สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว สัปดาห์ที่แล้วเล่าเรื่อง Best 5 Kamakura ซึ่งผ่านไปแล้ว 3 อันดับ คือ
อันดับที่ 5 เอะโนะชิมะ Enoshima 江ノ島 เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ พื้นแผ่นดินใหญ่ มีทัศนียภาพสวยงามโอบล้อมไปด้วยทะเล และเนินเขาในเกาะมีวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีถ้ำ มีสปาออนเซนและย่านร้านค้าจำหน่ายอาหารเลิศรส, ขายของที่ระลึกมากมาย
อันดับที่ 4 รถไฟฟ้าเอะโนะชิมะ Enoshima Electric Railway 江ノ島電鉄 หรือ Enoshima Dentetsu จะวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระหว่างเกาะ Shounan-Enoshima และ Kamakura
อันดับที่ 3 วัดโคโตะกุ Kōtokuin Temple หรือที่รู้จักกันว่าวันหลวงพ่อโต คามากุระ Daibutsu นั่นเอง
สมัยที่ผมอยู่ญี่ปุ่น ก็ไปเที่ยวคามากุระบ้างแต่ไม่บ่อยนัก ทั้งๆ ที่ใกล้โตเกียวมาก นั่งรถไฟไม่ถึงชั่วโมง เดินทางสะดวกสบาย ถ้าเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวโตเกียวแล้วมีเวลาอย่าลืมแวะเที่ยวคามากุระนะครับ เพราะคามากุระเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ เป็นที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในทางการเมืองของญี่ปุ่นและยังเคยเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางการปกครองญี่ปุ่นในสมัยโชกุนด้วยครับ มีเรื่องราวเกี่ยวกับโชกุน ซามูไร รัฐประหาร และเป็นเมืองต้นกำเนิดศิลปะวิทยาการมากมาย
🏯ยุคศักดินาญี่ปุ่น เมืองคามากุระต้นกำเนิดระบบโชกุนกับการปกครองยุคคามากุระ
สมัยคามากุระเป็นยุคแรกที่นักรบซามูไร (侍) มีอำนาจขึ้นมา ผลักดันตนเองให้กลายเป็นชนชั้นปกครองแทนที่พระจักรพรรดิ โดยมีผู้นำของการปกครองที่เรียกว่า "โชกุน" ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองศูนย์กลางการปกครองในยุคนั้นนั่นก็คือ เมืองคามากุระนั่นเอง โชกุนมีอำนาจเสมอเหมือนเป็นเจ้าผู้ปกครองญี่ปุ่นแทนที่พระจักรพรรดิ
โดยจักรพรรดิถือเป็นผู้ที่มีอำนาจการปกครองแต่เพียงในนามเท่านั้น โชกุนจะเป็นหัวหน้าผู้ปกครองประเทศในนามจักรพรรดิและมีอำนาจเด็ดขาดทั้งทางการเมืองและการทหาร โดย Minamoto no Yoritomo คือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโชกุนคนแรก และมีลูกๆ สืบต่อช่วงการเป็นโชกุนอีกไม่กี่รุ่น รุ่นที่ 3 คือ Minamoto no Sanetomo แต่ถูกลอบสังหารเมื่ออายุยังน้อย และอำนาจการปกครองที่แท้จริงได้เปลี่ยนมือหลายครั้ง จากหลายตระกูล เกิดสงครามบุกรุกจากต่างประเทศหลายครา และต่อมาเกิดกลุ่มผู้มีอำนาจทางการทหารหลายกลุ่มที่เป็นคู่แข่งในภาคอื่นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ก่อสงครามกลางเมืองขึ้นในประเทศญี่ปุ่นจากการที่บรรดาขุนนางที่หัวเมืองต่างๆ ทำสงครามเพื่อชิงความเป็นใหญ่ บ้านเมืองระส่ำระสาย จนในที่สุด Toyotomi Hideyoshi ขุนพลผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยได้อีกครั้ง แต่กระนั้นญี่ปุ่นเองก็ทำสงครามภายนอกทั้งกับเกาหลี และจีน สู้รบกันหลายครั้ง จนกระทั่ง Tokugawa Ieyasu เป็นผู้เสริมสร้างประเทศญี่ปุ่นต่อและได้รวบรวมญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่นให้มั่นคงยิ่งขึ้น
สมัยนั้นชนชั้นนักรบซามูไรได้เข้าครอบครองที่ดินต่างๆ เป็นจุดเริ่มต้นของญี่ปุ่นสมัยศักดินา โดยนักรบซามูไรที่เป็นนายจะแบ่งที่ดินให้แก่ข้ารับใช้ของตนตามระบอบศักดินาสวามิภักดิ์นั่นเอง ถ้าเพื่อนๆ สนใจเกี่ยวกับซามูไรเหล่านี้ ผมเคยเขียนไว้ที่นี่ครับ
🍊สถานการณ์แบบนี้.. กล้าชกหน้าหัวหน้าตัวเองไหม?! (Yoshitsune, Benkei)
🍊ขุนศึกมินะโมะโตะ ลูกน้องแบบไหนโดนใจบอส
🍊คนญี่ปุ่นทำงานเก่ง เจ้านายรักแต่เพื่อนร่วมงานเกลียด !?
เล่าเกริ่นมาถึงตรงนี้ ขอนำเพื่อนๆ เที่ยวต่อที่ลำดับที่ 2 ครับ
🏯อันดับที่2 ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachiman-gu 鶴岡八幡宮
ศาลเจ้าแห่งนี้ที่จริงถูกสร้างขึ้นก่อนยุคสมัยคามากุระอีกครับ เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวาง Minamoto no Yoritomo ผู้เป็นต้นตระกูลโชกุนแห่งคามะกุระ ได้ย้ายศาลเจ้าเดิมที่เคยตั้งอยู่ริมทะเลมาตั้งที่ตำแหน่ง ณ ปัจจุบันนี้และได้อัญเชิญฮาจิมัง เทพแห่งสงครามมาประดิษฐานที่ศาลเจ้าเพื่อให้เป็นเทพคุ้มครองตระกูล สร้างเพื่ออุทิศแด่ต้นตระกูลเกนจิ (หนึ่งในนั้นคือ Minamoto ) ไว้ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณครับ
ศาลเจ้าTsurugaoka Hachiman-gu เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองคามากุระ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีคามากุระ ในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้ เป็นศาลเจ้าที่งดงามมีพื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่น บริเวณสวนมีต้นไม้นานาพันธ์และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น
🍀 ความน่าสนใจของศาลเจ้าแห่งนี้
ในบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้มีอาคารที่ตั้งแท่นบูชาที่มีความสำคัญที่สุดคือ แท่นบูชาเล็กที่ตั้งอยู่ด้านล่างสุดของเนินที่ตั้งศาลเจ้า และแท่นบูชาใหญ่ที่ตั้งอยู่เหนือขึ้นไป 61 ขั้นบันได ที่อาคารแท่นบูชาใหญ่ เมื่อมองลงมาด้านล่างจะมองเห็นวิวที่สวยงามมากครับ
🏯ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ Minamoto no Sanetomo โชกุนแห่งคามากุระคนที่ 3 ถูกลอบสังหารที่ศาลนี้!
Minamoto no Sanetomo เป็นโชกุนที่ไม่ค่อยมีลักษณะของความเป็นโชกุนสักเท่าไหร่ เขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยด้วย แต่ว่าได้รับความนิยมมาก เพราะอะไร...
