xs
xsm
sm
md
lg

มายาปีศาจ ตอนที่ 17 ฆ่าหั่นศพสาวสวย กระสอบปริศนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บทประพันธ์ของ เอโดงาวะ รัมโป (1894-1965)
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา

หนี้ที่ถูกกำหนดให้ต้องชำระด้วยเลือดและชีวิต...ตามตราสารคำสาปแห่งมายาปีศาจ

จิโรผ่อนความเร็วของฝีเท้าที่เขาเร่งสุดชีวิตหนีศัตรูที่คิดว่ากวดตามมาคุกคาม จนกลายเป็นการเดินเร็ว ๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา ชายหนุ่มไม่รู้ว่าตนเองวิ่งออกนอกเส้นทางที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เมื่อไร เพราะเดินเท่าไร ๆ ก็ไม่ถึงช่องทางที่จะออกไปยังคฤหาสน์ทามามุระเสียที เดินวนเวียนไปมาอยู่อย่างนั้นไม่รู้กี่รอบจนในที่สุดก็ไปเดินเคว้งคว้างอยู่ในป่าทึบมืดมิดห่างออกมาจากตำบลที่เขาไม่คุ้นเคย

แม้จะเห็นแสงวิบ ๆ ผ่านหมู่ไม้ไกลออกไปทางฟากโน้นซึ่งคงจะเป็นหมู่บ้าน แต่ความมืดมิดของคืนข้างแรมและต้นไม้ใหญ่ ๆ ในป่าทึบทำให้จิโรรู้สึกเหมือนหลงทางเข้าไปในป่าลึกบนภูเขา ตำบลโอโมริที่ตั้งของคฤหาสน์อยู่ในเขตภูเขามีพื้นที่ราบเชิงเขา เนินเขาและป่าไม้อยู่ทั่วไปซึ่งเป็นทัศนียภาพที่งดงามในช่วงกลางวัน แต่ในความมืดมิดของคืนข้างแรมเช่นเวลานี้จิโรรู้สึกว่าตนเองยังไม่พ้นออกมาจากเหตุการณ์แปลกประหลาดขนลุกขนพองและยังไม่ตื่นจากฝันร้าย

ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปอยู่ในป่าที่ถูกสาปด้วยมนต์ดำของปีศาจ เดินเท่าไร ๆ ก็หาไม่พบทางออก ไม่ใช่แค่นั้นความมือรอบ ๆ ตัวยิ่งทำให้จิโรขนหัวลุกเมื่อนึกถึงเรื่องผีที่เคยมีคนเล่าให้ฟังสมัยเด็ก เรื่องมีอยู่ว่าเด็กคนหนึ่งเดินไปเลี้ยวมุมถนนมืด ๆ ไปโจ๊ะกับผีหน้าแดงราวกับสีชาดน่าเกลียดน่ากลัว จึงร้องกรี๊ดแล้ววิ่งหนีเตลิดไปถึงอีกตำบลหนึ่งและพอพบกับชายแก่แปลกหน้าที่นั่นเด็กก็เล่าเรื่องสยองขวัญนั้นให้ฟัง ชายแก่คนนั้นยื่นหน้าเข้ามาจนชิดแล้วถามว่า “ผีที่เจ้าเห็นหน้าตาอย่างนี้ใช่ไหม” ขาดคำหน้าของชายแก่กลายเป็นผีหน้าแดงเป็นสีชาดตัวเดียวกับที่เด็กวิ่งหนีมา แค่คิดว่าตนเองจะเป็นยังไงถ้าตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับเด็กคนนั้น จิโรก็ตัวเย็นวาบจนขนหัวลุกชัน

“มันต้องซุ่มตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในป่านี้ รอจังหวะกระโจนเข้าใส่เราแน่นอน”

ความรู้สึกเหมือนยังไม่ตื่นจากฝันร้ายทำให้จิโร่ตกอยู่ในอาการประสาทหลอน และ “มัน” ที่กำลังสั่นประสาทเขาอยู่ก็คือตาเฒ่าโอโตคิจิคนนั้นเอง

