xs
xsm
sm
md
lg

รหัสรักจากอเวจี ตอนที่ 15 ความลับของยุมิโกะ (2)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

บทประพันธ์ของ เอโดงาวะ รัมโป (1894-1965)
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา

หรือด้วยฤทธิ์พิศวาส..รหัสปริศนาที่ถูกทิ้งไว้จึงมีมนต์มายาราวกับส่งสัญญาณขึ้นมาจากอเวจี

บันทึกในไดอารีเล่มนั้นนอกจากจะทำให้ความเคลือบแคลงเลือนรางอยู่ในใจของทาเคฮิโกะกระจ่างชัดสอดคล้องกับความเป็นจริงอย่างน่ากลัวแล้ว ข้อสันนิษฐานถอดรหัสฆาตกรรมที่ยุมิโกะบันทึกไว้ยิ่งชวนให้สยองขวัญยิ่งกว่า เจ้าหล่อนระบุชื่อของฆาตกรสามศพ...ฮิเมดะ มุราโคชิ และซานุกิ เอาไว้ แม้จะเป็นเพียงการสันนิษฐานแต่มันสมจริงเสียจนไม่มีช่องว่างให้แก้ต่างเลยแม้แต่เศษเสี้ยวขององคุลี

ยุมิโกะช่างเป็นผู้หญิงมหัศจรรย์อะไรเช่นนั้น ตอนกลางวันเป็นกุลสตรีแสนซื่อไร้เดียงสา แต่พอยามราตรีกลับกลายเป็นนางสิงห์สาวคึกคะนองโลดแล่นยั้งไม่อยู่ เท่าที่ได้ประสบมาจนถึงทุกวันนี้ก็เกินพอที่จะทำให้ผู้ชายอย่างทาเคฮิโกะตื่นระทึกราวกับโลกทั้งโลกหมุนกลับทวนวงโคจรอยู่แล้ว คราวนี้โลกของชายหนุ่มยิ่งกลับตาลปัตรเป็นสามซ้อนเมื่อได้มาเจอเจ้าหล่อนในโฉมหน้านักสืบสาวอัจฉริยะที่มีไหวพริบการอ่านรหัสปริศนาเฉียบขาดเหนือคำว่าอัศจรรย์

จะขอคัดข้อความจากสมุดไดอารีติดกุญแจอันเป็นสำนวนของคุณนายยุมิโกะตอนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเนื้อเรื่องมาลงเอาไว้ ณ ที่นี้

[6 พฤษภาคม] ฉันโหยหาการผจญภัยและความรักตลอดมา ในที่สุดวันนี้ฉันก็สมหวังอย่างเต็มเปี่ยมทั้งสองอย่าง คืนนี้ท่านมีงานเลี้ยงหลังเลิกงานและจะไม่กลับก่อนสองทุ่ม ฉันบอกว่าจะไปกินซ่าแล้วออกจากบ้านไปคนเดียวราวบ่ายเศษ ๆ วันนี้ท่านต้องใช้รถไปงานเลี้ยงฉันจึงเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่ร้านเสริมสวยยาโนเมะที่อาคาซากะอย่างเร่งด่วน คุณครูยาโนเมะ ฮามาโกะเป็นครูของฉันสมัยเรียนที่โรงเรียนสตรีและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมากจึงอ้อนได้ทุกเรื่อง พอปลีกตัวมาอยู่ตามลำพังสองต่อสองฉันจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณครูฟังและขอให้ช่วยเป็นฝ่ายสนับสนุน คุณครูฮามาโกะเป็นคนชอบเรื่องโลดโผนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่เปลี่ยนเลย จึงรับคำฉันโดยง่าย คุณครูเป็นคนรอบรู้เรื่องราวในสังคมทุกเรื่องไม่ว่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหลายซับหลายซ้อนแค่ไหน