เนื่องจาก Minamoto no Sanetomo เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของโชกุนคนแรกของญี่ปุ่น คือ Minamoto no Yoritomo หลังจากผู้เป็นพ่อและพี่ชายเสียชีวิต จึงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนสืบต่อมาด้วยวัยเพียง 10 ปีโดยมี Hojo Tokimasa ผู้เป็นตาทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ด้วยความที่เขาต้องขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ประสีประสา ราวกับว่าเป็นตุ๊กตาหุ่นเชิดมาโดยตลอด เหมือนเป็นคุณหนูที่เลือกทางเดินของตนเองไม่ได้ พ่อและพี่ชายก็ถูกลอบสังหาร แม้ว่าทุกคนจะบอกว่าสาเหตุการตายของ Yoritomo ผู้เป็นพ่อเกิดจากการตกม้าตาย แต่เงื่อนงำการตกม้านั้นได้มีข้อสัญนิษฐานว่าอาจจะไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุอย่างที่พูดๆ กัน แต่อาจจะเกิดจากการฆ่าตกรรมก็เป็นไปได้ ส่วนคนพี่ชายที่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนต่อจากพ่อก็ถูกลอบสังหารตอนอาบน้ำที่บ้านเกิดของแม่ตัวเอง มีคนพูดกันว่าคล้ายเป็นเวรกรรมของตระกูลนี้ที่ทุกคนต้องโดนลอบสังหารทั้งหมด
มีหลายเรื่องที่ Minamoto no Sanetomo ไม่สามารถทำตามใจตนเอง และไม่สามารถทำให้ความฝันของตนเองบรรลุผลได้ จึงทำให้เขาเกิดความเศร้าโศกเสียใจหลายอย่าง เขาเป็นโชกุนที่ชอบศิลปะ ชอบกวี ไม่ค่อยสนใจจะเป็นนักรบ หรืองานบริหารต่างๆ เคยมีความคิดสร้างเรือใหญ่เพื่อจะล่องทะเลไปตามหาแผ่นดินยูโทเปีย แต่ก็ไม่สำเร็จเรือไม่ลอยน้ำ เกิดความเสียใจอย่างยิ่ง หมดพลังชีวิตหลายครั้ง ดำรงชีวิตอยู่เหมือนเป็นตุ๊กตาหุ่นเชิด เขาเป็นโชกุนก็จริงแต่มีชื่อเสียงด้านกวีมากกว่าสะอีก แถมสุขภาพก็ไม่สู้จะดีนัก ช่วงวันรุ่นสัก 16-17 ปีเป็นไข้ทรพิษหนัก ทำให้ร่างกายแย่ลงมาก และร่างกายอ่อนแอเรื่อยมา นี่จึงทำให้คนญี่ปุ่นรู้สึกชอบและสงสารเขา
กวีบทเพลงของเขาเป็นที่นิยมมาก หลายบท วันนี้ยกตัวอย่างสักบทครับที่ว่า
ものいわぬ四方のけだものすらだにもあはれなるかなや親の子をおもふ
Monoiwanu yomonokedamono suradanimo
Awarenarukana Oyanokowo'omou
แม้สัตว์โลกจะพูดจาสื่อสารออกมาไม่ได้..ก็ยังมีธรรมชาติที่รักและปกป้องดูแลลูกของตน ..มนุษย์..ก็ต้องรักลูกของตนสินะ!!?
◆เสียชีวิตที่ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachiman-gu
ตั้งแต่เริ่มแรกที่ตัวเขาเองก็ไม่ประสงค์จะเป็นซามูไร อยากเป็นขุนนางในราชสำนักมากกว่า หลังจากดำรงตำแหน่งโชกุนได้ 17 ปีกว่าๆ ก็ได้รับเลือกจากองค์จักรพรรดิให้เป็นรัฐมนตรีฝ่ายขวา จึงมีประสงค์จะไปฉลองที่ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachiman-gu ช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูหนาว เดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นที่สุด มีหิมะตกโปรยปราย การไปศาลเจ้าประจำตะกูลในวันนั้นไม่มีผู้ตามอารักษ์ขามากนัก บรรดาทหารอารักษ์ขาก็เฝ้าอยู่ด้านนอก จะมีเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้กำหนดการต่างๆ อย่างละเอียดและติดตามเข้าไปภายใน
ปกติเวลาที่ Minamoto no Sanetomo จะไปไหนจะมีคนสนิทคล้ายเลขาที่คอยช่วยดูแลถือสัมภาระติดตามไปด้วย บุคคลนั้นคือน้าชายแท้ๆ ของตัวเอง แต่วันที่ไปสักการะศาลเพื่อฉลองตำแหน่งนั้นน้าชายอ้างว่าไม่สบายขึ้นกะทันหันและร้องขอให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับภาระกิจเป็นผู้ช่วยถือดาบของ Minamoto no Sanetomo แทนตนเองหนึ่งวัน
ขณะที่เดินขึ้นบันไดไปยังอาคารหลักของศาลเจ้าฯ...
