เหตุแผ่นดินไหวที่ฮอกไกโดมีลักษณะที่พิเศษกว่าที่เคยพบเห็นมาก่อน คือ พื้นดินหลอมเหลวเป็นโคลน และผู้เสียชีวิตราวร้อยละ 80 เกิดจากขาดอากาศหายใจ เพราะถูกทับถมอยู่ใต้ชั้นโคลนหนาที่เกิดจากปรากฏการณ์ “แผ่นดินเหลว”
โดยทั่วไปแล้ว ภาพแผ่นดินไหวจะเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ถนนหนทางแตกร้าว หรือดินถล่ม แต่แผ่นดินไหวที่ฮอกไกโดได้เกิดพื้นดินหลอมเหลวเป็นโคลน ทำให้ผู้คนติดอยู่ใต้โคลน ยากในการเอาตัวรอด และทำให้ผู้เสียชีวิตร้อยละ 80 จากยอดล่าสุดคือ 36 ราย เสียชีวิตเพราะเหตุนี้
ปรากฏการณ์แผ่นดินเหลว หรือ liquefaction เกิดขึ้นเมื่อดินทรายใต้ดินที่มีน้ำแทรกอยู่เต็มถูกบีบคั้น เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ทำให้น้ำทะลักขึ้นมาบนผิวดินตามรอยแตก โดยมีทรายกับโคลนก็ไหลออกมากับน้ำด้วย
เหตุที่เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินเหลวเนื่องจากฮอกไกโดมีพื้นดินที่อ่อนุ่ม มีน้ำใต้ดินมาก เมื่อได้รับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว จึงกลายเป็นโคลนหนืดเหนียวคล้ายกับธรณีสูบ
ไฟฟ้ายังไม่พอ ร้องขอให้ประชาชนช่วยประหยัด
การกู้ภัยหลังแผ่นดินไหวดำเนินต่อเนื่อง สนามบินชิน ชินโตเสะ เปิดทำการได้ นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกลับประเทศได้ แต่ปัญหาใหญ่คือ ไฟฟ้ายังไม่เพียงพอ เนื่องจากโรงไฟฟ้าหลักต้องปิดทำการ
นายฮิโรชิเงะ เซโก รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นระบุว่า โรงไฟฟ้าหลักของฮอกไกโดต้องใช้เวลาจนถึงเดือนพฤศจิกายนเป็นอย่างเร็วที่สุดกว่าจะกลับมาเดินเครื่องได้เต็มที่ โดยขณะนี้ถึงแม้จะมีการนำไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่เคยถูกระงับใช้งานชั่วคราวด้วยมาเสริม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
รถไฟใต้ดินและรถรางในเมืองซับโปโรต้องลดจำนวนบริการลงเพื่อประหยัดไฟ ทางการฮอกไกโดเรียกร้องให้บรรดาธุรกิจและครัวเรือนทั้งหลาย ลดการใช้ไฟฟ้าลงร้อยละ 20 และอาจต้องพิจารณาใช้มาตรการดับไฟหมุนเวียนมาใช้หากมีความจำเป็น.