“เดี๋ยวมันจะออกมา เดี๋ยวมันจะออกมา”

จิโร่คิดรัว ๆ กลับไปกลับมาเหมือนท่องนะโมขณะเดินไปข้างหน้าในความมืด ทันใดนั้นเองชายหนุ่มก็เห็นเงาประหลาดของใครคนหนึ่งแฝงตัวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จึงเขม้นมองไป

“นั่นไงว่าแล้ว ตาเฒ่าผีทะเลนั่นจริง ๆ ด้วย”

ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นชัดว่าร่างที่ยืนหันหลังให้ห่างออกไปนั้นคือตาเฒ่าโอโตคิจิ จิโรระงับส่งเสียงอุทานออกไปด้วยความตกใจสุดขีดไว้ได้อย่างหวุดหวิด เขาเบี่ยงตัวเข้าแฝงใต้เงาต้นไม้ใหญ่พยายามเรียกสติที่หายไปเกือบหมดให้กลับคืนมาแล้วจ้องมองไปตรงนั้นอีกครั้ง จึงพบว่าตาเฒ่าโอโตคิจิกำลังตั้งอกตั้งใจเฝ้ามองอะไรอย่างหนึ่งไกลออกไปทางหมู่ไม้หนาทึบด้านโน้น

ตาเฒ่ามองอะไร...ชายหนุ่มพยายามเพ่งสายตาฝ่าความมืดมิดมองตามไปทางทิศนั้น แต่ก็มองไปไม่ได้ไกลเพราะความมืดยามราตรีไม่เป็นใจทั้งยังติดต้นไม้ใหญ่ที่ตาเฒ่าใช้เป็นโล่กำบังกายขวางทางอยู่ จึงได้แต่ยืนหงุดหงิดอารมณ์เสียอยู่ตรงนั้น

จิโรเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของตาเฒ่าผู้ต้องสงสัยอยู่ด้วยความอดทนไปได้สักพักหนึ่ง ทันใดนั้นเองเขาก็เห็นเงาดำของใครอีกคนหนึ่งไหวตัวในความมืดห่างออกไปทางด้านตาเฒ่าโอโตคิจิ และยังไม่ทันหายจากอาการตกตะลึง เขาก็ต้องตื่นตระหนกขึ้นมาอีกเพราะเจ้าของเงาดำนั้นกำลังเดินมุ่งหน้ามาทางนี้

วินาทีต่อมา จิโรเห็นเงาดำของตาเฒ่ากระโจนเข้าใส่ชายลึกลับพร้อมกับเสียงคำรามน่ากลัว ฝ่ายตั้งรับและฝ่ายรุกต่อสู้กันดุเดือดจนไม่รู้ว่าใครเป็นใครอยู่ในความมืดมิด

เงาดำทั้งคู่เสียหลักลงไปกลิ้งหลุน ๆ อยู่บนพื้นดินทั้ง ๆ ที่ยังพันตูกันอยู่ คู่ต่อสู้ดูเหมือนจะอ่อนแรงขณะที่ตาเฒ่านั้นแม้จะอายุมากแต่ก็มีพลังแข็งแรงน่าเกรงขาม

ปล้ำกันอยู่ไม่นานฝ่ายชายลึกลับก็เสียท่าร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด จิโรไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงตัดสินใจไม่ถูก จะเข้าไปช่วยตาเฒ่าก็ไม่ใช่ที่ และเสียงร้องเหมือนคนถูกบีบคอแทบสิ้นใจตายของคู่ต่อสู้ก็บ่งบอกอยู่แล้วไม่ใช่หรือว่าแกกำลังเป็นต่อ

