xs
xsm
sm
md
lg

มายาปีศาจ ตอนที่ 19 กลพรางตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บทประพันธ์ของ เอโดงาวะ รัมโป (1894-1965)
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา

หนี้ที่ถูกกำหนดให้ต้องชำระด้วยเลือดและชีวิต...ตามตราสารคำสาปแห่งมายาปีศาจ

“คุณซุ่มดูอยู่ตรงนี้” นักสืบเอกหันมาสั่งเจ้าหนุ่มจิโร “ซอยนี้เป็นซอยตันพวกมันไม่มีทางหนีไปไหนได้นอกจากออกมาทางนี้ ถ้าเห็นใครท่าทางเป็นนักเล่นกลผ่านออกมาจับตัวมันไว้เลย แล้วบอกให้คนเฝ้าประตูโรงละครโทรแจ้งตำรวจ เข้าใจนะ” นักสืบอาเกจิทิ้งเจ้าหนุ่มจิโรไว้ที่ปากซอยก่อนวิ่งไปที่ประตูทางเข้าหลังเวที

เหยื่อใต้หลังคา

อาเกจิ โคโงโร กระโจนเข้าไปในห้องหลังเวทีแล้วกวาดตาที่คมราวนกเหยี่ยวไปทุกซอกมุมของบริเวณที่จัดไว้สำหรับนักแสดงแต่ไม่พบแม้แต่เงาของโจรร้ายที่เขาวิ่งกวดตามมาอย่างไม่ลดละ

นักสืบเอกบุกเข้าที่เวทีวิ่งอ้อมฉากหลังไปชะโงกดูก็พบว่าม่านปิดลงแล้ว เสียงผู้หญิงร้องกรี๊ดกร๊าดเสียงผู้ชายตะโกนถามกันเอ็ดอึงด้วยความตกใจอยู่ทางฟากคนดู เมื่อได้ยินเสียงตึงตังโครมครามเหมือนคนไล่กวดกันอยู่บนเวที

“ฉันเป็นตำรวจ นายเห็นใครวิ่งหนีไปทางที่นั่งคนดูบ้างไหม”

อาเกจิกระโจนเข้าไปถามพนักงานดูแลเครื่องแต่งฉากที่กำลังเก็บเชือกชักม่าน

“ไม่มีขอรับ ผมเห็นหลบเข้ามาหลังเวทีกันทุกคน”

นักสืบหนุ่มมองแวบเดียวก็รู้ว่าคนที่เขาถามเป็นพนักงานประจำโรงละครไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแก๊งปีศาจมายากล
เขาเห็นหีบใบใหญ่คลุมด้วยผ้ากำมะหยี่ยังวางเด่นอยู่ตรงกลางเวทีมีเลือดสด ๆ นองอยู่บนแผ่นกระดานใต้กล่อง แม้ว่าคนดูหรือแม้แต่พนักงานจัดเวทีเองจะรู้กันดีว่าเป็นเลือดปลอมทำจากหมึกแดง แต่ปีศาจมายากลก็สามารถใช้เล่ห์กลระดับบรมครูของมันสะกดให้เห็นเป็นจริงเป็นจังจนขนหัวลุก

อาเกจิเปิดกล่องใหญ่ออกดูเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้าไปซ่อนตัวอยู่และก็พบว่าภายในว่างเปล่าจริงอย่างที่คิด
พนักงานโรงละครพานักสืบเอกกลับเข้าไปหลังเวที เดินหลบหลีกอุปกรณ์ประกอบฉากชิ้นใหญ่ ๆ ที่วางเรียงรายไปตรงไปหาพนักงานอีกคนที่ยืนรออยู่แล้วกระซิบรายงานเหตุการณ์

“อ๋อ วิ่งไปทางโน้นแน่ะ ที่มีเครื่องมือเล่นกลวางซ้อน ๆ กันอยู่ ตรงนั้นละ”

