หลังจากสถิติการฆ่าตัวตายหรือการตายจากการทำงานอย่างหนักที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในสังคมญี่ปุ่น ทำให้เกิดการตื่นตัวในการปฏิวัติรูปแบบการทำงานในองค์กรที่ประเทศญี่ปุ่นขึ้น เดือนเมษายนของทุกปีถือเป็นช่วงของเราเริ่มต้นเข้าทำงานของเด็กจบใหม่ในญี่ปุ่น หลังจากเริ่มต้นการเป็นมนุษย์เงินเดือนมาสักพักแล้ว เราลองไปฟังความคิดเห็นของเหล่าพนักงานใหม่ในบริษัทญี่ปุ่นกันว่าพวกเขามีความคิดเห็นและทัศนคติอย่างไรต่อบริษัทและการทำงานกันบ้างนะคะ
Q. คาดหวังอะไรจากบริษัทบ้าง?
อันดับ 1 ความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน 61.3％
อันดับ 2 เนื้อหางาน, สถานที่ทำงาน (รวมถึงในต่างประเทศ) เป็นไปตามที่คาดหวัง 20.8％
อันดับ 3 เงินเดือนและตำแหน่งปรับขึ้นอย่างสม่ำเสมอ 7.7％
อันดับ 4 มีล่วงเวลาน้อย หรือไม่มีเลย 5.0％
อันดับ 5 มีการอบรมที่ครอบคลุม, มีระบบการฝึกปฏิบัติ 3.7％
อันดับ 6 อื่นๆ 1.5％
พนักงานใหม่ในปีนี้คาดหวังเรื่อง “ความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน” มากที่สุดเกิดครึ่ง จะเห็นได้ว่าคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ในที่ทำงานมากกว่าเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับงานอย่าง “เนื้อหางาน” “เวลาในการทำงาน” เป็นต้น
Q. คาดหวังอะไรจากหัวหน้า?
อันดับ 1 สร้างความสนิทคุ้นเคยได้ง่าย 34.9％
อันดับ 2 มีการอบรมสอนงานอย่างละเอียด 23.8％
อันดับ 3 มีการประเมินที่ไม่ลำเอียง, มีความเสมอภาค 22.5％
อันดับ 4 ให้เกียรติความเห็นและไอเดียของลูกน้อง 10.3％
อันดับ 5 มีความเป็นผู้นำ 7.8％
อันดับ 6 อื่นๆ 0.7％
ดูเหมือนว่าคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่จะอยากได้หัวหน้าที่ใจดี และไม่มีใครที่โหวตว่าอยากได้หัวหน้าที่เข้มงวดเลยสักคน ในทางกลับกันก็ยังอยากได้หัวหน้าที่มีความเป็นผู้นำ ซึ่งนั่นน่าจะหมายความว่า คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่อยากได้หัวหน้าที่มีความเป็นผู้นำ แต่ไม่ใช่แบบชอบบงการเหมือนอย่างในอดีต
Q. คิดอย่างไรเกี่ยวกับวิธีการทำงาน?
อันดับ 1 อยากให้เวลากับเรื่องส่วนตัวและใช้เวลาว่างในแบบที่ตัวเองต้องการ 50.3％
อันดับ 2 อยากทุ่มเทให้กับการทำงานและวางแผนเกี่ยวกับความก้าวหน้าในอนาคต 18.8％
อันดับ 3 อยากทำงานในที่ที่มั่นคงไปนานๆ 12.5％
อันดับ 4 หากรู้สึกว่าไม่ถูกต้องเหมาะสมก็จะไม่ฝืน และคิดเรื่องเปลี่ยนงาน 9.6％
อันดับ 5 สนใจเรื่องทำงานเสริม, ทำกิจการส่วนตัว 8.3％
อันดับ 6 อื่นๆ 0.5％
พนักงานใหม่กว่าครึ่งให้ความสำคัญกับเวลาส่วนตัว ไม่ได้เน้นทุ่มเททุกอย่างเพื่อการทำงานเหมือนแบบในอดีต แสดงให้เห็นว่ามีคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่เน้นให้ความสำคัญกับเรื่อง “Work Life Balance”
จากข่าวต่างๆเกี่ยวกับเรื่องการทำงานหนักจนตัวตายของชาวญี่ปุ่น ทำให้สังคมญี่ปุ่นหันมาให้ความสำคัญกับการปฏิวัติรูปแบบการทำงานมากขึ้น จะเห็นได้ว่าความเห็นและทัศนคติคนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่ใช่สังคมที่อยากจะทุ่มเททุกอย่างให้กับการทำงานเหมือนอย่างในอดีตอีกแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญก็คือพนักงานใหม่เหล่านี้จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างการให้ความสำคัญกับเวลาส่วนตัว และการทุ่มเทให้กับการทำงานและการทำเพื่อสังคมได้อย่างไร
"【รายละเอียดการสำรวจ】
เป้าหมายการสำรวจ: พนักงานใหม่ประจำปี 2018 จำนวน 1,672 คน
วิธีการสำรวจ: สำรวจจากแบบสอบถาม
ระยะเวลาการสำรวจ: เมษายน～พฤษภาคม 2018
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org