นัดกันบ่ายสามโมงจึงต้องรีบเตรียมตัวให้พร้อมเดี๋ยวจะไม่ทัน ก่อนอื่นต้องเปลี่ยนทรงผมเสียใหม่ ฉันขอให้คุณครูทำทรงที่ใช้เวลาทำสิบนาทีและเปลี่ยนกลับเป็นอย่างเดิมได้ในสิบนาที คุณครูเป็นผู้เชี่ยวชาญจึงทำตามความประสงค์ของฉันได้ทุกอย่าง จากนั้นก็ถึงการแต่งหน้าซึ่งก็ไม่ยากเพราะเป็นการทำให้ดูมอซอกว่าตัวจริง เสร็จแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าไปใส่กิโมโนสีสดใสชุดที่คุณครูเคยใส่ตอนสาว ฉันกลายเป็นเมียพนักงานบริษัทเชย ๆ คนหนึ่งภายในเวลาไม่ถึงสี่สิบนาที ฉันใส่เกี๊ยะไม้ของคุณครูออกไปเรียกแท็กซี่ทางประตูหลังร้าน

ฉันลงรถก่อนถึงโรงเตี๊ยม “คิโยมิซุ” ที่ยานาคะฮาสึเนะเล็กน้อย พบ H เดินเตร่คอยอยู่หน้าโรงเตี๊ยม เราเข้าไปข้างในด้วยกัน

ตอนกลับจากกินซ่าเมื่อราวอาทิตย์หนึ่งก่อนหน้านี้ ฉันขึ้นแท็กซี่มาหาโรงเตี๊ยม “คิโยมิซุ” แห่งนี้เอาไว้แล้ว ฉันได้ยินมาว่าที่ย่านยานาคะมีโรงแรมเก่าแก่อยู่แห่งหนึ่งและพอมาดูก็พบจริง ๆ สมัยนี้มีโรงแรมใหม่ ๆ ติดเครื่องหมาย อนเซ็นอยู่หลายแห่งซึ่งฉันไม่ชอบเลย จะไปตามโรงแรมหรู ๆ ก็เสี่ยงเกินไป จึงเลือกโรงเตี๊ยมเก่า ๆ เพราะคิดว่าจะรอดพ้นสายตาผู้คนมาได้ พนักงานต้อนรับท่าทางเป็นผู้หญิงต่างจังหวัดอัธยาศัยดี พาเราสองคนซึ่งดูจากภายนอกคงเหมือนหญิงม่ายฐานะปานกลางกับคู่รักไปที่ห้องในเรือนเล็กของโรงเตี๊ยม

H ทำท่าราวกับเจนจัด แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็เงอะงะทำอะไรไม่ถูกเพราะคงจะเคยทำเช่นนี้เป็นครั้งแรก น่าเอ็นดูดีและคงจะกล้าขึ้นเรื่อย ๆ ฉันรู้ว่าวันที่สิบท่านก็จะไปงานเลี้ยงอีกจึงเป็นโอกาสให้เรานัดพบกัน คราวนี้นัดกันไปที่โรงเตี๊ยมชื่อ “โอโนยะ” ที่โทสึกะใกล้กับย่านทาคาดาโนบาบะ ซึ่งก็เป็นโรงเตี๊ยมเก่า ๆ ที่ฉันหาเอาไว้ก่อนแล้ว
ฉันกลับมาที่ร้านเสริมสวยยาโนเมะเมื่อห้าโมงครึ่ง ขอให้คุณครูช่วยทำผมและแต่งหน้าให้เหมือนเดิมแล้วกลับถึงบ้านหกโมงครึ่ง