นักสืบหนุ่มมองตามไปที่มุมหนึ่งของห้องกว้างหลังเวที ก็เห็นเครื่องมือประกอบการแสดงมายากลทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ ประดับด้วยผ้ากำมะหยี่บ้าง ผ้าทอเส้นใยสีเงินสีทองบ้าง วางปะปนอยู่กับเครื่องประกอบฉากละครย้อนยุค อย่างหีบหวาย กระบุงตะกร้าเก่า ๆ อ่างหิน กิ่งไม้ และอีกหลาย ๆ อย่าง

ห้องกว้างหลังเวทีทั้งห้องมีเพียงดวงไฟดวงเดียวที่ห้อยลงมาจากเพดานสูง ดังนั้นมุมห้องที่มีสิ่งของวางสุมอยู่เต็มจึงแทบจะมืดสนิทเหมาะมากกับการใช้เป็นที่ซ่อนตัว

“มีใครหนีลงไปในช่องกลที่พื้นเวทีไหม”

“ไม่มีขอรับ กระผมเฝ้าอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา ไม่มีใครรอดสายตาไปได้แน่นอน”

อาเกจิปราดไปที่มุมห้องตามมือชี้โดยมีพนักงานโรงละครทั้งสองซึ่งดูเหมือนจะสนุกกับการไล่จับขโมย ตามติดด้วยท่าทีกระตือรือร้นเข้าไปในหมู่เครื่องประกอบฉากละครที่ซับซ้อนเหลี่ยมมุมกันราวกับเขาวงกต ชุดเครื่องมือแสดงรายการฆ่าตัดศพสาวสวย ประกอบด้วยหีบใบใหญ่ติดล้อเลื่อน ดาบพญามังกรคมวาวที่ส่งประกายแปลบปลาบยามกวัดแกว่งเวลาแสดงวางกองรวมกันอยู่ทางหนึ่ง ข้าง ๆ นั้นมีอ่างกรุกระจกสำหรับใส่น้ำ โต๊ะที่ติดกระจกบังขาเอาไว้ และอีกหลาย ๆ อย่าง ทาบทับเงาทะมึนน่าสพรึงกลัว เป็นเหลื่อมหลืบให้มีที่ซ่อนตัวมากมายนับไม่ถ้วน

“อยู่นี่ครับ อยู่นี่ คุณตำรวจ”

พนักงานโรงละครย่องเข้ามากระซิบบอกที่ข้างหูอาเกจิ ที่กลายเป็นตำรวจไปแล้วสำหรับผู้ร่วมไล่ล่าทั้งสอง

“ที่ไหน”

“ตรงนั้นไง ในกล่องใบนั้น”

พนักงานกระซิบเสียงเบาแทบไม่ได้ยินพลางชี้มือไปที่หีบสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำคล้ายโลงศพ

“กระผมแอบมองลงไปตรงรอยแยกที่ฝาหีบ ตกใจหมดเลย มันซ่อนอยู่ในนั้นขอรับ นอนเหยียดยาวใส่ชุดอะไรประหลาด ๆ อยู่ในนั้น”

คนทั้งสามเข้ามายืนล้อมหีบใบนั้น นักสืบอาเกจิเป็นคนยื่นมือเข้าไปที่ฝาหีบ อะไรก็ตามที่อยู่ในนั้นคงจะกลั้นใจอยู่เพราะเงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงหายใจแผ่ว ๆ เหมือนเสียงของลูกนกลอดออกมา มันอาจกำลังคุมเชิงอยู่ ในมือมีอาวธร้ายเตรียมกระโจนเข้าฟาดฟันศัตรูทันทีที่ฝาหีบถูกเปิด