จิโร่สบถหยาบคายก่อนพุ่งตัวเข้าไปที่เงาดำทั้งคู่โดยมีตาเฒ่าโอโตคิจิเป็นเป้าหมาย เงาดำทั้งสามพันตูกันอย่างดุเดือดกลิ้งตัวกระเด้งกระดอนไปตามรากไม้ใหญ่ที่ปูดโปนขึ้นมาจากพื้นดิน

ถึงจะแข็งแรงปานใดแต่คน ๆ เดียวไม่มีทางชนะเมื่อถูกสองคนรุมเอาเช่นนี้ ชายลึกลับรวบรวมกำลังเผ่นโผนออกมาจากการต่อสู้ขึ้นมายืนหยัด ผลักตาเฒ่าที่ตามยื้อยุดกระเด็นไปทางหนึ่งด้วยแรงที่เหลืออยู่ แล้วกระโจนหายลับเข้าไปในความมืดมิดราวปาฏิหาริย์

จิโรถูกทิ้งให้ต้องรับศึกหนักต่อไปอยู่คนเดียว ก่อนหน้านี้เขาถูกตาเฒ่าโอโตคิจิซึ่งไม่มีทางรู้ว่าคู่ต่อสู้ที่กระโจนเข้ามาร่วมวงคือนายของแกเองเล่นงานเอาจนงอมมาทีหนึ่งแล้ว และพอเป้าหมายตัวจริงเผ่นหนีไปแกก็หันมาจัดการกับคนที่เหลืออยู่แทน

“แกเป็นใคร”

ตาเฒ่าตวาดถามเสียงกร้าว

“ปล่อยเดี๋ยวนี้ ฉันเป็นนายของแก ทามามุระ จิโร โว้ย”

“เอ๊ะ คุณ...คุณจิโรหรือขอรับ”

ตาเฒ่าโอโตคิจิสะดุ้งตกใจ ปล่อยมือที่กำลังตรึงตัวคู่ต่อสู้ไว้กับพื้นแล้วผลุดลุกขึ้นยืนทันที

“คุณมาทำอะไรที่นี่”

“ฉันต่างหากที่ต้องถามแก ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ และผู้ชายคนนั้นคือใคร แกจะทำอะไรเขา”

“เอ่อ...ก็...ไม่มีอะไรหรอกขอรับ” ตาเฒ่าแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอกขอรับ ปล่อยกระผมได้แล้ว”

“ไม่ปล่อย”

“คุณจะทำอะไรกับตาเฒ่าอย่างกระผม”

“แกน่าจะรู้ตัวดีอยู่แล้วจะถามไปทำไม ฉันก็จะลากตัวแกไปให้ตำรวจน่ะซี”

“ตำรวจหรือครับ...กระผมว่าคุณจิโรเข้าใจอะไรผิดอยู่นะขอรับ”

“เข้าใจผิดบ้าอะไร ฉันรู้ความจริงหมดแล้ว ตาเฒ่าโอโตคิจิ...แกคือฆาตกรตัวจริง แกเป็นตัวการฆ่าคุณอาฟุกุดะ ทำร้ายทาเอะโกะกับคุณพี่จนบาดเจ็บสาหัส แล้วยังลักพาตัวโยโกะไปด้วย ฉันรู้หมดทุกอย่างแล้ว แกไม่รอดแน่”

“นั่นแหละขอรับที่กระผมบอกว่าคุณเข้าใจผิด กระผมเองก็รู้สึกตัวมาตลอดเหมือนกันว่าคุณสงสัย แต่ไม่นึกเลยว่าจะเข้ามายุ่งจนเสียเรื่องอย่างนี้”

“ยุ่งรึ ฉันเข้ามายุ่งอะไร แกกำลังจะฆ่าผู้ชายคนนั้นตายไปต่อหน้าต่อตาฉัน นั่นมันเรียกว่ายุ่งรึ”

“เฮ้อ จะวิ่งกวดตามไปตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว มันต้องเผ่นไปหลบอยู่ที่ไหนสักแห่ง ยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยให้ตายซิ” ” ตาเฒ่าบ่นพร้อมสบถ แต่ก็เปลี่ยนท่าที่ฉับพลัน “ถ้าอย่างนั้นมาทางนี้ กระผมมีอะไรอย่างหนึ่งให้คุณดูจะได้เลิกสงสัยกระผมเสียที และกระผมเองก็ต้องดูให้แน่ใจเหมือนกัน”

อะไรของมัน...จิโรไม่เชื่อเพราะคิดว่าอาจเป็นกลอุบาย จึงจับชายเสื้อของตาเฒ่าโอโตคิจิไว้แน่นขณะเดินตามไป

“คุณมีไม้ขีดไฟติดตัวมาบ้างไหม ช่วยจุดไฟทีเถิด”

จิโรยังไม่ปล่อยมือจากชายเสื้อเชลย เขาใช้มืออีกข้างล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบไฟแช็กออกมาดีดให้ไฟสว่างขึ้น ตาเฒ่าอาศัยแสงไฟริบหรี่จากไฟแช็กกวาดสายตาไปที่พื้นดินรอบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง

“โอ๊ะ ตรงนี้เอง”

ตาเฒ่าอุทานเบา ๆ พร้อมกับชี้มือไปตรงที่หมาย จิโรมองตามไปก็เห็นพื้นดินตรงนั้นมีสีแปลกไปจากบริเวณรอบ ๆ เป็นรอยสี่เหลี่ยมคล้ายเพิ่งถูกขุดแล้วกลบขนาดกว้างยาวด้านละราวสามฟุต และข้าง ๆ มีเสียมอันหนึ่งถูกทิ้งเอาไว้

ที่ตาเฒ่าบอกว่ามีอะไรให้ดูนั้นถ้าจะไม่ใช่เรื่องโกหกเสียแล้ว จิโรวางใจขึ้นมากจนถึงกับปล่อยมือจากชายเสื้อเชลยแล้วช่วยส่องไฟไปใกล้พื้นดินที่ตาเฒ่ากำลังลงมือขุด

“ในนั้นมีอะไรฝังอยู่รึ”

“กระผมก็ไม่รู้แน่ชัดหรอกขอรับ แต่เดาว่า...” ตาเฒ่าโอโตคิจิบอกพลางขุดไม่หยุดมือ

“เดาว่าอะไร...”

“มัน...มัน สยดสยองที่สุด”

ตาเฒ่าพูดออกมาแค่นั้นแล้วก็ปิดปากเงียบ ตั้งหน้าตั้งตาขุดต่อไป

ไม่ช้าก็ขุดลงไปจนเห็นอะไรอย่างหนึ่งคล้ายกระสอบอยู่ที่ก้นหลุม
กระสอบปริศนา
ทันทีที่เห็น ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในสมองของจิโร มันสยดสยองจนเขาต้องรีบสลัดทิ้งทันที...เป็นไปไม่ได้...จะเป็นไปได้ยังไง ถึงกระนั้นภาพในจินตนาการของเขากลับชัดเจนขึ้นทุกที ภาพของเลือดแดงฉานพุ่งกระฉูดสาดกระจายอยู่ในใจ

“ช่วยหน่อยขอรับ”

จิโรยื่นมือไปที่กระสอบลึกลับนั้นตามคำขอ มันหนักจนต้องอาศัยแรงคนสองคนจึงดึงฉุดขึ้นมาได้

“โอโตคิจิ นี่มันอะไรกัน มีอะไรอยู่ในกระสอบ”

ชายหนุ่มถามเสียงสั่น

“กระผมคงเดาไม่ผิดหรอกขอรับ แต่ไม่รู้ว่าคุณจะกล้าดูไหม”

จิโรปล่อยมือจากกระสอบ รู้สึกอยากวิ่งหนีไปในทันทีนั้น

“จุดไฟอีกทีได้ไหมขอรับ”

