xs
xsm
sm
md
lg

มายาปีศาจ ตอนที่ 23 กับดักในวังวนแห่งอเวจี (ต่อ) น้ำตกนรก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

บทประพันธ์ของ เอโดงาวะ รัมโป (1894-1965)
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา

หนี้ที่ถูกกำหนดให้ต้องชำระด้วยเลือดและชีวิต...ตามตราสารคำสาปแห่งมายาปีศาจ

น้ำตกนรก

ณ เวลาเดียวกันที่ห้องใต้ดินของคฤหาสน์ซามุไรโบราณ จิโรรวบรวมกำลังเท่าที่เหลืออยู่กระโจนเข้าใส่โครงกระดูกในเปลวเพลิงและวิญญาณปีศาจร้ายที่มองไม่เห็น แล้วหลับหูหลับตาเหวี่ยงซ้ายป่ายขวาอย่างไม่คิดชีวิตจนโครงกระดูกเก่าแก่หลุดจากข้อต่อทั่วร่างกระเด็นกระจายไปคนละทิศละทาง แรงเหวี่ยงสุดฤทธิ์ของเจ้าหนุ่มทำให้ไฟที่ลามไปติดชายรุ่งริ่งของเสื้อชุดกิโมโนเก่าแก่ที่เกือบจะมอดอยู่แล้วดับสนิทไปด้วย ห้องใต้ดินจึงตกอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง

ควันพิษจากสารเคมีในฟิลม์หนังจางลงบ้างแล้ว แต่กว่าอาการบ้าคลั่งของสี่พ่อลูกจะสงบลงได้ต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดฟุบแน่นิ่งอยู่กับพื้นห้องในสภาพที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

ไม่นาน นายทามามุระผู้พ่อก็ได้สติขึ้นมาแล้วตะโกนก้องออกไปในความมืด

“อิจิโร จิโร ทาเอโกะ เป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำใจดี ๆ เอาไว้ เราจะต้องหาทางออกไปจากห้องใต้ดินนรกนี่ให้ได้ พ่อตรองดูแล้วคิดว่าทางออกมีอยู่ทางเดียว เราต้องขุดโพรงที่ขังโครงกระดูกผีนั่นขึ้นไปบนดิน คิดว่าไม่ลึกสักเท่าไร หากเราระดมกำลังกันก็จะหนีออกไปได้ไม่ยาก”

“ผมก็กำลังคิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกันครับคุณพ่อ เราใช้ขาเก้าอี้ที่เหลืออยู่นั่นขุดได้เลย”

อิจิโรพี่ชายใหญ่สนับสนุน ส่วนจิโรไม่คัดค้าน

ไม้ขีดไฟที่ถนอมเอาไว้เป็นอย่างดีถูกจุดขึ้นเป็นก้านที่สอง ส่องทางให้ผู้ชายสามคนแยกย้ายกันไปหาขาเก้าอี้ที่รอดจากไฟไหม้ เลือกได้ท่อนที่เหมาะมือกลับมารวมตัวกันที่หน้าโพรงผนังห้องด้วยท่าทีขมีขมันมาดหมาย

ทั้งหมดยกเว้นทาเอโกะก้าวเข้าไปในโพรงทันทีแล้วเริ่มลงมือขุดในความมืดมิด สามพ่อลูกตั้งหน้าตั้งตาขุดจนเหงื่อโซมไปทั้งตัวทั้ง ๆ ที่อากาศหนาวเย็นอยู่ราวครึ่งชั่วโมงจนงานคืบหน้าไปมากเกินคาด

“เร่งมือกันอีกนิด ดินด้านบนนิ่มขึ้นอย่างนี้ แสดงว่าจวนจะถึงพื้นดินแล้ว”

ระหว่างที่สามพ่อลูกพยายามเค้นแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมดทะลวงท่อนไม้ขึ้นไปบนเพดานโพรง เมื่อรู้ว่าเป้าหมายอยู่ไม่ไกลข้างหน้านั้นเอง ก็รู้สึกว่ามีอะไรเหมือนน้ำหยดลงมา

