LINE แอปพลิเคชันยอดนิยมเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี บริษัทแม่ในญี่ปุ่นประกาศผลขาดทุนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เมื่อปี 2016
บริษัทแม่ของ LINE ที่มีฐานอยู่ที่ญี่ปุ่นระบุว่า ยอดขายในปี 2018 อยู่ที่ราว 207.2 พันล้านเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7 จากปีก่อนหน้า โดยได้รับประโยชน์จากรายรับด้านโฆษณาที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการโดยรวมในไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ทางบริษัทมีผลขาดทุนราว 12.6 พันล้านเยน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ยักษ์ใหญ่ในโลกโซเชียลมีเดียของญี่ปุ่นพบกับการขาดทุน
ทาเกชิ อิเดซาวะ CEO ของ LINE ระบุว่า ผลขาดทุนเกิดจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อจูงใจให้ลูกค้าชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายจากการพัฒนาลำโพงอัจฉริยะ ที่ทางบริษัทหวังปลุกปั้นให้เป็นธุรกิจใหม่ตั้งแต่ปี 2017 แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
CEO ของ LINE ยอมรับว่า เทคโนโลยีและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทางบริษัทจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ ฟินเทค เพื่อรักษาการเติบโตในระยะกลางและระยะยาว LINE มีแผนจะลงทุนราว 550 ล้านดอลลาร์ในการพัฒนา AI และฟินเทค ซึ่งถือเป็นสองเท่าตัวจากปีก่อนหน้า
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถึงแม้ LINE จะเป็นแอปพลิเคชันที่ขาดไม่ได้แล้วสำหรับผู้คนจำนวนมาก มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 192 ล้านคนทั่วโลก แต่ในอดีต QQ, MSN, Yahoo, ICQ ก็เคยได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ก็ถูกดิสรัปชัน แม้แต่ เฟชบุ๊ก ก็เผชิญกับผู้ใช้งานใหม่ที่ลดลง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทำให้ธุรกิจสามรรถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็สูญสลายได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน