xs
xsm
sm
md
lg

“อะเบะ” ผงาดเป็นนายกฯ ญี่ปุ่นยาวนานที่สุด ต่ออำนาจถึงปี 2564

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายชินโซ อะเบะ ประกาศว่า “นับจากนี้ ญี่ปุ่นจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” หลังจากได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยอีกครั้ง ปูทางให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น

นายชินโซ อะเบะ คว้าชัยในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP เป็นวาระที่ 3 โดยจากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงทั้งหมด 810 เสียง นายอะเบะได้คะแนนไปทั้งสิ้น 553 เสียง ขณะที่นายชิเงรุ อิชิบะ คู่แข่งที่เป็นอดีตรัฐมนตรีป้องกันประเทศ ได้ไป 254 เสียง

นายอะเบะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาพรรคเสรีประชาธิปไตยกว่าร้อยละ 80 และสมาชิกของพรรคเสรีประชาธิปไตยที่ไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาจากทั่วญี่ปุ่นอีกราวร้อยละ 55 ถือเป็นเสียงสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานายกฯ ของพรรค LDP ในรอบทศวรรษ

ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของญี่ปุ่นนับตั้งแต่ยุคของโชกุนโทกุงาวะ อิเอโยชิ ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ไม่เคยมีผู้นำญี่ปุ่นคนไหนมีอำนาจยาวนานเช่นนี้มาก่อน แต่ญี่ปุ่นในวันนี้เผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยพบมาก่อนเช่นกัน ทั้ง สงครามการค้า, สังคมผู้สูงอายุ และการขาดแคลนแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ทำให้วาระนับจากนี้ของนายอะเบะไม่ใช่เรื่องง่าย

ไม่สะเทือน แม้เผชิญเรื่องอื้อฉาว

นายอะเบะสามารถนำพรรค LDP ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ยึดเสียงข้างมากทั้งสองสภา ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ สะดวกโยธิน และถึงแม้เขาจะเผชิญกรณีอื้อฉาวเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง แต่ก็กระเทือนคะแนนนิยมไม่มากนัก

ผลการสำรวจเมื่อเดือนสิงหาคมของหนังสือพิมพ์นิเคอิ พบว่า สัดส่วนการสนับสนุนรัฐบาลอะเบะอยู่ที่ 48% ไม่สนับสนุนอยู่ที่ 42%

ในช่วงที่มีเรื่องอื้อฉาวเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง คะแนนนิยมของรัฐบาลอะเบะตกลงไปเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 50%

นายกฯ ผู้ยิ่งใหญ่ หรือสนองตัณหาส่วนตัว

สาเหตุที่ทำให้นายอะเบะได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น เป็นเพราะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ และบทบาทของเขาในเวทีโลก นายอะเบะประกาศว่าเขาจะใช้เวลา3 ปีจากนี้เพื่อ “สร้างนโยบายต่างประเทศยุคหลังสงคราม”

แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า วาระต่อจากนี้ของนายอะเบะไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา รัสเซียได้ท้าทายโลกด้วยการผนวกแคว้นไครเมียเข้าเป็นดินแดนของตนโดยไม่สนใจเสียงของประชาคมโลก, จีนขยายแสนยานุภาพอย่างฮึกเหิม, สหรัฐภายใต้การปกครองแบบ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของโดนัลด์ ทรัมป์ แม้แต่เกาหลีเหนือก็ยังเปลี่ยนท่าทีจนโลกตะลึง ญี่ปุ่นจึงอยู่ในภาวะที่แยกแยะได้ยากว่าใครคือมิตรหรือศัตรู ?

นายอะเบะประกาศว่า เขาจะเดินหน้าเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างความชัดเจนในการมีอยู่ของกองกำลังป้องกันตนเอง หรือก็คือ กองทัพแห่งญี่ปุ่น

ในด้านเศรษฐกิจ โลกาภิวัฒน์และยุคดิจิตอลได้เปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจที่เคยชี้นำโดยสถาบันการเงินและอุตสาหกรรมการผลิต และญี่ปุ่นยังตามหลังในการเปลี่ยนผ่านนี้อย่างเชื่องช้า

มีเสียงร่ำลือว่า ญี่ปุ่นกำลังหาทางปลดระวางจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ “อะเบะโนมิกส์” และปฏิรูประบบสวัสดิการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ

นายอะเบะระบุว่า เขาจะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ, รับมือกับการขาดแคลนแรงงานโดยเปิดรับแรงงานต่างชาติ และยืนยันคงเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ถึงแม้จะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในอนาคตอันโดยโดยอ้างว่า “เป้าหมายมีไว้พุ่งชน” ไม่ใช่ล้มเลิก

ภารกิจของนายอะเบะทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจไม่ต่างจากการ “เปิดประเทศและปฏิรูป” ครั้งใหม่ หากเขาทำสำเร็จ ประวัติศาสตร์จะจารึกว่าเขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น แต่หากเป็นแค่ราคาคุยเขาก็จะเป็นเหมือนคำร่ำลือที่ว่าต้องการเป็นนายกฯ ที่ยาวนานที่สุด เพียงเพื่อสนองความปรารถนาส่วนตัวเท่านั้น.


กำลังโหลดความคิดเห็น