ยังไม่ทันจะแปลกใจหยดน้ำก็กลายเป็นฝนตกซู่ลงมา สามพ่อลูกกระโดดหลบยังไม่ทันจะพ้นดีฝนก็กลายเป็นน้ำตกพุ่งลงมาด้วยพลังแรงและไหลบ่าเข้าไปในห้องใต้ดิน ทั้งสามร้องลั่นด้วยความตกใจและกระโจนกลับเข้าไปซุกตัวอยู่ที่มุมห้องใต้ดินที่อยู่ไกลสุดจากโพรง เงี่ยหูฟังเสียงน้ำด้วยความหวังว่าคงจะหยุดในไม่ช้า แต่ที่ไหนได้เสียงคึ่ก คึ่กของน้ำตกยิ่งดังขึ้นดังขึ้น

ความแรงของน้ำตกทำให้กระแสน้ำเชี่ยวกรากเกิดเกลียวคลื่นเป็นวังวนอยู่ในห้อง ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แค่ไม่กี่อึดใจก็ท่วมขึ้นมาถึงตาตุ่ม

“จิโร ไม้ขีด”

สิ้นเสียงสั่งของพ่อ จิโรจุดไม้ขีดไฟก้านสุดท้ายขึ้นส่องดูสภาพภายในห้องทันที น้ำตกจากเพดานโพรงยังถาโถมลงมาด้วยกำลังแรงเท่าเดิมไม่หยุดยั้ง ห้องทั้งห้องกลายเป็นสระน้ำ คลื่นซัดกระทบผนังด้วยพลังแรงสะท้อนกลับมาหมุนคว้างเป็นวังวน

“เฮ้ย ทาเอโกะ หายไปไหน”

จิโรร้องลั่นเมื่อไม่เห็นน้องสาว...หรือว่าจะจมน้ำอยู่ตรงไหน เจ้าหนุ่มส่ายเปลวไฟริบหรี่จากก้านไม้ขีดไฟไปรอบ ๆ ตัว แต่อนิจจาเปลวไฟที่ลามมาจนสุดก้านดับวูบลง ความมืดมิดและระดับน้ำที่สูงขึ้นมาจนถึงเอวทำให้ไม่มีปัญญาที่จะค้นหาตัวทาเอโกะ

ถ้าน้ำตกยังถาโถมไม่หยุดยั้งเช่นนี้ต่อไป ไม่นานน้ำก็จะท่วมขึ้นมาถึงท้อง ถึงหน้าอก ถึงหัว แล้วตัวทั้งตัวก็จะจมมิดอยู่ในน้ำ อยู่ในห้องที่ปิดตาย ซึ่งหมายความว่าทุกคนจะต้องจมน้ำตายอย่างน่าอนาถ

ว่าแต่น้ำพวกนี้ตกลงมาจากไหน เจ้าหนุ่มจิโรนิ่งคิดอยู่อึดใจหนึ่งก่อนตะโกนออกมาลั่นห้อง

“รู้แล้ว เราหลงกลของไอ้ปีศาจร้ายตกลงมาอยู่ในกับดักของมัน มันทำสระใหญ่ไว้เหนือโพรงกะว่าพอเราขุดขึ้นไปเป็นต้องทะลุก้นบ่อแล้วน้ำในบ่อก็จะทะลักทะลายลงมาเป็นน้ำตกอย่างนี้ กับดักของมันแท้ ๆ “

ใช่...พ่อลูกครอบครัวทามามุระมีสภาพไม่ผิดอะไรกับหนูในท่อระบายน้ำที่จนมุมอยู่ในกับดัก ผิดกันแต่ว่าเป็นกับดักในวังวนแห่งอเวจี

เจ้าหนุ่มจิโรสบถหยาบคาย ก่อนกัดฟันคำรามออกมาอย่างเคียดแค้น

“ไม่นึกว่าจะชั่วได้ถึงขนาดนี้ ผมว่าเราข่มใจให้สงบไว้ก่อนดีกว่า ถึงตะเกียกตะกายไปก็มีแต่จะยิ่งตายเร็วขึ้นเท่านั้น”