ก็มีลูกธนูพุ่งมาจากหลังต้นแปะก้วยใหญ่ข้างๆ ทางขึ้นศาล พร้อมกับเสียงตะโกนลั่นว่า ข้าจะล้างแค้นให้พ่อให้สำเร็จ และแล้ว Minamoto no Sanetomo และผู้ช่วยถือดาบก็ถูกลอบสังหารเสียชีวิตทันที ด้วยวัยเพียง 28 ปีเท่านั้น
เป็นที่โจษจันกันต่อมาว่าผู้ที่มีส่วนอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารจะเป็นใคร จะใช้น้าชายคนสนิทหรือไม่ เพราะวันนั้นเกิดป่วยขึ้นมาทันทีเพื่อไม่ให้ตนถูกฆ่าไปด้วย ส่วนตัวคนยิงธนูนั้นรู้ตัวแน่ๆ ว่าคือหลานชายที่บวชเป็นพระที่ศาลนั้นนั่นเอง เขาร้องออกมาว่าจะล้างแค้นให้พ่อแม่ นั่นแสดงว่าเกิดความเข้าใจผิด หรือมีผู้ไม่ประสงค์ดีต่อ Minamoto no Sanetomo โดยปั่นหัวให้เชื่อว่า Minamoto no Sanetomo เป็นคนฆ่าพ่อแม่ของหลานชายตาย ทั้งๆ ที่คนอย่าง Minamoto no Sanetomo แทบจะไม่สนใจการเมืองการสู้รบใดๆ ทั้งสิ้น จากนั้นเมื่อหลานชายนักบวชมือธนูหลบหนีไปอยู่กับญาติๆ ตัวเอง ก็ต้องถูกฆ่าปิดปากในกาลต่อมา จึงทำให้ไม่มีคนที่สามารถตอบเรื่องราวที่แท้จริงต่อจากนั้นได้ ไม่มีใครรู้จริงว่าใครอยุ่เบื้องหลังการฆ่า มีแต่เรื่องเล่าที่คาดการณ์จากการสัญนิษฐานเท่านั้น
ปกติคนระดับโชกุน ถูกลอบฆ่าก็มีหลายคน แต่ชีวิตของโชกุน Minamoto no Sanetomo น่าสงสารที่สุดครับ
แม้ว่าต้นแปะก๊วยต้นใหญ่อายุกว่าพันปีที่เป็นที่หลบของผู้ลอบสังหารเพิ่งตายลงเมื่อปี ค.ศ.2010 เพราะอายุมากและภัยธรรมชาติ แต่ปัจจุบันได้มีการทำรั้วล้อมบริเวณที่ต้นแปะก๊วยนี้อยู่ข้างๆ บันไดทางขึ้นศาลหลักนั่นเอง ที่ศาลเจ้านี้มีต้นไม่ตามฤดูกาลที่หลากหลายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นแปะก๊วยของศาลนี้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสวยงาม นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่
ส่วนถนนทางเข้าศาลเจ้าจะเรียงรายไปด้วยต้นซากุระทั้งสองข้างทาง ฤดูใบไม้ผลิซากุระบานสวย เราสามารถเดินจากสถานีคามากุระไปยังศาลเจ้าได้ไม่ไกลนัก เดินชมซากุระ ชมบ้านเมืองช่างเพลินตาจริงๆ ครับ
🏯อันดับที่ 1 วันนี้ครับ วัด Hase dera (Kamakura)
วัด Hase dera หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ฮาเซคันนอน” หรือบ้างก็เรียกว่า “วัดแห่งดอกไม้” นอกจากเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานแล้วยังเป็นแหล่งชมดอกไม้นานาพันธุ์ตามฤดูกาล เช่น ดอกซากุระ หรือสำหรับเดือน 5 นี้ก็ชมความงามของดอก อาซาเลีย (ツツジ Tsutsuji ) มีหลายสีสรรบานแข่งกันอวดโฉมความสวยงามมาก แต่ถ้าไม่ทันชมดอกอาซาเลียก็ไม่ต้องเสียใจเพราะเข้าเดือน 6 ดอกไฮเดรนเยีย หรือดอกอะจิไซ 紫陽花 Ajisai กว่า 40 สายพันธุ์ที่จะบานสวยตามมาครับ สำหรับวัด Hase dera มี พระประธานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ ทำจากไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงกว่า 9.18 เมตร และมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์หลัก, หอพระอมิตาภพุทธะ, ซุ้มจิโซ, หอพระสุรัสวดี, ศาลเจ้าอินาริ,พิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิม , มีถ้ำสำหรับสักการะบูชาพระสุรัสวดีและบริวารทั้ง 16 ของพระสุรัสวดีด้วย เป็นต้น และยังสามารถเพลิดเพลินกับเส้นทางเดินชมวิว และจุดชมวิว Miharashidai เป็นจุดชมวิวชายหาดยูอิกาฮามะด้วยครับ