[จากนั้นมีบันทึกการนัดพบกับ H ในวันที่ 10, 23, พฤษภาคม วันที่ 2, 8, 17, มิถุนายน วันที่ 5, 13, 17, 24, 31 กรกฎาคม วันที่ 7, 14, 21 สิงหาคม วันที่ 5, 9, 13 กันยายน และ วันที่ 10 ตุลาคม บางวันก็เขียนสั้น ๆ บางวันก็ยาวเหยียดแต่ส่วนใหญ่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน ระหว่างนั้นนายโองาวาระพาภรรยาพร้อมด้วยคนรับใช้และคนขับรถไปพักร้อนที่บ้านพักตากอากาศโทโนซาวะที่ฮาโกเนะตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม ถึง 21 สิงหาคม การนัดพบจึงต่างจากเคย ช่วงเดือนกรกฎาคม นัดพบกันที่โรงแรมระดับกลางที่โอดาวาระ เดือนสิงหาคมนัดพบกันที่โรงแรมระดับกลางที่โคซุ ในวันที่นายโองาวาระไปทำธุระที่โตเกียวและกลับค่ำ หรือไม่คุณนายยุมิโกะก็ออกจากบ้านทำทีว่ามีธุระที่โตเกียว ทุกครั้งทั้งสองจะเลือกวันที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดโดยบางครั้งยุมิโกะเป็นคนออกไปพบ บางครั้ง H ก็สู้อุตส่าห์เดินทางลงมาจากโตเกียว ตอนพักร้อนอยู่ที่ฮาโกเนะคุณนายโฉมงามไม่มีที่พักพิงเหมือนร้านเสริมสวยยาโนเมะในโตเกียว จึงปลอมตัวได้ไม่ค่อยสมบูรณ์แบบนัก ต้องอาศัยห้องน้ำของสถานีรถไฟเป็นที่แต่งหน้าแต่งผมเองเท่าที่พอทำได้ (หมายเหตุ...บันทึกการนัดพบกับ H มีเนื้อหายืดยาวมากเกินกว่าจะเอามาลงได้หมดในที่นี่ จึงขอคัดย่อเอามาแต่ส่วนที่สำคัญเท่านั้น)

[2 กันยายน] (ย่อช่วงแรก) คืนนี้ชายหนุ่มชื่อมุราโคชิ ฮิโตชิเข้ามาร่วมวงด้วยเป็นครั้งแรก มุราโคชิเป็นพนักงานดีเด่นของบริษัทผลิตยาโจโฮคุ ดูเหมือนท่านจะโปรดปรานอยู่ไม่น้อย เคยมาที่บ้านหลายครั้งแล้วแต่เพิ่งเคยพูดกับฉันครั้งแรกในคืนนี้ ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนเฉลียวฉลาดแต่พูดน้อย จนดูเหมือนเย็นชาแต่อาจร้อนแรงกว่าที่คิดก็ได้ใครจะรู้ (ตัดตอนท้าย)

[15 กันยายน] (ย่อช่วงแรก) ฉันลืม M ไม่ลงเสียแล้ว คืนนี้เราออกไปเดินเล่นในสวนสองต่อสองเป็นครั้งแรก ท่านกับ H และชายหนุ่มคนอื่น ๆ เล่นไพ่กันอยู่ในห้องหนังสือ M ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบการพนันฉันจึงชวนออกที่สวน คืนนี้พระจันทร์สวยงามมาก M หลงรักฉันอย่างไม่ต้องสงสัย น่าจะรักร้อนแรงเสียด้วยเพียงแต่ไม่เอ่ยออกมาเท่านั้น เขาพูดจาเป็นเชิงปรัชญาแต่ไม่ได้ทำหยิ่งอวดรู้เลยสักนิด ไม่ได้แสดงท่าเจ้าชู้แม้แต่มือก็ไม่ได้แตะต้องกัน แต่ฉันเข้าใจความรู้สึกของเขาดีเสียยิ่งกว่าดี และคิดว่าเขาก็คงจะเข้าใจดีเช่นกัน(ตัดตอนท้าย)
[27 กันยายน] แล้วฉันก็ได้ทำจริงสมใจด้วยวิธีเดียวกับที่ทำกับ H แต่นัดพบกันที่โรงแรมคนละแห่งกันเลย (“คาชิวายะ” ย่านเมงุโระ) คุณครูฮามาโกะเป็นที่พึ่งแสนวิเศษอะไรเช่นนี้ ตามใจฉันทุกอย่างไม่ว่าฉันจะขอให้ทำอะไร ทั้งยังปิดปากสนิทไม่แพร่งพรายเรื่องของฉันให้ใครล่วงรู้ คุณครูเป็นคนเดียวที่กำความลับทั้งหมดของฉันไว้ คนเดียวจริง ๆ

M ร้อนแรงเหลือเกิน ร่างกายที่แน่นไปด้วยมัดกล้ามของเขาแข็งแกร่งราวกับแซ่ที่ทำด้วยเหล็กกล้าหวดซัดลงมา เทียบกันไม่ได้เลยกับร่างกายที่ดูเหมือนจะหัวเราะอยู่ตลอดของ H ฉันชักรู้สึกกลัว M ขึ้นมานิด ๆ เสียแล้ว

[2 ตุลาคม] (นัดพบกับ M เป็นครั้งที่สอง ขอย่อเอาไว้)

[5 ตุลาคม] (ย่อช่วงแรก) โชจิ ทาเคฮิโกะได้เข้ามาเป็นสมาชิกของเราในฐานะเลขาส่วนตัวของท่านตั้งแต่วันนี้ ทาเคฮิโกะเป็นหนุ่มรูปงามหน้าตาหล่อเหลา แต่รู้สึกว่าจะยังเป็นเด็กอ่อนหัด (ตัดตอนท้าย)

[10 ตุลาคม] ฉันจำต้องไปพบกับ H ที่ “คิโยมิซุ” เพราะทนการคะยั้นคะยอของเขาไม่ไหว H ตัดพ้อว่าฉันเย็นชากับเขามาตั้งแต่ย่างเข้าเดือนกันยายนและร้องไห้ เขาไม่รู้เรื่อง M แต่ดูเหมือนจะสงสัยอะไรอยู่ ฉันลูบเนื้อลูบไล้เนื้อตัวที่นิ่มเนียนมือของเขาพลางปลอบประโลม M รู้ดีว่าฉันรักใคร่เขาเพียงใดจึงออดอ้อนอยู่อย่างนั้นไม่รู้จบ ฉันตามใจเขาจนได้จังหวะก็ตัดบทแล้วบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย ตั้งใจว่าจะไม่ออกมาพบกับ H อีก

[10 ตุลาคม] (ย่อช่วงแรก) ฉันขอให้นายโชจิไปหยิบกล้องสองตาติดขาตั้งสามขาออกมาตั้งที่ระเบียงห้อง ขณะที่กำลังส่องดูมด ตั๊กแตนตัวหนึ่งก็ผ่านเข้ามาในมุมกล้อง ยังไม่ทันที่จะบอกนายโชจิไปฆ่ามันเสีย ตั๊กแตนเจ้ากรรมก็กระโดดเข้าใส่ฉัน ฉันตกใจร้องกรี๊ดแล้วกระโดดเข้ากอดนายโชจิ รู้สึกได้เลยว่าเขาตัวสั่นระริก เด็กคนนี้น่าเอ็นดู (ตัดตอนท้าย)

[15 ตุลาคม] ช่วงเที่ยงวันนี้ทัศนวิสัยปลอดโปร่งเป็นโอกาสให้ฉันนัดพบกับ M ที่โรงแรม “โทคิวะ” ในย่านอุงุยซุดานิ ระยะนี้ M หมกมุ่นกับฉันมากขึ้นทุกทีและเริ่มพูดถึง “ความตาย” แต่ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องเช่นนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อวาน M ทะเลาะกับ H ในสวนที่บ้านและดูเหมือน H จะถูกต่อย ผู้ชายสองคนนี้ดูเหมือนจะไม่ถูกกันเห็นเถียงอะไรกันเสมอ ที่มีปากมีเสียงกันวันนี้น่าจะเป็นแค่ขวางกันเพราะ H อารมณ์ไม่ดีผิดหวังเรื่องฉันเป็นทุนอยู่แล้ว คงไม่ใช่เพราะระแวงว่าฉันมีอะไรกับ M หรอก...แต่ใครจะไปรู้ จิตใต้สำนึกอันเกิดจากความรักของคนเราแหลมคมจนน่ากลัว และจิตใต้สำนึกของ H อาจกำลังกระซิบเตือนเขาอยู่ สำหรับ M ผู้อยู่เหนือมือนั้นการทะเลาะกันครั้งนี้เกือบไม่เป็นปัญหาอะไร