ใช่...ถึงจะโกรธแค้น เกรี้ยวกราดแค่ไหน น้ำตกก็ยังกระหน่ำครืนครืนไม่หยุด น้ำท่วมขึ้นมาถึงเอวแล้วและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

บนดินกับใต้ดิน

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ซามุไรโบราณ นักสืบอาเกจิกับฟุมิโยะก็พบว่าตำรวจนักสืบจากสถานีตำรวจท้องที่หลายคนมาถึงและเข้าค้นหาตรวจสอบตามห้องหับที่มีอยู่มากมายกันให้ควั่กแล้ว

พอเห็นตัวนักสืบหนุ่มรูปงาม ตำรวจนอกเครื่องแบบที่อยู่ตรงนั้นคงรู้เรื่องมาดีแล้วจากสารวัตรนามิโคชิจึงให้การต้อนรับอย่างดี คนหนึ่งรายงานว่า

“บ้านร้างครับคุณ ไม่มีแม้แต่แมวสักตัว”
นักสืบอาเกจิถามขึ้นว่า

“คุณตำรวจครับ ตอนนี้คุณทามามุระกับลูกสามคนของเขาถูกขังอยู่ในห้องใต้ดิน พวกคุณลงไปตรวจดูกันรึยัง”

“แต่พวกเราไม่พบห้องใต้ดินครับ ไม่รู้ทางเข้าอยู่ตรงไหน หาร่องรอยไม่พบเลยจริง ๆ”

ตำรวจทำหน้าลำบากใจ

“ไม่เป็นไร ทางผมมีคนนำทางมาด้วย เรื่องราวมันออกจะมีเบื้องหลังสับสนสักหน่อย แต่ลูกสาวของฆาตกรเองมาแจ้งเบาะแสกับผม ฟุมิโยะ...ห้องใต้ดินอยู่ไหนครับ”

ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงเรียกของนักสืบรูปงาม ฟุมิโยะวิ่งหน้าตื่นเข้ามาจากทางระเบียงด้านสวน

“แย่แล้วค่ะแย่แล้ว ถ้าไม่รีบลงไปช่วยเร็ว อาจไม่ทันการ ฉันไปดูสระน้ำในสวนแล้วน้ำงวดลงไปเร็วมาก คุณ ทามามุระกับลูก ๆ คงช่วยกันขุดโพรงหนีขึ้นมาตามแผนชั่วร้าย รีบไปกันเถอะค่ะ”

ลูกสาวฆาตกรหน้าซีดปากสั่น วิ่งนำทุกคนเข้าไปในห้องลับข้างห้องรับแขก

“ทางลงไปห้องใต้ดินอยู่ในตู้เก็บที่นอนนี่ค่ะ”

ฟุมิโยะบอกพลางเลื่อนบานประตูตู้เปิดออก และทันทีที่มองเข้าไปในนั้นเธอก็ผงะออกมากรีดร้องเสียงแหลม

จิตใจของปีศาจฆาตกรทำด้วยอะไรถึงกล้าท้าทายเงื้อมมือกฎหมายในระยะเผาขนเช่นนี้ มันคงรู้ตัวแล้วว่าตำรวจกำลังแห่กันมาที่นี้ จึงได้หนีเข้าซุ่มตัวรอรับมือกับศัตรูอยู่คนเดียวที่ทางเข้าห้องใต้ดิน

กระดานปูพื้นตู้เก็บที่นอนเลื่อนออกเป็นช่องกว้างราวสองสามฟุต มือข้างหนึ่งของมนุษย์ถือปืนพกบราวนิงยื่นออกมาจากช่องนั้นราวหัวงูจงอางเล็งปากกระบอกจับจ้องมาที่ผู้บุกรุก

ทั้งนักสืบเอกและตำรวจมือปราบยืนตะลึงงันขนลุกซู่ไปตาม ๆ กันกับการตั้งท่าเตรียมต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายของฆาตกรใจโหด

ส่วนทางด้านห้องใต้ดินนั้น สามพ่อลูกมองไม่เห็นหนทางที่จะเอาตัวรอดได้แต่จับมือกันยืนตั้งหลักอยู่ในน้ำที่ท่วมสูงขึ้นมาทุกที ทาเอโกะอยู่ไหนไม่รู้ เรียกเท่าไรก็ไม่มีเสียงขานตอบ หรือว่าจะจมน้ำตายไปแล้ว ห้องน้ำท่วมและมืดมิดเช่นนี้ไม่มีใครกล้าเสี่ยงออกเดินหา

ระดับน้ำสูงขึ้นรวดเร็วมากจากเอวขึ้นมาที่ท้อง จากท้องขึ้นมาที่หน้าอก ทั้งยังต้องขืนตัวสู้แรงของกระแสน้ำในวังวนให้ทรงตัวเอาไว้เพราะถ้าเผลอตัวก็จะเสียหลักล้มลงไปได้ แต่ไม่นานน้ำก็ท่วมขึ้นมาถึงหัวทำให้ตัวลอยขึ้นขาหยั่งไม่ถึงพื้นอีกต่อไป น้ำเย็นเฉียบเกือบจะเป็นน้ำแข็งบาดเนื้อบาดตัวราวกับมีดคม

“คุณพ่อ เป็นอะไรไปหรือเปล่า”

สองพี่น้องจับแขนพ่อเอาไว้คนละข้างช่วยพยุงร่างอ้วนสมบูรณ์เอาไว้ พลางร้องถามเป็นระยะ ๆ ด้วยความเป็นห่วง ส่วนนายทามามุระดูเหมือนจะหมดอาลัยตายอยากในชีวิตเสียแล้วเพราะเริ่มท่องนะโมเสียงสั่นและแหบพร่า

มาดูบนดินกันบ้าง ตำรวจมือปราบคนหนึ่งหัวดีไปหาไม้ไผ่ลำอ้วน ๆ มาได้ลำหนึ่งเอาหินก้อนเขื่องผูกติดที่ปลายไม้ด้านหนึ่ง แฝงตัวหลบอยู่นอกตู้เก็บที่นอนเพื่อไม่ให้โดนกระสุนปืน แล้วแหย่ลำไม้ไผ่นั้นเข้าไปข้างในหมายที่จะฟาดลงไปให้ปืนพกหลุดจากมือปีศาจ

คนอื่น ๆ ในคณะไล่ล่าพากันหลบออกไปให้พ้นวิถีกระสุนกลั้นใจรอดูอยู่ ตำรวจใจกล้าเงื้อลำไม้ไผ่สูงขึ้นไปถึงเพดานตู้เก็บที่นอนเล็งไปที่แขนของปีศาจแล้วฟาดลงไปสุดแรง

เสียงวัตถุตกกระทบพื้นดังสนั่น เสียงนั้นทำให้ฟุมิโยะซึ่งเบือนหน้าไปทางหนึ่งและปิดหูเอาไว้กรีดร้องเสียงแหลม ด้วยความสะเทือนใจจนสุดที่จะกลั้นเอาไว้ได้เมื่อนึกถึงแขนพ่อที่อาจถูกตีจนหัก

ใช่...แขนหักห้อยลงมาและปืนพกหลุดจากมือกระเด็นออกมานอกตู้เก็บที่นอน คณะไล่ล่ากรูเข้ามาก้มดูแขนที่หักห้อยคาช่องพื้นตู้อยู่ เดี๋ยวเดียวก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ตำรวจมือปราบเจ้าของความคิดตะโกนลั่นด้วยความ เจ็บใจ

“บ้า บ้าที่สุด เสียท่ามันไปยกหนึ่งจนได้”

ที่ทุกคนเห็นและคิดว่าเป็นมือของปีศาจฆาตกรนั้นความจริงเป็นถุงมือที่เอาอะไรยัดเป็นไส้ให้อยู่ตัวดูแนบเนียนส่วนปืนที่ถืออยู่ในมือเป็นปืนเด็กเล่น ซึ่งความมือสลัวภายในตู้เก็บที่นอนช่วยหลอกตาให้เชื่อสนิท

“แย่จริง ๆ เราต้องเสียเวลาไปกับไอ้หุ่นไล่กาบ้า ๆ นี่ถึง 20 นาที”

