xs
xsm
sm
md
lg

สำรวจลัทธิความเชื่อชาวญี่ปุ่น หลังสิ้น “โอม ชินริเกียว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถึงแม้ในญี่ปุ่นจะมีวัดและศาลเจ้าจำนวนมาก แต่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากระบุว่าตนเองไม่มีศาสนา ขณะที่กฎหมายก็ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาและความเชื่ออย่างมาก ทำให้ลัทธิต่าง ๆ แสวงหาโอกาสที่จะล่อลวงชาวญี่ปุ่นที่ขาดที่พึ่งทางใจ

กระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่นได้ลงโทษประหารชีวิตนายโชโกะ อาซาฮาระ เจ้าลัทธิ “โอม ชินริเกียว” และสาวกทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งมีมติให้เก็บแฟ้มคดีที่เกี่ยวกับลัทธินี้อย่างไม่มีกำหนดเวลา เพื่อเป็นข้อมูลเกี่ยวกับลัทธิความเชื่อที่สั่นสะเทือนสังคมที่สังคมญี่ปุ่นมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาชาวญี่ปุ่นระบุว่า การประหารชีวิตเจ้าลัทธิ “โอม ชินริเกียว” และสาวกไม่ได้ทำให้ลัทธิล่อลวงในญี่ปุ่นหมดสิ้นไป “โอม ชินริเกียว” ยังคงมีสาวกหลงเหลืออยู่ราว 1,650 คนในญี่ปุ่น และหลายร้อยคนในรัสเซีย แต่ละปีมีผู้เข้าร่วมลัทธินี้เพิ่มเติมราว 100 คน ผ่านกิจกรรมเช่นการฝึกโยคะและพยากรณ์ดวงชะตา
ซันเมียงมูน เจ้าลัทธิ Unification Church  และภรรยา
ในอดีต ญี่ปุ่นกำหนดให้ชินโตเป็นศาสนาประจำชาติและบังคับให้ประชาชนในดินแดนที่กองทัพญี่ปุ่นไปยึดครอง เช่น เกาหลี ไต้หวัน ต้องนับถือลัทธิชินโตและถือว่าพระจักรพรรดิเป็นสมมุติเทพ แต่หลังจากพ่ายแพ้สงคราม กองกำลังสัมพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐได้ลดบทบาทของลัทธิชินโตลงอย่างมาก เพราะเห็นว่าลัทธิชินโตเกี่ยวพันโดยตรงกับระบบจักรวรรดินิยมทหารของญี่ปุ่น

ผลจากการพ่ายแพ้สงคราม ทำให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากกลายเป็นคนไร้ศาสนา ทุกวันนี้ ชาวญี่ปุ่นไปศาลเจ้าในยามแรกเกิด แต่งงานในโบสถ์คริสต์ และทำพิธีศพในวัด ลัทธิต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากการไร้ที่พึ่งทางจิตใจของชาวญี่ปุ่น เช่น โอม ชินริเกียว เคยมีสาวกมากกว่า 10,000 คน หลายคนเป็นคนมีการศึกษาและหน้าที่การงานที่ดีมาก แต่กลับยอมทำสังหารผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ถึงแม้จะมีบทเรียนจาก “โอม ชินริเกียว” แต่ญี่ปุ่นก็ยังไม่มีกฎหมายที่ควบคุมลัทธิต่าง ๆ อย่างชัดเจน ในยุโรปความเชื่อที่ไม่มีหลักการที่แน่ชัดจะถูกจัดให้เป็น “ลัทธิ” แต่ในญี่ปุ่นกลับมองว่าเป็น “ศาสนาใหม่” เช่น ลัทธิ Unification Church หรือลัทธิมูน ที่ก่อตั้งโดย ซันเมียงมูน ชาวเกาหลี มีสาวกในญี่ปุ่นหลายหมื่นคน
พิธีแต่งงานหมู่ที่จัดโดย ลัทธมูน
กฎหมายของญี่ปุ่นไม่ห้ามการเข้าร่วมกิจกรรมของลัทธิต่าง ๆ และทำได้เพียงจับตาว่าไม่มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ลัทธิเหล่านี้เป็นภัยคุกคามยิ่งกว่ากลุ่มยากูซ่า เพราะบรรดาสาวกทำตามคำสั่งของเจ้าลัทธิด้วยความศรัทธา ไม่ใช่ผลประโยชน์ บางคนถึงขั้นยอมพลีกายถวายชีวิต และเมื่อลัทธิมีสาวกจำนวนมากมาย หรือทำเรื่องที่เป็นอันตรายต่อสังคมก็สายเกินไปแล้วที่จะหยุดยั้ง

ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นระบุว่า ทุกวันนี้ญี่ปุ่นเจริญทางเศรษฐกิจ แต่ผู้คนขาดที่พึ่งทางจิตใจ และ “ศาสนาใหม่” ต่างต้องการใช้จุดอ่อนนี้ของชาวญี่ปุ่นเพื่อให้มาเป็นสาวก ขณะที่ทางการไม่สามารถล่วงรู้ถึงกิจกรรมของลัทธิต่าง ๆ ได้เลย ในสถานที่หนึ่งอาจมีผู้คนนับร้อยคนมารวมตัวทำบางอย่างที่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ไม่เห็นเลย บางลัทธิมีสาวกและเงินบริจาคจำนวนมากแต่ไม่เคยถูกตรวจสอบเลย ผู้เชี่ยวชาญเสนอว่า ทางการญี่ปุ่นต้องหาข้อมูลจากอดีตสาวกที่ละทิ้งลัทธิ เพื่อจับตาว่ามีความเชื่ออะไรที่กำลังก่อตัวขึ้นบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ลัทธิปีศาจอย่างโอม ชินริเกียวเกิดขึ้นอีก.


กำลังโหลดความคิดเห็น