ตอนพบกับฉันสองต่อสองในห้องนั่งเล่นก่อนที่จะออกไปทะเลาะกับ M ในสวน H ให้ฉันดูอะไรอย่างหนึ่งที่แปลกประหลาดมาก คือมีใครคนหนึ่งเอาขนนกสีขาวใส่ซองส่งมาให้ H ซึ่งเขาบอกว่านึกไม่ออกเลยว่าคนส่งคือใคร ฉันคิดว่าน่าจะเป็นการเล่นตลกแผลง ๆ ของใครสักคน (หมายเหตุ...หลังจากนั้นในช่วงเดือนตุลาคมยุมิโกะนัดพบกับ M สามครั้ง แต่ไม่มีอะไรแปลกใหม่จึงขอย่อเอาไว้)

[31 ตุลาคม] (ย่อช่วงแรก) ฉันมาที่บ้านพักตากอากาศในเมืองอาตามิกับท่านและนายโชจิเพียงสามคน และกิจวัตรการส่องกล้องสองตาดูอะไร ๆ ก็คงจะเริ่มขึ้นเช่นเคย ไม่นานมานี้ฉันได้ดูหนังลึกลับสะเทือนขวัญของอัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อกเรื่อง “หน้าต่างหลังบ้าน Rear Window” แล้วคิดกระหยิ่มอยู่ในใจว่าเราทำอย่างนั้นมาก่อนนานแล้ว

[2 พฤศจิกายน] S เริ่มมีใจหมกมุ่นอยู่กับฉัน แค่แตะมือนิดเดียวก็หน้าแดงตัวสั่นเสียแล้ว น่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก วันนี้ก็เหมือนกันหลังแช่น้ำแร่ร้อนแล้วเรามาส่องกล้องดูอะไร ๆ กันสองต่อสอง ตอนที่แก้มของเราเอียงเข้ามาแทบจะแนบชิดกัน ฉันรู้เลยว่าหัวใจของ S ต้องเต้นโครมครามแน่นอน

บ่ายวันนั้น H ใช้วันหยุดยาวสองวันเดินทางสมทบ น่าสงสารที่เขาพยายามหาทางที่จะจูงใจให้ฉันกลับไปสนใจเขาอย่างเดิม สำหรับฉันตอนนี้มี M คนเดียวพอแล้ว แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรที่เห็น H ตามมาถึงที่นี่ ตอนกลางคืนเราเล่นบริดจ์กัน มีฉัน ท่าน H และคนขับรถ H นั่งใกล้ฉันท่าทางมีความสุขมากและฉันก็ช่วยทำให้เขาสนุกเท่าที่พอจะทำได้ด้วย

[4 พฤศจิกายน] เมื่อวานเกิดเหตุร้ายแรงทำให้อกสั่นขวัญหายจนทำอะไรไม่ถูกแม้แต่จะเขียนบันทึก H ตกหน้าผาตายที่อุโอมิซากิต่อหน้าต่อตาฉันกับท่านที่กำลังส่องกล้องสองตาจาหน้าต่างบ้านพักตากอากาศไปทางนั้นพอดี (หมายเหตุ...เหตุการณ์วันนั้นได้เขียนไว้ในรายละเอียดแล้วเมื่อไม่นานมานี้ในบท “กล้องสองตา” จึงขอย่อความตอนนี้เอาไว้) ขนนกสีขาวเป็นสัญลักษณ์แห่งความตายจริง ๆ ด้วย ก่อนเที่ยงเมื่อวานนี้ H มาหาฉันและบอกว่ามีคนส่งขนนกสีขาวมาอีกแล้วและเอาออกมาให้ฉันดู จดหมายที่จ่าหน้าถึง H ระบุบ้านเลขที่ของบ้านพักตากอากาศแห่งนี้มาถึงพร้อมกับไปรษณีย์เที่ยวแรกของเช้าวันนั้น หลังจากให้ฉันดูแล้ว H เก็บซองจดหมายใส่ขนนกสีขาวนั้นไว้ในกระเป๋าเสื้อและตกลงไปจากหน้าผาทั้งอย่างนั้น ตำรวจสันนิษฐานว่าขนนกสีขาวนั้นน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับสมาคมลับที่ไหนซักแห่ง แต่ฉันคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ H จะเกี่ยวข้องกับสมาคมอะไรแบบนั้น