ณ วินาทีอันตื่นระทึก อาเกจิเปิดฝาหีบเหวี่ยงไปทางหนึ่ง ทั้งสามตั้งท่ารับมืออย่างไม่รู้ตัว ทว่าไม่มีใครกระโจนเข้าใส่ และพอชะโงกลงไปในดูในหีบทุกคนก็เห็นร่างขาวโพลนในชุดสวยประดับประดาหรูหราของผู้หญิงคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่ในนั้น

“โธ่เอ๋ย เรื่องชวนหัวแท้ ๆ “

พนักงานคนหนึ่งหัวเราะพลางยื่นมือลงไปขยุ้มร่างในหีบขึ้นมาทันที แล้วก็ต้องผงะไปตาม ๆ กัน มันคือร่างตุ๊กตาที่ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ คลุมไว้ด้วยเสื้อผ้าสวยงามสำหรับการแสดงบนเวที

“ตุ๊กตาขอรับ ตุ๊กตาที่ใช้เล่นกลฆ่าหั่นศพสาวสวยนั่นยังไง”

หลังคว้าน้ำเหลวจากหีบดำใบนั้น คนทั้งสามพากันเดินฝ่าเข้าไปในกองอุปกรณ์จัดแต่งเวที ซึ่งยิ่งลึกเข้าไปข้าวของ ก็ยิ่งหนาแน่นราวกับโกดังของร้านขายเครื่องเรือน มืดขึ้น ซับซ้อนขึ้น และมีหลืบซอกให้แฝงตัวจู่โจมอยู่ทั่วไป คณะไล่ล่าเลือกเดินผ่านเข้าไปในช่องแคบ ๆ ระหว่างหลังเวทีที่มืดมิดเหมือนอุโมงค์ ได้กลิ่นอับของสีเก่า ๆ และมีใยแมงมุมรุงรัง

ความรู้สึกสัมผัสอันเฉียบไวของอาเกจิจับได้ว่ามีใครอยู่ในระยะประชิด เขาเหยียดมือขึ้นไปคว้าอะไรสักอย่างที่ห้อยต่องแต่งอยู่เหนือหัวเอามาจับไว้แน่น และพอรู้ว่ามันคือขาคนเขาก็กระชากลงมาสุดแรง มันคือโจรที่หนีมาคงจวนตัวจึงโดดขึ้นไปเกาะฉากโหนตัวอยู่อย่างนั้น

พอถูกกระชากลงมาด้วยกำลังแรงผ้าที่ขึงเป็นฉากอยู่ก็ขาดติดมือลงมาดังแควก แต่โจรมันปิดปากเงียบตกลงมากลิ้งหลุน ๆ อยู่บนพื้น อาเกจิลากตัวมาดูหน้ามันตรงที่พอมีแสงสว่าง ก็พบว่าไม่ใช่หัวหน้ามายากลแต่งชุดตัวตลกฝรั่งแต่เป็นชายในชุดทักซิโด้เก่า ๆ ที่เป็นผู้ช่วย

“หัวหน้าแกอยู่ไหน” นักสืบอาเกจิถามพลางบิดแขนเชลยไปตรึงไว้ข้างหลังตามยุทธวิถีจัดการกับศัตรูในภาวะฉุกเฉิน มันหลุดคำพูดตะกุกตะกักเหมือนติดอ่างออกมาว่า

“ตรง...ตรง...นั้น”

อาเกจิมองตามไปตามมือมันชี้ก็เห็นเงาจาง ๆ ของคนในชุดตัวตลกวูบวาบอยู่อีกฟากหนึ่งของช่องอุโมงค์ระหว่างฉาก คณะไล่ล่าทิ้งโจรที่เขาจับได้ไว้ตรงนั้นแล้วเร่งฝีเท้าตรงไปยังเป้าหมายใหม่ทางฟากโน้น คราวนี้พนักงานคนหนุ่มกว่าเป็นคนนำหน้า