โดยเฉพาะในวันที่อากาศแจ่มใส เราสามารถมองเห็นไปถึงคาบสมุทรไกลสุดขอบฟ้าเลยทีเดียว บริเวณจุดชมวิวนี้จะมีม้านั่งและร่มตั้งเอาไว้ให้บริการด้วย จึงเหมาะกับการแวะมานั่งผ่อนคลายปล่อยความคิดและทิ้งเรื่องที่หนักอึ้งทั้งหมดให้หายไป
ที่จริงแล้วถ้ามาเที่ยวเมืองคามากุระ ก็ไม่ใช่มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมแนะนำไปข้างต้นเท่านั้น ยังมีจุดอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย มีวัดวาอาราม ศาลเจ้า แหล่งสันทนาการอีกมากมาย อาทิ
Zeniarai Benzaiten Ugafuku Shrine (ศาลเจ้าเบนไซเทนอุงะฟุกุ)
เป็นศาลเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องให้โชคลาภด้านเงินทองมาตั้งแต่สมัยก่อน โดยตั้งอยู่ในหุบเขาลึกของคามากุระ เชื่อกันว่าถ้าใส่เงินลงไปในกระด้งและล้างด้วยน้ำจากน้ำพุภายในวัดจะทำให้เรามีเงินเพิ่มขึ้น เงินไหลมาเทมา รวยๆ กันเลยทีเดียว
วัดโฮโคคุจิ หรือ “วัดไผ่” ที่นี่เป็นวัดขนาดเล็ก ด้านหลังของโบสถ์หลักเป็นที่ตั้งของป่าไผ่ที่กว้างขวางเต็มไปด้วยต้นไผ่กว่า 2,000 ต้น มีบรรยากาศชวนฝัน เดินชมเพลินจนลืมเวลากันได้เลยทีเดียว เป็นวัดที่มีผู้คนมากมายที่เดินทางมาสักการะบูชาและต้องพูดเหมือนกันว่า “โชคดีที่ได้มาที่นี่”
เพลิดเพลินกับทะเลและวิวพระอาทิตย์ยามเย็นที่ชายหาดยูอิกาฮามะ Yuigahama (ชายหาดยูอิกาฮามะ)เป็นชายหาดที่ตั้งอยู่เลียบชายฝั่งทะเลของคามากุระ ในฤดูร้อนจะมีการตั้งเพิงริมชายหาด แถมยังมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟด้วยครับ นี่ก็ใกล้เทศกาลชมดอกไม่ไฟอีกปีแล้วด้วย ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวพระอาทิตย์ยามเย็นที่สวยโรแมนติกมาก แต่ถ้าท่านใดไปเที่ยววัด Hase dera ก่อนก็สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของหาดยูอิกาฮามะ Yuigahama ได้จากวัด Hase dera เช่นกันครับ
วันที่พาเพื่อนๆ เที่ยวเมืองคามากุระ ไปหลายจุดเลย อีกไม่นานคามากุระนี้ก็จะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย ณ ตอนนั้นอาจจะยิ่งมีผู้คนเข้าไปเที่ยวชมเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นถ้าท่านใดมีโอกาสลองไปเดินชิลสักวันที่คามากุระครับ วันนี้สวัสดีครับ
อันดับที่ 5 เอะโนะชิมะ Enoshima 江ノ島 เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ พื้นแผ่นดินใหญ่ มีทัศนียภาพสวยงามโอบล้อมไปด้วยทะเล และเนินเขาในเกาะมีวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีถ้ำ มีสปาออนเซนและย่านร้านค้าจำหน่ายอาหารเลิศรส, ขายของที่ระลึกมากมาย
อันดับที่ 4 รถไฟฟ้าเอะโนะชิมะ Enoshima Electric Railway 江ノ島電鉄 หรือ Enoshima Dentetsu จะวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระหว่างเกาะ Shounan-Enoshima และ Kamakura