ชายหนุ่มทำตาม และพอได้แสงไฟตาเฒ่าก็เริ่มลงมือแก้เชือกที่ผูกปากกระสอบ

ตาเฒ่าโอโตคิจิจับก้นกระสอบยกขึ้นสูงแล้วเขย่าทีหนึ่ง เท่านั้นเองสิ่งที่อยู่ในนั้นก็ตกลงมากลิ้งอยู่บนพื้นดิน...อะไรกันนั่น

ถึงจะพอคาดเดาได้เลา ๆ ทั้งจิโรและตาเฒ่าก็ยังต้องอุทานออกมาดัง ๆ เมื่อเห็นแขนขามนุษย์ที่ถูกตัดขาดจริง ๆ เกลื่อนอยู่บนพื้นดินอย่างน่าอนาถเช่นนั้น

“มันไม่ใช่ตุ๊กตา แต่เป็นคนจริง ๆ”

ชายหนุ่มขึ้นเสียงสูงด้วยความอารมณ์ที่ปั่นป่วน

“ขอรับ มันไม่ใช่ตุ๊กตา”

ตาเฒ่าโอโตคิจิรับคำ แสดงว่าได้ดูมายากลฆ่าหั่นศพสาวงามด้วยเช่นกัน

“แล้ว...แล้วนี่มันศพใครกัน”

“ก็ต้องดูกันนะขอรับ”

จิโรกับตาเฒ่าโอโตคิจิจ้องตากันเขม็ง ทั้งสองรู้ว่าศพนี้คือใครโดยไม่ต้องดูสิ่งที่เหลืออยู่ในกระสอบใบนั้น

ตาเฒ่าล้วงมือลงไปใน หยิบหัวของศพที่ติดอยู่ก้นกระสอบขึ้นมา

จิโรยื่นไฟแช็กเข้าไปจนชิดหัวศพที่ยังมีผ้าปิดตาอยู่

ตาเฒ่ายกมือข้างหนึ่งขึ้นแก้ปมผ้าปิดตา

ผืนผ้าปลิวตกลงไปเผยให้เห็นใบหน้าซีดขาวไร้วิญญาณของ...ฮานาโซโนะ โยโกะ คนรักของจิโรที่หายสาบสูญ

“บ้า บ้าที่สุด” จิโรร้องลั่นเหมือนคนเสียสติทันทีที่เห็นภาพสะเทือนขวัญสุดขีดตรงหน้า

“คนที่ทำสิ่งชั่วช้าอย่างนี้ได้ต้องเป็นคนบ้า เป็นโรคจิตวิตถาร ทำไม...จำเป็นอะไรถึงต้องฆ่าคนให้ตายอย่างน่าเวทนาต่อหน้าคนดูเป็นร้อยเป็นพันอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่คนบ้าก็ต้องเป็นปีศาจชาติชั่วที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด”

“นี่คือการล้างแค้น” ตาเฒ่าโอโตคิจิพูดเสียงต่ำ “คุณลืมเรือลอยหัวคนประจานไปในแม่น้ำซุมิดะแล้วรึ เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นเจตนาเดียวกัน ฆาตกรสังหารเหยื่อของมันอย่างเหี้ยมโหดทารุณที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต่อหน้าต่อตาผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป้าหมายของฆาตกรคือการล้างแค้น”

จิโรตัวสั่นเทาไปกับเสียงเรียบ ๆ ของตาเฒ่า รู้สึกวิงเวียนราวกับจะเป็นลม

“แล้วไง ที่แกฝังศพโยโกะแล้วจงใจขุดขึ้นมาให้ฉันดูต่อหน้าต่อตานี่ก็เพื่อจะให้เป็นไปตามเป้าหมายของฆาตกรใช่ไหม”

ชายหนุ่มรวบรวมกำลังใจที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดเค้นเสียงตวาดกราดเกรี้ยว

“คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”