แต่เอ๊ะ...แม้ฝ่ายนี้จะเข้าไปใกล้แต่ร่างในชุดตัวตลกก็ไม่ได้เคลื่อนไหวไปจากจุดเดิม ซ้ำยังกางมือกางไม้เหมือนนกกางปีกส่ายไหวไปมา

“เฮ้ย...เดี๋ยว หยุดก่อน”

อาเกจิอ่านสถานการณ์ออกในที่สุดจึงร้องห้ามออกไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะพนักงานหนุ่มที่นำหน้าไปกระโจนเข้าใส่ร่างต้องสงสัยเต็มตัว หัวเจ้าหนุ่มโหม่งเข้ากับสิ่งกีดขวางอะไรสักอย่างเต็มรักเสียงดังปังแล้วกระดอนกลับมาเสียหลักกลิ้งไม่เป็นท่า

สิ่งกีดขวางนั้นคือกระจกเงาบานใหญ่สำหรับใช้ประกอบการเล่นกลบนเวทีที่บังเอิญสะท้อนภาพลวงตาของปีศาจมายากลซึ่งซ่อนตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งในความมืดสลัว

แล้วปีศาจมายากลตัวจริงอยู่ที่ไหน

พนักงานโรงละครสองคนต่างวัยมองตามสายตาของนักสืบเอกขึ้นไปก็ต้องตาค้างเมื่อเห็นร่างของคน ๆ หนึ่งกำลังเดินทรงตัวอยู่บนเส้นลวดที่ขึงอยู่เหนือเวทีเหมือนตัวตลกกำลังแสดงกายกรรมไต่เชือกชวนหัว

ช่างเป็นการอำพรางตัวที่แนบเนียนอะไรเช่นนั้น นี่ถ้าไม่ได้กระจกเงาช่วยก็คงหาตัวมันไม่ได้แน่

คณะไล่ล่าปราดไปยังกระไดพาดขึ้นเพดานที่อยู่ใกล้กับหลืบข้างเวทีโดยไม่ได้นัดหมายแล้วเริ่มไต่เดียะตามกันขึ้นไป ด้วยความว่องไวปราดเปรียวปานลิงแสม พนักงานโรงละครนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะปีนป่ายอยู่แทบทุกวันและนักสืบเอกของเราก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่าใคร

ปีศาจร้ายตกใจเมื่อเห็นคณะไล่ล่าตามมาติด ๆ พอเลี้ยงตัวไต่ลวดมาจนสุดทางมันก็กระโจนขึ้นไปบนไม้คร่าวแล้วโยนตัวหายเข้าไปในช่องเพดานคลานหนีไปทางด้านที่นั่งคนดู ฝ่ายไล่ล่าก็มุดช่องเพดานเดียวกันตามติดไปอย่างไม่ลดละด้วยความหวังที่จะจับเหยื่อตัวสำคัญให้อยู่มือ

แสงสว่างจากข้างล่างส่องแทรกความมืดมิดโล่งกว้างลอดเข้ามาตามรอยแยกเล็ก ๆ บางช่วงตอนของเพดานเป็นเส้นบาง ๆ ราวเส้นด้ายดูแล้วเหมือนสายฝนโปรยปรายย้อนศร

ชายเสื้อชุดตัวตลกรุ่มร่ามของปีศาจมายากลปลิวผ่านลำแสงเห็นเป็นสีขาวสลับลายแวบวับไปข้างหน้า

อาเกจิคลานไปบนพื้นเพดานเก่าแก่ที่ถูกปีศาจร่ายเหยียบยุบลงไปหลุมขยาดเท่ารอยเท้าตรงนั้นตรงนี้ พลางมองลอดรอยแยกลงไปดูความเป็นไปในห้องโถงที่นั่งคนดู ก็พบว่าบนที่นั่งที่จัดแบ่งไว้เป็นส่วนเป็นสัดไม่มีคนดูเหลือเลยสักคน คงจะชิงกันวิ่งหนีเตลิดออกไปด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงเอะอะเมื่อครู่ก่อน

คนดูประเภทสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านห้าหกคนกับเจ้าหน้าที่โรงละคร พอได้ยินว่ามีผู้ร้ายหนีขึ้นไปบนเพดานก็พากันกรูเข้ามาที่เวที ในกลุ่มคนนั้นมีเจ้าหนุ่มจิโรรวมอยู่ด้วย

ตำรวจท้องที่ในเครื่องแบบมาถึงที่เกิดเหตุรวดเร็วทันการ ยกขบวนตามกันเข้ามาทางประตูทางเข้าด้านหน้า คราวนี้แหละ ไอ้ปีศาจมายากลจอมโหดจะต้องไม่ผิดอะไรกับหนูติดจั่น ไม่ว่าจะเก่งกาจปานใดเห็นทีจะไม่รอดเป็นแน่

อึดใจต่อมา ปีศาจใจโหดก็ไปจนมุมหยุดนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่งของเพดานส่วนหน้าของโรงละคร มันหันขวับเข้าสู้ศัตรูฝ่ายไล่ล่าด้วยท่าทีของหนูที่แยกเขี้ยวกางกรงเล็บเตรียมกระโจนเข้าใส่แมวตัวโตที่ตามล่ามันในทันใด ลำเส้นเล็ก ๆ ที่ส่องผ่านขึ้นมาทาบทับบนตัวมันในความมืดสลัวยิ่งเน้นให้ขนลุก

คณะไล่ล่าโอบล้อมไว้ท้างสามด้านแล้วค่อย ๆ ตีวงแคบเข้าไป ทันใดนั้นเองทุกคนก็เห็นลำแสงวาบแวบขึ้นที่มือขวาของปีศาจ โอ๊ะ...มีดสั้น หนูติดจั่นพร้อมสำแดงเขี้ยวเล็บของมันแล้ว

พนักงานสองคนผงะถอยหลังกรูด แต่นักสืบใจเด็ดของเราปักหลักมั่นคงเตรียมต่อสู้พร้อมกับย่างสามขุมเข้าใกล้เหยื่อทีละน้อยด้วยความระมัดระวัง

ณ วินาทีนั้นเองเหตุแปลกประหลาดอุบัติขึ้นในบัดดล แทนที่จะพุ่งมีดเข้าใส่ศัตรูเจ้าปีศาจร้ายกลับตวัดปลายมีดเข้าจ่อที่คอหอยตนเองพร้อมที่จะฆ่าตัวตาย พอนักสืบอาเกจิผงะถอยหลังออกมาก้าวหนึ่งด้วยความตกใจ เจ้าปีศาจก็ลดปลายมีดลง แต่พอเขาประชิดเข้าไปอีกครั้งมันก็ขยับปลายมีดขึ้นไปจ่อคอหอยตามเดิม

อะไรกันล่ะนั้น...มันทำราวกับจะขู่ว่าอย่าเข้ามานะไม่งั้นข้าจะฆ่าตัวตาย...ไม่หรอก...ดูก็รู้ว่ามันไม่กล้าทำจริง ๆ จะให้เชื่อได้อย่างไรว่านั่นเป็นพฤติกรรมของปีศาจร้ายใจกล้าที่ผู้คนเล่าลือกันทั่วหัวระแหงถึงความกำแหงหาญและโหดเหี้ยม...เป็นพฤติกรรมของคนที่อุทิศทั้งชีวิตให้แก่การฆ่าล้างแค้น ที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้นเป็นการกระทำของคน ขี้ขลาดอย่างหมาจนตรอกชัด ๆ เทียบไม่ได้เลยกับที่มันเคยสำแดงเดชในอาชญากรรมท้าทายมือกฎหมายหลายครั้งที่ผ่านมา

เมื่อคิดด้วยความกังขามาถึงตรงนี้นักสืบหนุ่มก็ใจหายวาบขนลุกซู่ เหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นมาตามแนวสันหลังและทั่วทั้งตัว...พลาดไปแล้วเรา

