xs
xsm
sm
md
lg

รหัสรักจากอเวจี ตอนที่ 17 ยูมิโกะถอดรหัสฆาตกรรมต่อไป (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

บทประพันธ์ของ เอโดงาวะ รัมโป (1894-1965)
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา

หรือด้วยฤทธิ์พิศวาส..รหัสปริศนาที่ถูกทิ้งไว้จึงมีมนต์มายาราวกับส่งสัญญาณขึ้นมาจากอเวจี

ชั้นซึ่งพูดให้ถูกน่าจะเรียกว่าตู้นั้นเป็นเครื่องเรือนขนาดใหญ่แบบฝรั่งลึกประมาณสองฟุตครึ่งทำด้วยไม้สักสลักลวดลายประณีต ประกอบด้วยชั้น ตู้ และลิ้นชัก วิทยุที่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงในตัวขนาดเล็กวางอยู่บนชั้นกลางด้านหลังมีที่ว่างมากทั้งด้านหลังของสมุดอัลบั้มที่วางตั้งไว้นั้นก็มีที่ว่างด้วยเหมือนกัน

ฆาตกรเอาเครื่องบันทึกเสียงไปซ่อนไว้ตรงนั้น แล้วทำอะไรหลังจากนั้น ฉันลองคิดโดยสวมความรู้สึกของฆาตกร

ท่านรู้จักทุกซอกทุกมุมของห้องรับแขกเป็นอย่างดี ไม่ต้องเปิดไฟก็หยิบจับได้ถูกว่าอะไรอยู่ตรงไหน แค่คลำ ๆ เพียงนาทีสองนาทีคงจัดเตรียมการได้เสร็จสรรพ คือต่อสายเชื่อมกันให้ม้วนเทปของเครื่องบันทึกเสียงหมุนทันทีที่เปิดสวิตช์วิทยุ แต่ท่านไม่จำเป็นต้องต่อสายให้ยุ่งยากเพราะทั้งเสียเวลาและยังต้องถอดสายที่เชื่อมต่อไว้ในภายหลังอีก เพราะถ้าท่านเป็นคนเปิดวิทยุเองตอนที่รายการแสดงไวโอลินของซากางุจิออกอากาศทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผนโดยง่าย ตอนนั้นท่านเปิดแค่โคมไฟแสงสลัวสร้างบรรยากาศให้เหมาะสมกับการฟังดนตรี แค่นี้ก็แนบเนียนไม่มีอะไรผิดปกติสักนิดเดียว การที่ท่านหันหลังให้เราในความมืดสลัวด้วยความตั้งใจที่จะใช้ตัวบังเวลายื่นมือเข้าไปกดสวิตช์เครื่องบันทึกเสียงที่แอบอยู่หลังวิทยุ เสียงการแสดงไวโอลินที่อัดไว้ในเทปจึงดังขึ้นเหมือนดังออกมาจากวิทยุ คุณภาพของเสียงอาจไม่ดีนัก แต่หูอย่างเราไม่ได้ละเอียดอ่อนกับเสียงดนตรีสักเท่าไร

ส่วนเครื่องวิทยุนั้นจะปล่อยให้มืดอยู่คงไม่ได้ เรื่องนี้ก็ไม่ยากอะไรแค่หมุนปุ่มหาคลื่นไปตรงจุดที่แน่ใจว่าไม่มีคลื่นจากสถานีใดเข้ามาเตรียมเอาไว้แล้วเปิดสวิตช์พร้อม ๆ กัน ดวงไฟบนหน้าปัดวิทยุจะสว่างขึ้นตรงที่ตั้งไว้ ตามปกติดวงไฟจะไม่สว่างเต็มที่ถ้าตั้งไม่ตรงสถานีส่งกระจายเสียง แต่เราฟังอยู่ไกลพอที่จะไม่สังเกตเห็นรายละเอียดขนาดนั้น และก็ไม่มีใครสนใจว่าดวงไฟจะเป็นอย่างไร แค่ได้ฟังเสียงไวโอลินดังชัดเจนเท่านั้นเป็นพอ นอกจากนั้นตามปกติเวลาฟังดนตรีอย่างการเดี่ยวไวโอลิน ส่วนใหญ่จะนั่งพิงพนักเก้าอี้นวม หลับตาพริ้ม ดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรี ไม่มีใครมานั่งจ้องเครื่องรับวิทยุกันแน่

เราฟังซากางุจิเดี่ยวไวโอลินเป็นเวลายี่สิบนาที พอจบก็ได้ยินเสียงสัญญาณบอกเวลาสามทุ่ม ไม่มีใครคิดที่จะฟังรายการต่อไปท่านจึงลุกไปปิดวิทยุและเครื่องบันทึกเสียงในเวลาเดียวกัน หลังจากที่ต่างคนต่างแยกย้ายกลับไปห้องส่วนตัวนั้นเอง ท่านก็กลับไปยังห้องรับแขกที่มืดสนิทอีกครั้ง จัดการเก็บเครื่องบันทึกเสียงเอาไปเก็บที่เดิมของมัน เป็นอันครบขั้นตอนตามแผน

ตอนนั้นเองที่ฆาตกรผู้รอบคอบพลาดไปอย่างหนึ่ง คือตอนที่หยิบเอาเครื่องบันทึกเสียงออกไปจากตู้ในห้องทำงานนั้น ไม่ได้สังเกตเลยว่าชั้นในตู้มีฝุ่นจับอยู่บาง ๆ และพื้นชั้นตรงที่วางเครื่องบันทึกเสียงเอาไว้ไม่มีฝุ่นจับจึงมีรอยด่างรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าไร้ฝุ่น เนื่องจากใช้มือคลำในความมืดจึงไม่ได้สังเกตจุดนี้ ถ้ารู้แล้ววางกลับลงไปให้ตรงตามรอยด่างนั้นฉันก็คงไม่มีหลักฐานอะไรมาประกอบการสันนิษฐานเช่นนี้ แต่นี่วางเหลื่อมกับรอยด่างถึงห้าหกเซนติเมตรอย่างนี้ ใครเห็นก็ต้องสงสัย

กลอุบายที่ทำให้ความเป็นไปได้ทางด้านที่เกี่ยวกับวิทยุก็เป็นอันว่าสำเร็จ แต่ช้าก่อนเพียงแค่นั้นไม่ได้หมายความว่าจะพิชิตปัญหาเวลาได้ทั้งหมด เพราะในบ้านของเรามีนาฬิกาอยู่มากมาย ถ้าเวลาของนาฬิกาเหล่านั้นคลาดเคลื่อนกับเวลาวิทยุ แผนทั้งหมดก็พังทันที ฆาตกรจะจัดการกับปัญหายุ่งยากที่สุดในบรรดาปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้อย่างไร ฉันไม่มีทางอื่นที่จะล่วงรู้ได้นอกจากเอาใจของฆาตกรมาใส่ในตนเองและคิดหนักอยู่นานหลายชั่วโมง

ท่านฟังรายการถ่ายทอดเสียงการเล่นไวโอลินของซากางุจิที่อพาร์ตเม้นต์ของนายมูราโคชิตั้งแต่สองทุ่มสี่สิบถึงสามทุ่มจริง หลังจากนั้นก็ออกจากห้องของนายมูราโคชิทันทีและกลับเข้ามาทางหน้าต่างห้องทำงานที่บ้านภายในสิบห้านาที คำนวณโดยบวกเวลาเดินทางโดยรถแท็กซี่ประมาณห้าหกนาทีกับเวลารอกว่ารถแท็กซี่ว่างจะผ่านมาและเวลาที่ใช้ในการขึ้นลงรถ และถ้าต้องใช้เวลาราวสิบนาทีตั้งแต่เอาเครื่องบันทึกเสียงไปซ่อนไว้หลังวิทยุ ผลัดเสื้อผ้าจากชุดปลอมตัวจนกระทั่งต้องทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เข้ามาในห้องรับแขกก่อนรายการวิทยุจะเริ่มสามหรือห้านาทีแล้วละก้อ คำนวณได้ว่าเวลาที่กดสวิตช์เปิดเครื่องบันทึกเสียงนั้นไม่ว่าจะรีบแค่ไหนจะต้องอยู่ที่สามทุ่มยี่สิบห้านาที เมื่อการถ่ายทอดรายการที่มีความยาวยี่สิบนาทีจบลงเวลาที่แท้จริงจะอยู่ที่สามทุ่มสี่สิบห้านาที

ในเมื่อการถ่ายทอดทางวิทยุจริง ๆ เริ่มตั้งแต่สองทุ่มสี่สิบถึงสามทุ่ม และเวลาที่เราฟังรายการจากเครื่องบันทึกเสียงคือสามทุ่มยี่สิบห้าถึงสามทุ่มสี่สิบห้า การที่จะแสดงให้ใคร ๆ ในบ้านเห็นว่าเราฟังรายการถ่ายทอดวิทยุในเวลาจริงได้นั้น จะต้องทำให้นาฬิกาทุกเรือนในบ้านเดินช้าไปสี่สิบห้านาที การที่จะทำโดยไม่ให้คนในบ้านสังเกตความผิดปกติได้นั้นเป็นเรื่องยากจนอาจพูดได้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่คนอย่างท่านคงจะระดมสติปัญญาทั้งหมดที่มีอยู่ทำให้มันเป็นไปได้ขึ้นมาแน่นอน

เรื่องนี้ขั้นแรกต้องคิดจากภาวะแวดล้อมภายนอกบ้านก่อน ถ้าเกิดมีเสียงใด ๆ จากภายนอกที่ได้ยินแล้วสามารถระบุเวลาได้ อย่างเช่น เสียงไซเรน เสียงหวูดรถไฟหรือเรือ เวลาที่อุตส่าห์ตั้งนาฬิกาให้เดินช้าไว้ก็จะหมดความหมาย แต่ปรากฏว่าช่วงนั้นไม่มีเสียงเช่นว่านั้นเลย นอกจากนั้นยังไม่มีใครได้ยินเสียงปี่หรือเสียงกระดิ่งของพ่อค้าขายของเพราะคฤหาสน์กว้างขวางมากถึงจะอยู่ในครัวก็ไม่ได้ยิน ทั้งยังไม่มีพวกเซลแมนมาขายของหรืออะไรสักคนที่จะทำให้รู้เวลาที่แท้จริงได้ ที่กังวลก็คืออาจมีคนรับใช้เข้าไปทำธุระในเมืองและดูนาฬิกาแถวนั้น แต่บอกได้เลยว่าตามปกติคนบ้านนี้แทบไม่มีใครออกไปซื้อของหรืออะไรหลังห้าโมงเย็น

ส่วนเรื่องที่ว่าอาจมีแขกมาหายิ่งไม่ต้องห่วง เพราะท่านมีระเบียบเรื่องการนัดพบไว้ว่าจะไม่พบกับใครทั้งนั้นนอกจากจะมีการนัดล่วงหน้าทางโทรศัพท์หรือไม่ก็จดหมาย และวันนั้นก็คงจัดไม่ให้มีการนัดพบกับใคร บางครั้งพนักงานบริษัทหนุ่ม ๆ จะมาเที่ยวบ้างแต่วันนั้นก็ไม่มีใครมา

ทีนี้ ปัญหาที่เหลืออยู่และต้องจัดการก็คือสิ่งที่บอกเวลาภายในบ้านซึ่งนอกจากนาฬิกาแล้วก็มีวิทยุในห้องน้ำชาเท่านั้น วันนั้นท่านออกจากบ้านหลังอาหารกลางวัน การที่จะทำให้วิทยุในห้องน้ำชาเสียใช้การไม่ได้ประมาณว่าคนธรรมดาอย่างเรา ๆ แก้เองไม่ได้ เช่นทำให้หลอดสุญญากาศหลวม ก่อนออกไปนั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับท่าน

นอกจากนั้นก็มีนาฬิกาแขวนข้างฝา นาฬิกาตั้งโต๊ะ และนาฬิกาข้อมือของคนในบ้าน โชคดีที่ตั้งแต่เย็นจนถึงคืนวันนั้นมีคนไม่อยู่บ้านหลายคน

แม่นมโทมิกับหนุ่มโกโรนั่งรถยนต์ของบ้านเอาของไปส่งให้พี่ชายของฉันที่เซตางายะพอดีกับที่ท่านกลับมา ดังนั้นจึงไม่มีคนขับรถ ธุระของแม่นมนัดนัดกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ท่านอาจเห็นคืนนั้นเป็นฤกษ์สะดวกก็ได้ ส่วนนายคุโรอิวะผู้ดูแลบ้านนั้นพอท่านกลับมาได้ไม่นานก็ลากลับบ้านไป คิคุคนรับใช้ก็ขอกลับบ้านที่โซชิงายะบอกว่าแม่ไม่สบาย ทั้งบ้านเหลืออยู่เจ็ดคนคือนายโชจิ เด็กรับใช้คนหนึ่ง หญิงรับใช้สองคน คนครัว พ่อเฒ่า และเมียคนขับรถ ในจำนวนนั้นมีนายโชจิคนเดียวที่ใส่นาฬิกาข้อมือ

