“ชาร์ป” ประกาศเลิกผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในญี่ปุ่น

ชาร์ป ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำ ประกาศยุติสายการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น โดยจะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศไทยและอาเซียน และในญี่ปุ่นจะเป็นฐานสำหรับเทคโนโลยีอัจฉริยะ

ชาร์ปเคยเป็นผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โรงงานที่จังหวัดโอซากาเปิดตัวตั้งแต่ปี 1959 และเป็นฐานการผลิตตู้เย็น โทรทัศน์ เตาไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า ส่วนโรงงานที่จังหวัดโทชิกิก็เริ่มเดินเครื่องตั้งแต่ปี 1968 เพื่อผลิตโทรทัศน์ และทุกวันนี้ก็เป็นฐานของการผลิตจอ LCD แต่หลังจากชาร์ปประสบปัญหาทางการเงินจนต้องขายกิจการให้กับ “หงไห่ พริซิชั่น” หรือที่รู้จักกันในชื่อ Foxconn จากไต้หวัน ล่าสุด ผู้บริหารใหม่ประกาศว่าโรงงานในญี่ปุ่นจะยุติการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า

ตามแผนการใหม่ ชาร์ปจะเหลือเพียงโรงงานในจังหวัดมิเอะเพื่อผลิตจอ LCD คมชัดสูง ส่วนสายการผลิตอื่นจะย้ายไปยังโรงงานในประเทศไทย และโรงงานผลิตทีวี LCD ที่รัฐวิสคอนซิล ในสหรัฐ ส่วนโรงงานอีกแห่งหนึ่งที่ชานกรุงโตเกียว ขณะนี้มีพนักงาน 662 คนจะจัดสรรหน้าที่ใหม่ให้กับพนักงาน

โรงงานที่โอซากาที่เคยเป็นศูนย์การผลิตใหญ่ของชาร์ปได้ลดกำลังการผลิตลงตั้งแต่ปี 2000 และทุกวันนี้ผลิตเพียงตู้เย็นราว 30,000 เครื่องต่อปี หลังจากนี้พนักงานราว 1,600 คนจะถูกย้ายไปทำงานด้านการวิจัย

หงไห่ พริซิชั่นได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในชาร์ปตั้งแต่ปี 2016 โดยมี “ไต้เจิ้งอู่” เป็นประธานคนใหม่และสามารถนำพาบริษัทกลับมาทำกำไรได้ในปี 2017 เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี

ผู้บริหารใหม่จากไต้หวันระบุว่า จีนและอาเซียนจะเป็นฐานการผลิตใหม่สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าของชาร์ป เพราะยอดขายในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% และทางบริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 80%

โรงงานในญี่ปุ่นของชาร์ปจะถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์วิจัย ศูนย์วางแผนการบริการ และฐานการผลิตสำหรับสินค้าไฮเทค ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจแบบเดียวกับแอปเปิล ซึ่งทางหงไห่รับเป็นผู้ผลิตไอโฟนให้จนร่ำรวยมหาศาล ธุรกิจของชาร์ปในญี่ปุ่นจะเน้นไปที่การเชื่อมโยงเครื่องใช้ภายในบ้านกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถสั่งงานด้วยเสียง และประมวลผลด้วยเทคโนโลยี AI

นอกจากนี้ ยังจะผลิตจอภาพแบบใหม่ที่มีความคมชัดสูง มีรูปร่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนในปัจจุบัน จอภาพลักษณะนี้สามารถใช้งานได้ทั้งในการแพทย์ การสำรวจ รวมทั้งในอุปกรณ์สื่อสารและในรถยนต์.