แต่ไม่น่า...เป็นไปไม่ได้ คนที่แต่งชุดตัวตลกแบบฝรั่งอย่างนี้มีแต่เจ้าปีศาจมายากลหัวหน้าคณะคนเดียวเท่านั้น คณะมายากลเล็ก ๆ อย่างนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนแต่งชุดหัวหน้าคณะแบบเดียวกันนี้หลายคน พยานหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนก็คือพนักงานโรงละครที่ชี้ตัวว่า “นั่นหัวหน้าคณะ” แล้วออกวิ่งไล่โดยไม่สงสัยลังเล

“เฮ้ย นั่นแก แกเป็นหัวหน้าคณะเล่นกลใช่ไหม”

ถึงจะร้องถามออกไปมันก็ไม่ตอบเพราะคงจะกลัวตัวสั่นอยู่

“ถ้ามาใช่...แกเป็นใคร ทำไมถึงใส่ชุดหัวหน้าคณะอย่างนั้น”

“ข้าไม่ใช่หัวหน้า” โจรจนมุมตอบเสียงสั่น ๆ ออกมาได้ในที่สุด “ข้าชื่อคิโนะ เป็นนักกายกรรม”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง นักสืบอาเกจิก็กระโจนเข้าใส่โดยไม่สนใจกับอาวุธของฝ่ายตรงข้าม ขยุ้มมือเข้าที่คอเสื้อแล้วลากเหยื่อของเขามาส่องกับลำแสงซีด ๆ...ผิดคน...ผิดคนจริง ๆ เจ้านี่ยังหนุ่ม หน้าตาจริง ๆ จะเป็นอย่างไรไม่รู้ได้เพราะพอกเครื่องแต่งหน้าไว้หนา ทว่าดูวงหน้าแล้วไม่ใช่ปีศาจร้ายตัวจริงแน่นอน แต่จะให้คะเนอายุหรือรายละเอียดของหน้าตาคงไม่ได้เพราะความมืดสลัวของใต้เพดานโดยรอบ

นักสืบอาเกจิผลักโจรหนุ่มไปทางหนึ่งเหมือนกับมันเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ ไร้ค่า แล้วถอยไปที่บันไดพาดไต่กลับลงไปตรวจดูห้องหลังเวทีอีกครั้ง ๆ ถึงจะรู้สึกว่าคงจะช้าเกินไป

เมื่อมาถึงช่องทางขึ้นเพดานและมองลงไปก็พบคนกลุ่มหนึ่งยืนอออยู่ที่เชิงบันไดพาด มากันครบครันทั้งตำรวจ ท้องที่ เจ้าหน้าที่โรงละคร คนสอดรู้สอดเห็น และเจ้าหนุ่มจิโร เฝ้าระวังเหตุการณ์บนเพดานโรงละคร

“คุณจิโร ผมขอให้คุณเฝ้าดูต้นทางที่ประตูทางเข้าหลังโรงละครไม่ใช่รึ”

อาเกจิถามเจ้าหนุ่มด้วยเสียงดุ ๆ

“ก็จะต้องเฝ้าประตูทางเข้าทางออกไปทำไมเล่าครับ ในเมื่อเราจ้องจับหัวหน้าคณะมายากลคนเดียว ไอ้พวกลูกสมุนมันจะหนีไปไหนก็ชั่งมัน จับหัวหน้าให้ได้เป็นพอ”

จิโรตอบอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ...ก็ไม่แปลกอะไรที่เจ้าหนุ่มจะคิดเช่นนั้น เพราะในเมื่อปีศาจในชุดตัวตลกแบบฝรั่งถูกนักสืบอาเกจิกับพนักงานโรงละครทั้งสองกวดตามขึ้นไปใต้หลังอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเฝ้าระวังที่ประตูทางเข้าออกทั้งด้านหน้าด้านหลังอีกต่อไป ควรไปช่วยนักสืบอาเกจิจับปีศาจร้ายที่หนีขึ้นไปบนเพดานดีกว่า และก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าหนุ่มจิโรจะอยากเห็นหน้าฆาตกรที่คร่าชีวิตคนรักของเขาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