นั่นแหละคือเป้าหมายของไอ้ปีศาจฆาตกร มันเตรียมพร้อมไว้อย่างรัดกุมเพื่อรับมือกับกรณีที่เกิดมีคนมาช่วยเหยื่อของมัน อุบายนี้จะช่วยถ่วงเวลาพวกนั้นไว้ให้อยู่ที่นี่สักครู่หนึ่ง ช่วงเวลาอันน้อยนิดนั้นเองที่จะชี้ชะตาสี่พ่อลูกในห้องใต้ดินว่าอยู่หรือตาย

พอรู้ว่าเป็นหุ่นลวงตา ตำรวจก็จับแผ่นกระดานที่ปิดช่องพื้นตู้เหวี่ยงไปทางหนึ่งแล้ววิ่งแข่งกันลงไปที่ห้องใต้ดิน ซึ่งมีด่านที่สองกั้นอยู่อย่างมั่นคง อิฐที่ก่อปิดทับบานประตูถึงจะยังไม่แห้งสนิทแต่ดูแล้วคงต้องใช้แรงและเวลาในการรื้อมากพอดูใ แล้วยังบานประตูเหล็กที่ล็อกกุญแจแน่นหนานั้นเล่าจะเปิดได้อย่างไร แล้วอย่างนี้คณะไล่ล่าจะมีพลังทะลายด่านที่สามละหรือ

น้ำในห้องใต้ดินลึกท่วมหัวแล้ว อิจิโรกับจิโรยืนไม่ถึงแล้วจึงต้องว่ายพยุงตัวให้ลอยเอาไว้และต้องช่วยพ่อไม่ให้จมลงไปด้วย ถึงจะแข็งแรงเพียงใดก็ไม่อาจว่ายน้ำอยู่ได้นานในความมืดมิดเช่นนี้ อีกทั้งน้ำที่เย็นจวนจะเป็นน้ำแข็งยังทำให้ตัวชาไร้ความรู้สึกลงไปตามลำดับ

“ไม่ไหวแล้ว พี่ทนไม่ไหวแล้วจิโร”

อิจิโรร้องเสียงแหบโหยเป็นที่น่าเวทนา

“ผมก็หมดแรงแล้ว ตายดสียดีกว่าต้องทรมานอย่างนี้”

จิโรรำพันเสียงสะอื้น เกาะพี่ชายเอาไว้แน่น ส่วนนายทามามุระผู้พ่อตัวอ่อนยวบไม่ผิดอะไรกับคนตาย ไม่มีแรงแม้แต่จะพูด

อนิจจา...ความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยทำให้ความปรารถนาดีจากใจอันบริสุทธิ์ของฟุมิโยะ และความพยายามของนักสืบอาเกจิและตำรวจต้องสูญเปล่า และชะตากรรมของพ่อลูกแห่งตระกูลทามามุระต้องมาจบสิ้นลงด้วยความตายเพราะความหนาวเย็นในห้องใต้ดินแห่งนี้...อย่างนั้นหรือ

แนะนำตัวละคร
ทามามุระ เซ็นทาโร พ่อค้าเพชร เศรษฐีใหญ่ของโตเกียว
ทามามุระ อิชิโรบุตรชายคนโตของเซ็นทาโร
ทามามุระ จิโรบุตรชายคนที่สองของเซ็นทาโร
ทามามุระ ทาเอโกะ บุตรสาวของเซ็นทะโร
ชินอิจิ ลูกกำพร้าในอุปการะของครอบครัวทามามุระ
ฟุกุดะ โทกุจิโร นักธุรกิจ น้องชายร่วมสายโลหิตของเซ็นทะโร
ฮานาโซโนะ โยโกะ เพื่อนของทาเอโกะ

《มายากร》    
ฟุมิโยะ ลูกสาวของ《มายากร》
สารวัตรนามิโคชิ แผนกสืบสวนและปราบปราม สำนักงานตำรวจกรุงโตเกียว
อาเกจิ โคโงโร นักสืบเอกชนเลื่องนาม



กำลังโหลดความคิดเห็น