อันดับที่ 3 วัดโคโตะกุ Kōtokuin Temple หรือที่รู้จักกันว่าวันหลวงพ่อโต คามากุระ Daibutsu นั่นเอง
สมัยที่ผมอยู่ญี่ปุ่น ก็ไปเที่ยวคามากุระบ้างแต่ไม่บ่อยนัก ทั้งๆ ที่ใกล้โตเกียวมาก นั่งรถไฟไม่ถึงชั่วโมง เดินทางสะดวกสบาย ถ้าเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวโตเกียวแล้วมีเวลาอย่าลืมแวะเที่ยวคามากุระนะครับ เพราะคามากุระเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ เป็นที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในทางการเมืองของญี่ปุ่นและยังเคยเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางการปกครองญี่ปุ่นในสมัยโชกุนด้วยครับ มีเรื่องราวเกี่ยวกับโชกุน ซามูไร รัฐประหาร และเป็นเมืองต้นกำเนิดศิลปะวิทยาการมากมาย
🏯ยุคศักดินาญี่ปุ่น เมืองคามากุระต้นกำเนิดระบบโชกุนกับการปกครองยุคคามากุระ
สมัยคามากุระเป็นยุคแรกที่นักรบซามูไร (侍) มีอำนาจขึ้นมา ผลักดันตนเองให้กลายเป็นชนชั้นปกครองแทนที่พระจักรพรรดิ โดยมีผู้นำของการปกครองที่เรียกว่า "โชกุน" ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองศูนย์กลางการปกครองในยุคนั้นนั่นก็คือ เมืองคามากุระนั่นเอง โชกุนมีอำนาจเสมอเหมือนเป็นเจ้าผู้ปกครองญี่ปุ่นแทนที่พระจักรพรรดิ
โดยจักรพรรดิถือเป็นผู้ที่มีอำนาจการปกครองแต่เพียงในนามเท่านั้น โชกุนจะเป็นหัวหน้าผู้ปกครองประเทศในนามจักรพรรดิและมีอำนาจเด็ดขาดทั้งทางการเมืองและการทหาร โดย Minamoto no Yoritomo คือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโชกุนคนแรก และมีลูกๆ สืบต่อช่วงการเป็นโชกุนอีกไม่กี่รุ่น รุ่นที่ 3 คือ Minamoto no Sanetomo แต่ถูกลอบสังหารเมื่ออายุยังน้อย และอำนาจการปกครองที่แท้จริงได้เปลี่ยนมือหลายครั้ง จากหลายตระกูล เกิดสงครามบุกรุกจากต่างประเทศหลายครา และต่อมาเกิดกลุ่มผู้มีอำนาจทางการทหารหลายกลุ่มที่เป็นคู่แข่งในภาคอื่นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ก่อสงครามกลางเมืองขึ้นในประเทศญี่ปุ่นจากการที่บรรดาขุนนางที่หัวเมืองต่างๆ ทำสงครามเพื่อชิงความเป็นใหญ่ บ้านเมืองระส่ำระสาย จนในที่สุด Toyotomi Hideyoshi ขุนพลผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยได้อีกครั้ง แต่กระนั้นญี่ปุ่นเองก็ทำสงครามภายนอกทั้งกับเกาหลี และจีน สู้รบกันหลายครั้ง จนกระทั่ง Tokugawa Ieyasu เป็นผู้เสริมสร้างประเทศญี่ปุ่นต่อและได้รวบรวมญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่นให้มั่นคงยิ่งขึ้น
สมัยนั้นชนชั้นนักรบซามูไรได้เข้าครอบครองที่ดินต่างๆ เป็นจุดเริ่มต้นของญี่ปุ่นสมัยศักดินา โดยนักรบซามูไรที่เป็นนายจะแบ่งที่ดินให้แก่ข้ารับใช้ของตนตามระบอบศักดินาสวามิภักดิ์นั่นเอง ถ้าเพื่อนๆ สนใจเกี่ยวกับซามูไรเหล่านี้ ผมเคยเขียนไว้ที่นี่ครับ
🍊สถานการณ์แบบนี้.. กล้าชกหน้าหัวหน้าตัวเองไหม?! (Yoshitsune, Benkei)
🍊ขุนศึกมินะโมะโตะ ลูกน้องแบบไหนโดนใจบอส
🍊คนญี่ปุ่นทำงานเก่ง เจ้านายรักแต่เพื่อนร่วมงานเกลียด !?