จิโร ตำรวจที่ยังไม่รู้เรื่องราวมากนัก เจ้าหน้าที่โรงละครและคนอื่น ๆ ที่กรูกันมาอออยู่ตรงเชิงกระไดพาดเพราะคิดว่าจับฆาตกรได้แล้ว ต่างก็ผิดหวังไปตาม ๆ กัน

ทุกคนแยกย้ายกันออกค้นหาทันทีทั้งภายในโรงละครและบริเวณที่คนสัญจรไปมาด้านนอกแต่ก็สายไปเสียแล้ว ปีศาจมายากลหัวหน้าคณะกับลูกสมุนรวมไปถึงฟุมิโยะลูกสาวโฉมงามของมันหายตัวไปอย่างไม่ทิ้งร่องรอยให้ติดตาม

หนุ่มนักกายกรรมสมุนโจรในชุดตัวตลกฝรั่งที่หนีขึ้นไปจนมุมให้จับได้บนเพดานโรงละครสารภาพระหว่างที่ตำรวจสอบปากคำว่า ไม่นานมานี้มันได้ขโมยเงินก้อนใหญ่จากหัวหน้าคณะกายกรรมหนีมาซ่อนตัวอยู่ในคณะมายากลของปีศาจจอมโหดคณะนี้ และวันนี้หลังจบการแสดงฆ่าหั่นศพสาวงาม หัวหน้าคณะเรียกมันไปพบแล้วบอกว่า “มีคนท่าทางเป็นตำรวจมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวประตู คงจะตามมาจับเอ็ง ข้าว่าเอ็งปลอมตัวก่อนดีกว่าไม่งั้นโดนจับแน่ เองใส่ชุดตลกฝรั่งของข้า แล้วก็พอกหน้าพอกตาให้ขาวเอาไว้ ตำรวจจำไม่ได้แน่” เจ้าหนุ่มนักกายกรรมหัวขโมยก็ทำตามจนมาพบจุดจบอย่างที่เห็น

ตอนที่เกิดเสียงเอะอะขึ้น เจ้าหัวขโมยที่มีชนักติดหลังอยู่จึงคิดไปว่าตำรวจตามมาจับมันจริง ๆ จึงวิ่งหนีไปทางหลังเวทีแล้วใช้วิชากายกรรมไต่เชือกเลี้ยงเดินตัวบนเส้นลวดไปที่ช่องเพดานแล้วหนีเข้าไปหมายซ่อนตัวอยู่บนนั้น ส่วนมีดสั่นที่มันพกมานั้นเจ้าหัวขโมยสารภาพว่ามันเตรียมมาเพื่อฆ่าตัวตายจริง ๆ เมื่อจนมุม เพราะรักศักดิ์ศรีของนักกายกรรมเกินกว่าจะยอมตกไปอยู่ในเงื้อมมือตำรวจ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มันก็ตัดใจไม่ขาดต้องถูกจับมาชดใช้กรรมตามกฎหมายบ้านเมือง

แน่นอนว่านั่นคือกลอุบายอันแยบยลที่ปีศาจมายากลใช้ในหลบหนีฝ่ายไล่ล่าไปได้อย่างลอยนวล แม้แต่นักสืบผู้ชาญฉลาดอย่างอาเกจิ โคโงโรก็ยังทึ่งเพราะไม่นึกว่ามันจะเตรียมการรับมือได้อย่างฉับพลัน จนทำให้เขาต้องคว้าน้ำเหลวอย่างไม่น่าเป็นไปได้ในครั้งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น