นายคาลอส กอส์น อดีตประธานบริษัท นิสสัน ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกรุงโตเกียว จากคนที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งต้องมาใช้ชีวิตในห้องแคบ ๆ ขนาด 4.8 ตารางเมตร กินอาหารที่จัดให้ และได้อาบน้ำแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
นายคาลอส กอส์น และนายเกร็ก เคลลี อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ซึ่งถูกควบคุมตัวในข้อสงสัยว่าแจ้งรายรับเป็นเท็จ ขณะนี้ทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกรุงโตเกียว เพื่อสอบสวนโดยอัยการของญี่ปุ่น ทั้งคู่ใช้ชีวิตในห้องขังตั้งแต่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนไปจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีการตั้งข้อหา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม อัยการกรุงโตเกียวได้สั่งฟ้่องในข้อหา "แจ้งรายงานทางการเงินเป็นเท็จ" และควบคุมตัวทั้งคู่อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
โดยปกติแล้ว ผู้ต้องสงสัยในกรณีเดียวกันจะถูกควบคุมตัวโดยแยกกัน นายกอส์นและนายเคลลีจะถูกคุมขังให้ห้องขังเดี่ยว ขนาด 4.8 ตารางเมตร ซึ่งมีอ่างล้างหน้าและสุขาแบบชักโครกภายในห้อง ถือว่าเป็นส่วนตัวกว่าห้องขังทั่วไปที่เป็นห้องขังรวมที่ผู้ต้องหาพักรวมกัน 6 คน
สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า นายกอส์นระบุว่ามีสุขภาพแข็งแรงดี แต่เขาบ่นว่าภายในห้องขังหนาวและทานอาหารไม่ลง
ทางเรือนจำจะจัดหาอาหาร 3 มื้อต่อวัน ตามข้อจำกัดทางศาสนา และการแพ้ของแต่ละคน อาหารที่ทางเรือนจำจัดให้ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแบบญี่ปุ่น โดยจะมีขนมปังเพียงแค่เดือนละ 1-2 ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ข้าวที่จัดให้จะผสมกับข้าวสาลีราวร้อยละ 30 เพื่อประหยัดและเสริมสารอาหาร
ทั้งนี้ ภายในอาหารเรือนจำจะมีระบบปรับอากาศเฉพาะส่วนโถงทางเดินเท่านั้น แต่ในห้องขังจะต้องอาศัยไออุ่นจากโถงทางเดิน ซึ่งแน่นอนว่าภายในห้องจะหนาว เพราะขณะนี้อุณหภูมิที่กรุงโตเกียวต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส
แต่ละวัน ผู้ต้องขังจะถูกปลุกให้ตื่นในเวลา 07.00 น. และดับไฟเข้านอนในเวลา 21.00 น. อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาจะไม่สามารถนอนในช่วงกลางวันได้ กฎนี้มีขึ้นเพื่อในเจ้าหน้าที่แยกแยะได้ว่ามีผู้ต้องหาที่ล้มป่วยหรือมีอุบัติเหตุ โดยหากผู้ต้องหารู้สึกป่วยและต้องการนอนพักในช่วงกลางวันจะต้องขออนุญาตก่อน
ผู้ต้องขังจะสามารถอาบน้ำสัปดาห์ละครั้ง แต่ในฤดูร้อนสามารถอาบน้ำได้บ่อยครั้งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเวลาออกกำลังกายกลางแจ้งได้วันละ 30 นาทีต่อวัน ส่วนเครื่องแต่งกายและทรงผมนั้นไม่ได้มีข้อจำกัด เพียงแต่ให้สอดคล้องกับหลักเรื่องการรักษาความปลอดภัยเท่านั้น
ถึงแม้ชีวิตในเรือนจำญี่ปุ่นจะไม่ถือว่าลำบากยากเข็ญ แต่ความทุกข์ที่อดีตผู้บริหารสูงสุดของนิสสันได้รับ น่าจะเป็นความกกดันทางจิตใจ และข้อจำกัดทางกฎหมายของญี่ปุ่น
ผู้ต้องสงสัยสามารถถูกควบคุมตัวได้นานถึง 23 วัน โดยไม่ต้องมีการตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าการคุมขังเป็นระยะเวลานานโดยไม่ตั้งข้อหาเช่นนี้ไม่แตกต่างจากประเทศคอมมิวนิสต์ และระบบเช่นนี้น่าจะใช้กับแก็งค์ยากูซ่ามากกว่าผู้บริหารระดับโลก ที่ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน
นอกจากนี้ ผู้ต้องขังชาวต่างชาติในญี่ปุ่นยังมีข้อจำกัดอย่างมากในการพบกับทนายความ และเจ้าหน้าที่ของสถานทูต รวมทั้งครอบครัวด้วย การส่งอาหารและของใช้ต่าง ๆ ให้กับผู้ต้องขังสามารถทำได้ แต่ก็ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
แม้แต่ในช่วงที่เขาถูกสอบปากคำโดยอัยการก็ไม่สามารถมีทนายความอยู่ด้วยได้ ซึ่งต่างจากระบบของตะวันตก การสอบปากคำทำโดยเจ้าหน้าที่อัยการที่ชำนาญด้านภาษาอังกฤษ และมีการบันทึกวีดิโอไว้โดยทีล่ามภาษาอังกฤษอยู่ด้วย
กรณีของนายคาลอส กอส์นถูกวิจารณ์อย่างมาก ทั้งเรื่องการควบคุมตัวเขาไว้ในเรือนจำโดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา และความผิดของเขาเรื่องการแจ้งรายได้เป็นเท็จ ซึ่งทางบริษัทนิสสันเอง ก็น่าจะรู้เห็นเป็นใจด้วย สื่อฝรั่งเศสถึงกับวิเคราะห์ว่า นิสสันจงใจทำให้นายกอส์นพ้นจากตำแหน่ง เพื่อขัดขวางแผนการควบรวมนิสสันเข้ากับเรโนลต์ ค่ายรถยนต์ที่รัฐบาลฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งหากแผนควบรวมนี้สำเร็จก็เท่ากับว่า นิสสันจะเปลี่ยนจากบริษัทญี่ปุ่นเป็นบริษัทฝรั่งเศส ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับไม่ได้.
