปรียบเทียบมาโดยตลอด ส่วนน้าชายและน้าสะไภ้ปัจจุบันคือคู่สามีภรรยาที่อายุ 80 กว่าตามข่าว นาย Iwasaki ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นในครอบครัวเท่าไหร่นั กและมักจะถูกน้าชายและย่าบ่นว่าบ่อยๆ และไม่ค่อยลงรอยกันนัก

ในเช้าวันเกิดเหตุนาย Iwasaki เดินออกจากบ้านตั้งแต่เช้าใส่เสื้อสีดำแบกเป้และใส่ถุงมือช่างก่อนจะก่อคดีดังกล่าวและทิ้งปริศนาไว้ว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น?? เมื่อเจ้าหน้าที่ไปสืบสวนที่บ้านที่เขาพักอาศัยเพื่อหาสาเหตุแรงจูงใจที่ทำให้เขาทำเรื่องอุกอาจเช่นนี้ ก็ไม่เจอหลักฐานอะไรเท่าไรนัก นอกจากหนังสือพิมพ์เก่า กับทีวีเก่า และเกมส์เก่าคือ ゲームギア Game Gear ( Game Gear ที่เป็นเครื่องแบบ handheld console จากค่าย Sega วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี1990 และได้สิ้นสุดการผลิตลงในปี1997) เกมส์นี่เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วผมก็เคยเล่นครับ เก่ามากๆ หลายคนพูดเล่นว่าสาเหตุก็คงจะเป็นเพราะหนังสือพิมพ์!! มีที่นอนด้วยสาเหตุคือที่นอนป่าว!! คือหาสาเหตุไปเรื่อยเหมือนกับกรณีคนกราดยิงปืนที่เกิดที่อเมริกา

ด้วยความที่ไม่เจอหลักฐานอะไรเลย แถมตั้งแต่เขาอายุ 15-51 ปี ทุกคนสงสัยว่าเขาใช้ชีวิตอยู่อย่างไรแบบไร้ตัวตน หลังจากเขาจบมัธยมต้นก็ไม่ค่อยมีใครทราบรายละเอียดว่าเขาไปทำอะไ รคบกับใคร ไม่มีอาชีพที่แน่นอนและเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ไม่คบค้าสมาคมกับใคร มีแนวโน้มเกลียดสังคม เหมือนคนไร้ตัวตน รูปถ่ายล่าสุดก็รูปสมัยมัธยมต้นเท่านั้น ที่จริงอาชญากรรมลักษณะนี้ก็ไม่ใช่ไม่เคยเกิดแต่ช่วงนี้เกิดบ่อยเกิดถี่และคนญี่ปุ่นก็รู้สึกเศร้าสลดมากเหมือนกันที่จริงผมก็ไม่ได้อยากเอามาพูดถึงนัก

ซึ่งการรองรับและการสร้างมาตรการป้องกันจากทางรัฐบาลคืออะไรการรองรับจากโรงเรียนคืออะไรเพราะบางคนก็โทษโรงเรียนแต่ถ้าจะพูดไปแล้วจะโทษโรงเรียนเสียทีเดียวก็ไม่ถูกเพราะโรงเรียนก็ไม่ได้ตัองการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แล้วจะให้โรงเรียนเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยบนรถประจำทางก็ไม่น่าใช่คนขับรถรถที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นถือว่าทำดีเพราะไม่ได้ขับหนีแต่พยายามจะดุและตวาดใส่คนร้ายจนคนร้ายตัดสินใจปลิดชีพตัวเองลง

ส่วนหนึ่งในคนที่ถูกฆ่าก็น่าสงสารมากเป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศชื่อนาย Oyama Satoshi อายุ39 ปีเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาพม่าและนักการทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ เคยถูกส่งไปประจำสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศพม่าหลายปี เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญประเทศในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีผลงานการทำงานดีมาก เป็นนักการทูตและเป็นล่ามภาษาพม่าประจำกระทรวงการต่างประเทศด้วย ที่จริงคนทั่วไปคิดว่าถ้าผู้ร้ายยังไม่ตายน่าจะยังได้สืบสวนและได้มาขอขมาผู้เสียชีวิตบ้างแต่ก็ตายไปแล้วยิ่งทำให้ครอบครัวผู้เสียหายน่าสงสารมากกว่าเดิม แต่หลายฝ่ายก็วิจารณ์กันว่าสังคมไม่ควรยกย่องผู้โชคร้ายที่ต้องจบชีวิตเพราะนาย Iwasaki มากเกินไปเพราะจะยิ่งทำให้คนที่เป็นปัญหาทางจิตใจเช่นเดียวกันกับนาย Iwasakiที่มีอีกเป็นล้านคนในสังคมเกิดความกดดัน และรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมากขึ้นไปอีก

แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์แบบนี้อาจจะไม่เกิดมากกว่านี่ก็ได้ แต่เหตุการณ์ฆ่าและทำร้ายกันเองในครอบครัวอาจจะเยอะขึ้นอีกมากมาย วันนี้สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น