เล่าเกริ่นมาถึงตรงนี้ ขอนำเพื่อนๆ เที่ยวต่อที่ลำดับที่ 2 ครับ
🏯อันดับที่2 ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachiman-gu 鶴岡八幡宮
ศาลเจ้าแห่งนี้ที่จริงถูกสร้างขึ้นก่อนยุคสมัยคามากุระอีกครับ เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวาง Minamoto no Yoritomo ผู้เป็นต้นตระกูลโชกุนแห่งคามะกุระ ได้ย้ายศาลเจ้าเดิมที่เคยตั้งอยู่ริมทะเลมาตั้งที่ตำแหน่ง ณ ปัจจุบันนี้และได้อัญเชิญฮาจิมัง เทพแห่งสงครามมาประดิษฐานที่ศาลเจ้าเพื่อให้เป็นเทพคุ้มครองตระกูล สร้างเพื่ออุทิศแด่ต้นตระกูลเกนจิ (หนึ่งในนั้นคือ Minamoto ) ไว้ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณครับ
ศาลเจ้าTsurugaoka Hachiman-gu เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองคามากุระ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีคามากุระ ในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้ เป็นศาลเจ้าที่งดงามมีพื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่น บริเวณสวนมีต้นไม้นานาพันธ์และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น
🍀 ความน่าสนใจของศาลเจ้าแห่งนี้
ในบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้มีอาคารที่ตั้งแท่นบูชาที่มีความสำคัญที่สุดคือ แท่นบูชาเล็กที่ตั้งอยู่ด้านล่างสุดของเนินที่ตั้งศาลเจ้า และแท่นบูชาใหญ่ที่ตั้งอยู่เหนือขึ้นไป 61 ขั้นบันได ที่อาคารแท่นบูชาใหญ่ เมื่อมองลงมาด้านล่างจะมองเห็นวิวที่สวยงามมากครับ
🏯ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ Minamoto no Sanetomo โชกุนแห่งคามากุระคนที่ 3 ถูกลอบสังหารที่ศาลนี้!
Minamoto no Sanetomo เป็นโชกุนที่ไม่ค่อยมีลักษณะของความเป็นโชกุนสักเท่าไหร่ เขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยด้วย แต่ว่าได้รับความนิยมมาก เพราะอะไร...