“แกคือฆาตกรตัวจริง ถ้าไม่ใช่...ก็บอกมาซิว่าตาแก่กวาดสวนอย่างแกมาทำอะไรที่นี่ในเวลาค่ำมืดอย่างนี้ และทำไมเวลาเกิดเหตุฆาตกรรมแกถึงไปอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุทุกครั้ง ใครเป็นคนเอาง่ามหนังสติ๊กยิงทาเอโกะ ใครเป็นคนที่แสร้งทำเป็นลบเลขรหัสลับที่ประตูทางเข้าคฤหาสน์เพื่อดึงดูดให้ฉันสนใจ บอกมาซิ”

การถกเถียงเงียบลงอย่างน่าประหลาด ดูเหมือนตาเฒ่าโอโตคิจิกำลังตัดสินใจอะไรสักอย่าง และในอึดใจต่อมานั้นเอง อยู่ ๆ ตาเฒ่าก็พูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่นมีกังวานอย่างที่คู่สนทนาของแกไม่เคยได้ยินมาก่อน

“นี่แสดงว่าคุณยังสงสัยอยู่ แต่ก็ไม่แปลกอะไรที่คุณจะคิดอย่างนั้น เอาอย่างนี้...คุณจิโร คุณดูหน้าผมให้ดี ๆ “

ตาเฒ่าดึงมือจิโรข้างที่ถือไฟแช็กอยู่เข้ามาส่องที่ใบหน้าของแก

ภายใต้แสงไฟริบหรี่ จิโรเห็นชายคนหนึ่งที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน ท่าทางยังดูหนุ่มแน่นเมื่อร่างที่คุ้มงออยู่ตลอดยืดตรงขึ้นมา คอที่เคยก้มงก ๆ เงิ่น ๆ ก็เหยียดตรง

“ยังไม่เข้าใจหรือครับ”

ชายลึกลับพูดพลางถอดวิกผมหงอกขาวเป็นหย่อม ๆ เหวี่ยงทิ้งไปทางหนึ่งพร้อมกับหนวดเครารุงรังสีงาดำคลุกเกลือ เผยให้เห็นใบหน้าคมสันสมชาย(ถึงจะยังไม่ได้ล้างจุดด่างดำที่บ่งบอกความชราภาพบนผิวหนัง และสีดำคล้ำแดดบนใบหน้าออกไปให้หมดจด)ของหนุ่มวัยสามสิบกว่าอย่างชัดเจน

จิโรตกตะลึงจ้องหน้านั้นเขม็ง และพอนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ถึงกับผงะแล้วเซไปข้างหลังสองสามก้าว ตาเบิกโพลงหน้าขาวซีดราวกับถูกผีหลอก

จิโรนึกถึงภาพถ่ายของชายคนหนึ่งขึ้นมาได้ และในเมื่อคนที่ยืนเด่นอยู่ตรงหน้าเขาขณะนี้หน้าตาเหมือนคนที่เขาเห็นในภาพถ่ายราวกับคน ๆ เดียวกันอย่างนี้...จะไม่ให้เขาตื่นตระหนกเหมือนเห็นผีได้อย่างไร

ผู้ประพันธ์นวนิยายสืบสวนไม่ว่าเรื่องใดในโลกนี้ ไม่มีใครที่จะสรรค์สร้างความเร้นลับ สยดสยอง ประหลาดพิสดาร เร้าใจผู้อ่านได้เทียบเท่าปรมาจารย์รัมโปของเรา ผู้นำเสนอกลเม็ดเด็ดพรายอันเฉียบแหลมด้วยความประณีตบรรจงอย่างที่ไม่มีใครเคยอ่านพบจากที่ไหนมาก่อนเอาไว้ในนวนิยายเรื่องมายาปีศาจชุดนี้ ซึ่งจะทวีความเข้มข้นขึ้นให้ผู้อ่านตื่นเต้นระทึกใจทุกบททุกตอน อย่าพลาดติดตามตอนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น