ประชาชนชาวไต้หวันลงประชามติสนับสนุนการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟูกูชิมะ สร้างความผิดหวังให้กับทางการญี่ปุ่นอย่างมาก
มีการจัดการลงประชามติ 10 เรื่องในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พร้อมกับการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วไต้หวัน หนึ่งในหัวข้อที่ลงประชามติคือ “คุณเห็นด้วยหรือไม่ ที่จะให้รัฐบาลใช้มาตรการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ซึ่งประกอบด้วย ฟูกูชิมะ และ 4 จังหวัดใกล้เคียง คือ อิบารากิ โทจิงิ กุนมะ และ ชิบะต่อไป ?
ผลการลงประชามติปรากฏว่า ชาวไต้หวันลงมติให้คงมาตรการห้ามนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรจากพื้นที่ประสบภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นอย่างท่วมท้น ประชาชนเกือบ 7,800,000 คนลงมติสนับสนุนให้คงการห้ามนำเข้าต่อไป ขณะที่มีเพียงราว 2,200,000 คนลงมติคัดค้าน คือให้ยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้า
รัฐบาลไต้หวันมีคำสั่งห้ามนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรจากพื้นที่ประสบภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น หลังจากอุบัติเหตุนิวเคลียร์ในฟูกูชิมะ เมื่อปี 2554 แต่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขอให้รัฐบาลไต้หวันยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าอาหาร โดยระบุว่าอาหารที่ส่งออกจากญี่ปุ่นได้ผ่านการตรวจสอบการปนเปื้อนรังสีอย่างเข้มงวด
พรรครัฐบาลไต้หวันภายใต้การนำของไช่ อิงเหวิน มีแนวโน้มจะสนับสนุนการยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าเพื่อเอาใจญี่ปุ่น แต่เผชิญการคัดค้านการพรรคฝายค้านและกลุ่มประชาสังคม จนนำไปสู่การลงประชามติในครั้งนี้
ญัตติการลงประชามติเรื่องนี้ นำเสนอโดน นายห่าวหลงปิน รองหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง และอดีตรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม และอดีตผู้ว่าการกรุงไทเป
ทั้งนี้ สำนักงานผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำไต้หวัน เคยระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นคาดหวังว่า รัฐบาลไต้หวันจะผ่อนคลายการนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตร เพื่อช่วยฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย พร้อมระบุว่าในแต่ละปีมีชาวไต้หวันจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวใน 5 จังหวัดที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว
หลังทราบผลการลงประชามติ สำนักงานผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ระบุผ่านเฟชบุ๊กของสมาคมมิตรภาพญี่ปุ่น-ไต้หวันว่า “ผิดหวังอย่างยิ่ง” โดยจะมุ่งมั่นทำงานต่อไปเพื่อให้ประชาชนชาวไต้หวันเข้าใจถึงความปลอดภัยของอาหารจากญี่ปุ่น และไม่ต้องการให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง
หลี่เสี้ยนจัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ระบุว่า จากผลประชามติ กระทรวงการต่างประเทศจะสื่อสารและหาทางทำให้ฝ่ายญี่ปุ่นเข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและญี่ปุ่น โดยที่รัฐบาลก็ต้องเคารพมติของประชาชน
มติของประชาชนไต้หวันในครั้งนี้อาจส่งผลต่อหลายประเทศ ที่มีคำสั่งห้ามนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรจากพื้นที่ประสบภัยในญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทย ซึ่งเคยมีกรณีนำเข้าปลาจากพื้นที่ประสบภัยในญี่ปุ่น เพื่อจำหน่ายเป็นการเฉพาะในร้านอาหารญี่ปุ่นที่กรุงเทพฯ แต่ได้รับการคัดค้านอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกัน.