ธนาคารญี่ปุ่นรุกตลาดอาเซียน หวังสร้างรายได้ชดเชยแดนอาทิตย์อุทัยซบเซา

ธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นเดินหน้าสร้างฐานลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอบรับการยกเลิกข้อจำกัดและลดภาษีของประชาคมอาเซียน โดยหวังสร้างธุรกิจใหม่หลังจากภาคการเงินในประเทศญี่ปุ่นซบเซาต่อเนื่องยาวนาน

ธนาคารใหญ่ที่สุด 3 แห่งของญี่ปุ่น คือ MUFG, มิซูโฮ และ สุมิโตโม มิตซุย หรือ SMBC เร่งพัฒนาบริการสำหรับลูกค้าท้องถิ่นและบริษัทญี่ปุ่นในภูมิภาคอาเซียน โดยคาดว่าธุรกิจจำนวนมากจะย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังชาติสมาชิกอาเซียน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ

ในวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา MUFG ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จัดงานจับคู่ธุรกิจในกรุงเทพ โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า โดยเฉพาะภาคการบริการ ที่มีความต้องการการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มชนชั้นกลางในประเทศไทย

บริษัทกว่า 200 แห่งจากทั้งประเทศไทย, กัมพูชา, พม่า และลาว รวมทั้งบริษัทญี่ปุ่นเข้าร่วมงานครั้งนี้ โดยถือเป็นงานใหญ่ที่สุดที่ MUFG เคยจัดในต่างประเทศ

ถึงแม้งานจับคู่ธุรกิจจะไม่ได้สร้างรายได้โดยตรงให้กับธนาคาร แต่ทาง MUFG คาดหวังว่าจะสร้างเครือข่ายในอาเซียน และบุกเบิกธุรกิจใหม่ ๆ ที่ต้องการเงินทุน ทั้งในไทย, กัมพูชา, ลาว, พม่า และเวียดนาม ซึ่งทั้งธุรกิจไทยและญี่ปุ่นกำลังขยายการลงทุน

ด้านธนาคารมิซูโฮ ได้ลงนามในบันทึกช่วยจำกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า หรือ EXIM Bank ของไทย ธนาคารมิซูโฮจะสนับสนุนบริษัทของไทย ที่จะขยายธุรกิจไปในอาเซียน โดย EXIM Bank จะประเมินข้อมูลเครดิตของลูกค้า และธนาคารมิซูโฮจะสนับสนุนเงินทุนสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย

ส่วนธนาคาร SMBC ได้ร่วมมือกับทางการท้องถิ่นของพม่าและกัมพูชา และจัดสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลล่าสุดกับบริษัทและนักลงทุน ที่ต้องการเงินลงทุนเพิ่มเติม หลังจากเมื่อเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลพม่าได้ยกเลิกข้อจำกัดที่ห้ามธนาคารต่างชาติปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทของพม่า

ธนาคาร SMBC ยังจะขยายธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการออกพันธบัตรเป็นเงินบาทด้วย.