องค์การยูเนสโกระบุว่า กลุ่มสุสานโบราณในจังหวัดโอซากา จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยกลุ่มสุสานมีส่วนหนึ่งเป็นสุสานของอดีตจักรพรรดิและราชวงศ์ของญี่ปุ่น
องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้แจ้งต่อรัฐบาลญี่ปุ่นว่า กลุ่มสุสานโบราณในจังหวัดโอซากาจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก กลุ่มสุสานเหล่านี้สร้างขึ้นระหว่างช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 4 ถึงช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 5 ประกอบไปด้วยเนินสุสาน 49 แห่ง โดยเชื่อกันว่าในจำนวนนี้สุสาน 29 แห่งเป็นที่บรรจุพระศพของอดีตพระจักรพรรดิ พระจักรพรรดินี และสมาชิกราชวงศ์ของญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นคือสุสานรูปรูกุญแจ ซึ่งเชื่อกันว่าได้สร้างขึ้นมาเพื่อบรรจุพระศพของพระจักรพรรดินินโทคุ สุสานแห่งนี้เป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีความยาว 486 เมตร
ปัจจุบัน สุสานสุสาน 29 แห่งที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ญี่ปุ่นอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และมีการควบคุมอย่างเข้มงวด ไม่เปิดต่อสาธารณะ แต่สุสานอื่น ๆ และพื้นที่โดยรอบมีการวิจัยทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ เพื่อค้นหาความลับของเจ้าของสุสานและความเป็นมา
นอกจากกลุ่มสุสานดังกล่าวแล้ว ยูเนสโกยังจะพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลกสุสานคอนดะ-โกะเบียวยามะ ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของจักรพรรดิโอจิน ในเมืองฮาบิคิโนะ ในจังหวัดโอซากาด้วย
สำนักงานกิจการด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่นระบุว่า จะทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่เพื่อปกป้องกลุ่มสุสานโบราณจากการขยายตัวของชุมชนเมือง
กลุ่มสุสานเหล่านี้มีความสำคัญทางวัฒนธรรม เพราะสะท้อนถึงอำนาจและสถานะของผู้ที่ถูกฝังอยู่ในสุสาน และจะเป็นกุญแจสำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์ยุคโบราณของญี่ปุ่น
การตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแห่งใหม่จะเกิดขึ้นที่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่อาเซอร์ไบจาน ในเดือนมิถุนายน.