ในบ้านมีนาฬิกาอยู่หลายเรือน ที่เรือนฝรั่งมีนาฬิกาตั้งโต๊ะอยู่ในห้องรับแขก ห้องทำงาน ห้องนอนของเรา และในห้องหนุ่มโกโรคนเฝ้าประตูเข้าเรือน ทุกเรือนเป็นนาฬิกาไขลานที่เมื่อไขทีหนึ่งจะเดินไปได้แปดวัน หนุ่มโกโรเป็นคนมีหน้าที่ไขลานทุกเรือน ยกเว้นเรือนในห้องนอนที่ฉันกับท่านไขลานเองแต่มักลืมจึงตายเป็นส่วนใหญ่ และถึงเดินก็ไม่ค่อยตรงเวลาจึงไม่ต้องนับรวมกับเรือนอื่น ๆ ก็ได้

ทางด้านห้องญี่ปุ่นมีนาฬิกาตั้งโต๊ะอยู่ในห้องรับแขกและห้องน้ำชา ส่วนที่ห้องครัวมีนาฬิกาแขวน แต่เรือนนี้ปล่อยให้คนรับใช้ดูแลกันเองจึงเดินช้าบ้างเร็วบ้างไม่ตรงเวลาเอามาก ๆ ถ้าเป็นฆาตกรฉันจะตั้งนาฬิกาที่ห้องญี่ปุ่นให้ช้าไปประมาณ ๒๐ นาทีเอาไว้ก่อนตั้งแต่คืนก่อนหน้าหรือว่าเช้าวันเกิดเหตุ เช่นตั้งนาฬิกาในห้องครัวให้ช้าไป ๒๐ นาที และนาฬิกาในห้องน้ำชาช้าไป ๒๕ นาที ถ้าตั้งเอาไว้เช่นนี้ตอนเย็นของวันเกิดเหตุก็ไม่ต้องไปทำอะไรอีก เพราะเป็นนาฬิกาที่เดินไม่ตรงอยู่แล้ว เมื่อคิดว่าตั้งให้ช้าไว้ ๒๕ นาทีแล้วเดินไป ๒๐ นาทีก็จะได้ผลต่างจากเวลาจริง ๔๕ นาที พวกคนรับใช้ไม่มีใครดูนาฬิกาอยู่ตลอดเวลาอุบายนี้ใช้อำพรางเวลาได้ดีทีเดียว

สำหรับนาฬิกาที่เรือนฝรั่งนั้นจะใช้อุบายเดียวกันไม่ได้เพราะหนุ่มโกโรเป็นคนมีหูตาแหลมคนเรื่องเวลา ก่อนออกไปข้างนอกหลังอาหารกลางวันวันนั้นท่านอาจตั้งเวลาให้ช้าลง ๑๐ นาทีก็เป็นได้ เพราะปลอดภัยกว่าที่จะตั้งให้ช้าลงทีเดียว ๔๕ นาที หลังจากนั้นพอกลับบ้านตอนเย็นจึงตั้งให้ช้าลงอีก ๓๕ นาที และเกือบไม่ต้องกังวลอะไรเพราะเป็นเวลาที่ใคร ๆ ก็ยุ่งกับการอาบน้ำและรับประทานอาหาร แต่ถ้าจะให้แน่ใจก็อาจแบ่งตั้งเวลาให้ช้าลงทีละน้อยสองหรือสามครั้งในช่วงสองชั่วโมงนั้นก็ได้

นอกจากนั้นยังมีนาฬิกาข้อมือที่ต้องตั้งเวลาให้ช้าลงอีกสามเรือนคือของท่าน ของฉัน และของนายโชจิ นาฬิกาของท่านเองนั้นไม่มีปัญหาอะไร ของฉันก็เช่นกันเพราะส่วนใหญ่จะถอดวางทิ้งไว้บนโต๊ะ ที่เหลือก็คือของนายโชจิเรือนเดียว ซึ่งก็น่าประหลาดที่นาฬิกาเรือนนั้นหยุดเดินตั้งแต่เช้าวันเกิดเหตุ เรื่องนี้ฉันมารู้ในภายหลังว่าวันรุ่งขึ้นจากวันเกิดเหตุ นายโชจิไม่รู้ว่านาฬิกาของเขาเสียเพราะอะไรจึงเอาไปให้ร้านนาฬิกาซ่อมให้ นาฬิกาข้อมือของนายโชจิเสีย...มันจะบังเอิญขนาดนั้นทีเดียวหรือ ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรมากแต่ตอนนี้มานึกดูอีกที สงสัยว่าฆาตกรจะลอบเข้าไปทำให้นาฬิกาข้อมือของนายโชจิเสียตอนที่เขาอาบน้ำ เพราะดูจะโชคดีเกินไปสำหรับฆาตกรถ้าเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ

การทำให้นาฬิกาทุกเรือนภายในบ้านช้าลงโดยไม่มีใครผิดสังเกตภายในเวลาเกือบห้าชั่วโมง เป็นงานยากอย่างน่ากลัวแต่อย่างน้อยฉันก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ฉันเขียนตารางแสดงความเกี่ยวข้องระหว่างเวลาจริงกับเวลาที่ท่านปลอมแปลงไว้ในกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง โดยแก้แล้วแก้อีกจนกระทั่งได้ตัวเลขที่ลงตัวดังนี้

ถ้าท่านทำให้วิทยุในห้องน้ำชากับนาฬิกาข้อมือของนายโชจิเสียเอาไว้ก่อน และก่อนออกไปข้างนอกในวันเกิดเหตุได้ทำอุบายอำพรางเวลาด้วยการตั้งนาฬิกาสามเรือนในห้องญี่ปุ่นให้ช้าลง ๒๐ หรือ ๒๕ นาทีเพื่อที่มันจะได้เดินเร็วเกินเวลาจริงไป ๔๕ นาทีตั้งแต่เย็นวันนั้น งานที่ท่านต้องทำหลังกลับจากข้างนอกในตอนเย็นก็เหลือแต่จัดการให้นาฬิกาตั้งโต๊ะสี่เรือนที่เรือนฝรั่งกับนาฬิกาข้อมือของท่านกับของฉันช้าลงเท่านั้น ซึ่งน่าจะทำในช่วงตั้งแต่กลับถึงบ้านตอนห้าโมงเย็น อาบน้ำ รับประทานอาหารและเข้าไปเก็บตัวอยู่ในห้องทำงานเมื่อหนึ่งทุ่ม เวลาที่ท่านเข้าไปอยู่ในห้องทำงานที่ว่าหนึ่งทุ่มนั้นเป็นเวลาที่ถูกทำให้ช้าลงแล้ว เวลาที่แท้จริงคือทุ่มสี่สิบห้า สำหรับนาฬิกาสี่เรือนที่เรือนฝรั่งนั้นฉันได้เขียนไว้แล้วว่าได้ตั้งให้ช้าเอาไว้ ๑๐ นาที เมื่อกลับมาจึงตั้งให้ช้าลงอีก ๓๕ นาทีก็ใช้ได้ ตอนอาบน้ำและรับประทานทุกคนจะเดินไปมาไม่อยู่กับที่ การไปจัดการกับนาฬิกาโดยที่ไม่มีใครสังเกตจึงไม่ใช่เรื่องยาก

ตั้งแต่หลังหนึ่งทุ่ม เวลาจริงกับเวลาที่ตั้งหลอกเอาไว้ต่างกัน ๔๕ นาที ไปตลอด ที่เขียนไว้ในตารางว่า “มีเวลา ๕ นาที” นั้น หมายถึง ช่วงเวลาที่ท่านไปถึงอพาร์ตเม้นต์ของนายมูราโคชิ ต่อสายเครื่องบันทึกเทปเข้ากับวิทยุของนายมูราโคชิ และรอการถ่ายทอดเสียงทางวิทยุ หลังจากนั้นที่เขียนไว้ว่า “มีเวลา ๑๐ นาที” หมายถึงช่วงเวลาที่ท่านกลับถึงบ้าน ถอดชุดปลอมตัว เอาเครื่องบันทึกเสียงไปซ่อนไว้บนชั้นหลังเครื่องรับวิทยุ เข้าไปนั่งรอฉันกับนายโชจิในห้องรับแขก

นั่นคือความเป็นไปได้ที่ท่านจะไปฟังการถ่ายทอดเสียงไวโอลินของซากางุจิที่อพาร์ตเม้นต์ของนายมูราโคชิตั้งแต่สองทุ่มสี่สิบนาทีถึงสามทุ่ม แล้วกลับมาฟังรายการเดียวกันอีกครั้งที่บ้านตั้งแต่สองทุ่มสี่สิบนาทีถึงสามทุ่มเช่นกัน

รายการหลังซึ่งเป็นรายการปลอมนั้นเริ่มตั้งแต่สองทุ่มสี่สิบนาทีตามนาฬิกาในบ้านเราที่ถูกตั้งให้ช้าเอาไว้ ดังนั้นเวลาที่เริ่มฟังจริง ๆ คือตั้งแต่สามทุ่มยี่สิบห้านาที และหลังจากจบรายการท่านก็หาเวลาไปตั้งนาฬิกาตั้งโต๊ะสี่เรือนที่เรือนฝรั่ง นาฬิกาข้อมือของท่านและของฉันให้เร็วขึ้น ๔๕ นาที เพื่อให้ตรงกับเวลาจริง เท่านี้ก็เสร็จสมบูรณ์ตามแผน


กำลังโหลดความคิดเห็น