รัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุญาตให้แรงงานต่างชาติจำนวน 500,000 คนเข้ามาทำงานในญี่ปุ่นได้เป็นเวลาสูงสุด 5 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าต้องผ่านการวัดระดับความรู้ ทักษะ และความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่น และจะต้องกลับประเทศเมื่อครบกำหนดเวลา
รัฐบาลของนายชินโซ อะเบะ เตรียมผลักดันการผ่อนคลายวีซ่าเพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในญี่ปุ่น โดยจะอนุญาตให้แรงงานต่างชาติราว 500,000 คนเข้ามาทำงานในญี่ปุ่นได้เป็นเวลา 5 ปี แรงงานเหล่านี้ถือเป็นแรงงานทักษะน้อย สามารถทำงานได้ในภาคการเกษตร, การก่อสร้าง, โรงแรมและที่พักอาศัย, การดูแลพยาบาล และการต่อเรือ
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า ผู้ที่จะได้รับวีซ่าระบบใหม่นี้ต้องผ่านการวัดระดับความรู้ ทักษะ และความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่น และทำงานได้เฉพาะในสาขาที่กำหนดไว้เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีชาวต่างชาติอีกกลุ่มหนึ่ง ที่เข้ารับการฝึกอบรมทักษะภายใต้โครงการของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งทุกวันนี้สามารถ 5 ปีอยู่แล้ว จะสามารถขยายระยะเวลาการอยู่ในญี่ปุ่นต่อได้อีก 5 ปี รวมเป็นเวลาสูงสุด 10 ปี ปี แต่ต้องเดินทางกลับประเทศของตน 1 ครั้งก่อนเมื่อเสร็จสิ้นโครงการฝึกอบรมพนักงานฝึกหัดทางเทคนิค
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังรวบรวมนโยบายปฏิรูปทางเศรษฐกิจและการคลังที่คาดว่าจะได้รับความเห็นชอบในการประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายน
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่าโดยหลักการแล้ว จะไม่ยอมให้ผู้ที่ถือวีซ่าระบบใหม่นี้นำครอบครัวมาอยู่ด้วย แต่อาจจะมีข้อยกเว้นในกรณีที่ผู้นั้นสามารถพิสูจน์ได้ว่าตนมีทักษะอาชีพชั้นสูง
ญี่ปุ่นซึ่งประสบปัญหาสังคมชราภาพและประชากรลดลง ทำให้ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ในปีที่ผ่านมามีแรงงานต่างชาติในญี่ปุ่นราว 1.28 ล้านคน เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวจากสถิติเมื่อปี 2008 ที่มีชาวต่างชาติทำงานในญี่ปุ่นเพียงราว 480,000 คน แต่การหลั่งไหลเข้ามาของแรงงานต่างชาติก็ยังไม่เพียงพอกับภาะวขาดแคลนแรงงานของญี่ปุ่น ข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า อัตราส่วนงานต่อคนทำงานอยู่ที่ 1.59 ซึ่งหมายถึงมีงาน 159 ตำแหน่ง แต่มีคนทำงานเพียง 100 คน
หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังคงปิดกั้นที่จะรับพนักงานต่างชาติ และสังคมญี่ปุ่นก็ยังคงถือว่า “อยู่ยาก” สำหรับชาวต่างชาติ แนวนโยบายของรัฐบาลนี้ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพียง “เหล้าเก่าในขวดใหม่” เพราะการกำหนดให้แรงงานต้องผ่านการวัดระดับทักษะและความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่น เป็นปราการด่านสำคัญที่ทำให้แรงงานต่างชาติเข้าสู่ญี่ปุ่นได้ยากไม่ต่างจากเดิม.