ตอนบ่าย ท่านกับ S ออกไปดูสถานที่เกิดเหตุบนหน้าผาอุโอมิซากิ ส่วนฉันพอกะว่าทั้งสองน่าจะไปถึงที่นั่นแล้วจึงได้เริ่มส่องกล้องสองตาติดตามดูความเคลื่อนไหวจากหน้าต่างชั้นบน ท่านกับ S แวะพูดคุยที่ร้านน้ำชาบนหน้าผาครู่หนึ่งแล้วจึงเดินกลับลงมาตามทางแคบ ๆ ก่อนเดินลงมาจากหน้าผา ทั้งสองผลัดกันส่องกล้องสองตามาทางฉัน ซึ่งฉันก็โบกผ้าเช็ดหน้าตอบ พอเดินลงมาตามทางเล็กจากหน้าผาฉันก็มองไม่เห็นเพราะป่าไม้บังสายตาเอาไว้

ไม่นานท่านกับ S ก็กลับมาและรายงานผลการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุให้ฟังอย่างละเอียด เล่าว่าได้พูดคุยกับเด็กหนุ่มที่ท่าทางแปลก ๆ ที่เล่าว่าเห็น H เดินไปทางต้นสนเดี่ยวบนหน้าผากับชายใส่เสื้อโค้ทสีเทา ทำให้แน่ใจว่าต้องเป็นการฆาตกรรมแน่และชายใส่เสื้อโค้ทสีเทาคนนั้นคือฆาตกร ชายลึกลับถือกระเป๋าใบใหญ่ติดมือมาด้วยซึ่งดูเหมือนว่าจะเดินทางมาจากโตเกียว (ตัดตอนท้าย)

[6 พฤศจิกายน] ในที่สุดก็ได้เวลาออกเดินทางจากอาตามิกลับมาโตเกียวเสียที (ตัดตอนท้าย)

[7 พฤศจิกายน] (ย่อช่วงแรก) ท่านไม่อยู่บ้านฉันเลยออกไปหาคุณครูที่ร้านเสริมสวยยาโนเมะ ฉันดัดเสียงโทรไปที่บริษัทของ M แต่ M ปฏิเสธการนัดพบบอกว่าวันนี้ปวดศีรษะ เสียงของเขาแปลกไปฟังดูแหบ ๆ ชอบกล ฉันล้มเลิกความตั้งใจและกลับบ้าน (ตัดตอนท้าย)

[8 พฤศจิกายน] (ย่อช่วงแรก) นายตำรวจชื่อมิโนอุระจากกรมตำรวจนครบาลมาที่บ้าน พอดีท่านอยู่และฉันก็ร่วมต้อนรับด้วย ผู้กองมิโนอุระจ้างว่ากรมตำรวจนครบาลรับโอนคดีมาจากอาตามิ แต่การสืบสวนแทบไม่คืบหน้าเลย (ตัดตอนท้าย)

[10 พฤศจิกายน] (ย่อช่วงแรก) ในที่สุดฉันก็ได้พบกับ M วันนี้เราไปที่โรงแรม “คาชิวายะ” ย่านเมงุโระกันอีกครั้ง M ดูไม่ค่อยสบายใจ บทบาทบนเตียงของเขาไม่ร้อนแรงเช่นเคย M เล่าว่าเมื่อสองสามวันก่อนตำรวจนครบาลมาสอบปากคำขอให้เขายืนยันที่อยู่ช่วงบ่ายวันที่ 3 โดยดูเหมือนว่าตำรวจจะไปสอบถามเพื่อนทุกคนของ H โชคดีที่ M มีพยานหลักฐานที่อยู่ในช่วงเวลานั้นครบถ้วน คือวันนั้นเขาไปดูการแสดงที่โรงละครคาบุกิและได้พบกับโทมิแม่นมของฉัน (ทาเนดะ โทมิแม่นมของคุณนายยุมิโกะสมัยเด็ก ตามมาอยู่ที่คฤหาสน์โองาวาระด้วย) และหยุดยืนคุยกัน ตอนนั้นเป็นเวลาราวห้าโมง M จึงพ้นข้อสงสัย

เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่น่ามีอะไรให้ต้องกังวล แต่สีหน้าของ M ดูไม่ดีเอาเลย เขาต้องปกปิดอะไรเอาไว้แน่ ปกติ M เป็นคนไม่แสดงความรู้สึก ฉันอ่านเขาออกแต่ก็ไม่เซ้าซี้ถาม เพราะรู้ดีว่าผู้ชายอย่างเขาถ้าไม่อยากบอกเป็นตายอย่างไรก็ไม่บอก วันนี้ไม่ถึงใจเลย แซ่เหล็กที่ไม่หวดสวนกลับมาแบบนี้ช่างไม่น่าสนใจเลยจริง ๆ (ตัดตอนท้าย)

[13 พฤศจิกายน] (ย่อช่วงแรก) โทรถึง M แต่ถูกปฏิเสธ บอกว่าไม่ค่อยสบายทั้ง ๆ ที่มาทำงาน (ตัดตอนท้าย)

[17 พฤศจิกายน] (ย่อช่วงแรก) พบกับ M ที่ “อิเซซากาเอะ” โรงเตี๊ยมราคาถูกแถวอาซาบุนิโนฮาชิ M แปลกไปจริง ๆ หน้าตาท่าทางบ่งบอกถึงความกลัดกลุ้ม เวลาพบกับฉันเขาจะทำหน้าไม่สบายเลย พูดให้ถูกน่าจะเป็นกลัวมากกว่า เขาต้องกำลังกลัวอะไรสักอย่างอยู่แน่ การที่ผู้ชายอย่าง M เป็นอย่างนี้ไปได้จะต้องมีเหตุผลสำคัญทีเดียว เมื่ออารมณ์เพริดแพร้วร้อนแรงยามเคล้าเคลียกอดเกี่ยวแนบชิด M เผลอหลุดปากออกมาว่า...ผมอาจถูกฆ่า แล้วจ้องหน้าฉันเขม็งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ฉันพยายามหว่านล้อมให้ M เผยความลับที่เกาะกินใจเขาอยู่แต่ไม่ได้ผล M ไม่ปริปากพูดอะไรมากไปกว่านั้นซ้ำยังทำหน้าคล้ายเสียใจอย่างมากที่เผลอหลุดปากออกมาเช่นนั้น การที่ผู้ชายอย่าง M กลัวถึงขนาดนั้นทำให้ฉันหวาดหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก M กลัวอะไร M มีความลับอะไรและสำคัญมากแค่ไหนจึงเปิดเผยไม่ได้แม้แต่กับฉันที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นปานนี้ ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาจริง ๆ

[20 พฤศจิกายน] M ปฏิเสธนัดของฉันอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่สามที่ฉันโทรชวนและถูก M ปฏิเสธ แสดงว่า M หลีกเลี่ยงที่จะพบกับฉัน เขามีความลับที่บอกใครไม่ได้ ที่เขาหลีกเลี่ยงไม่อยากพบฉันก็เพราะคิดว่าถ้าพบเขาอาจหลุดปากเผยความลับนั้นออกมาก็ได้

หลายวันที่ผ่านมาฉันครุ่นคิดอย่างหนักเพื่อหาทางถอดรหัสความลับของ M แต่ไม่สำเร็จ รู้สึกหงุดหงิดมากกับความที่ว่าน่าจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ความลับนั้นดูเหมือนจะอยู่ตรงหน้าฉันนี่เอง ฉันสงสัยอะไรอยู่อย่างหนึ่งที่น่ากลัวมาก ฉันได้แต่บอกตัวเองว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีเหตุผลพอที่จะยืนยันว่าความสงสัยของฉันนั้นไม่มีวันเป็นจริงไปได้ แต่มันน่ากลัวเหลือเกิน ฉันไม่เคยกลัวอะไรอย่างนี้มาก่อนตั้งแต่เกิดมา (ตัดตอนท้าย)


กำลังโหลดความคิดเห็น