เนื่องจาก Minamoto no Sanetomo เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของโชกุนคนแรกของญี่ปุ่น คือ Minamoto no Yoritomo หลังจากผู้เป็นพ่อและพี่ชายเสียชีวิต จึงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนสืบต่อมาด้วยวัยเพียง 10 ปีโดยมี Hojo Tokimasa ผู้เป็นตาทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ด้วยความที่เขาต้องขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ประสีประสา ราวกับว่าเป็นตุ๊กตาหุ่นเชิดมาโดยตลอด เหมือนเป็นคุณหนูที่เลือกทางเดินของตนเองไม่ได้ พ่อและพี่ชายก็ถูกลอบสังหาร แม้ว่าทุกคนจะบอกว่าสาเหตุการตายของ Yoritomo ผู้เป็นพ่อเกิดจากการตกม้าตาย แต่เงื่อนงำการตกม้านั้นได้มีข้อสัญนิษฐานว่าอาจจะไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุอย่างที่พูดๆ กัน แต่อาจจะเกิดจากการฆ่าตกรรมก็เป็นไปได้ ส่วนคนพี่ชายที่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนต่อจากพ่อก็ถูกลอบสังหารตอนอาบน้ำที่บ้านเกิดของแม่ตัวเอง มีคนพูดกันว่าคล้ายเป็นเวรกรรมของตระกูลนี้ที่ทุกคนต้องโดนลอบสังหารทั้งหมด
มีหลายเรื่องที่ Minamoto no Sanetomo ไม่สามารถทำตามใจตนเอง และไม่สามารถทำให้ความฝันของตนเองบรรลุผลได้ จึงทำให้เขาเกิดความเศร้าโศกเสียใจหลายอย่าง เขาเป็นโชกุนที่ชอบศิลปะ ชอบกวี ไม่ค่อยสนใจจะเป็นนักรบ หรืองานบริหารต่างๆ เคยมีความคิดสร้างเรือใหญ่เพื่อจะล่องทะเลไปตามหาแผ่นดินยูโทเปีย แต่ก็ไม่สำเร็จเรือไม่ลอยน้ำ เกิดความเสียใจอย่างยิ่ง หมดพลังชีวิตหลายครั้ง ดำรงชีวิตอยู่เหมือนเป็นตุ๊กตาหุ่นเชิด เขาเป็นโชกุนก็จริงแต่มีชื่อเสียงด้านกวีมากกว่าสะอีก แถมสุขภาพก็ไม่สู้จะดีนัก ช่วงวันรุ่นสัก 16-17 ปีเป็นไข้ทรพิษหนัก ทำให้ร่างกายแย่ลงมาก และร่างกายอ่อนแอเรื่อยมา นี่จึงทำให้คนญี่ปุ่นรู้สึกชอบและสงสารเขา
กวีบทเพลงของเขาเป็นที่นิยมมาก หลายบท วันนี้ยกตัวอย่างสักบทครับที่ว่า
ものいわぬ四方のけだものすらだにもあはれなるかなや親の子をおもふ
Monoiwanu yomonokedamono suradanimo
Awarenarukana Oyanokowo'omou
แม้สัตว์โลกจะพูดจาสื่อสารออกมาไม่ได้..ก็ยังมีธรรมชาติที่รักและปกป้องดูแลลูกของตน ..มนุษย์..ก็ต้องรักลูกของตนสินะ!!?
◆เสียชีวิตที่ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachiman-gu
ตั้งแต่เริ่มแรกที่ตัวเขาเองก็ไม่ประสงค์จะเป็นซามูไร อยากเป็นขุนนางในราชสำนักมากกว่า หลังจากดำรงตำแหน่งโชกุนได้ 17 ปีกว่าๆ ก็ได้รับเลือกจากองค์จักรพรรดิให้เป็นรัฐมนตรีฝ่ายขวา จึงมีประสงค์จะไปฉลองที่ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachiman-gu ช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูหนาว เดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นที่สุด มีหิมะตกโปรยปราย การไปศาลเจ้าประจำตะกูลในวันนั้นไม่มีผู้ตามอารักษ์ขามากนัก บรรดาทหารอารักษ์ขาก็เฝ้าอยู่ด้านนอก จะมีเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้กำหนดการต่างๆ อย่างละเอียดและติดตามเข้าไปภายใน
ปกติเวลาที่ Minamoto no Sanetomo จะไปไหนจะมีคนสนิทคล้ายเลขาที่คอยช่วยดูแลถือสัมภาระติดตามไปด้วย บุคคลนั้นคือน้าชายแท้ๆ ของตัวเอง แต่วันที่ไปสักการะศาลเพื่อฉลองตำแหน่งนั้นน้าชายอ้างว่าไม่สบายขึ้นกะทันหันและร้องขอให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับภาระกิจเป็นผู้ช่วยถือดาบของ Minamoto no Sanetomo แทนตนเองหนึ่งวัน
ขณะที่เดินขึ้นบันไดไปยังอาคารหลักของศาลเจ้าฯ...
ก็มีลูกธนูพุ่งมาจากหลังต้นแปะก้วยใหญ่ข้างๆ ทางขึ้นศาล พร้อมกับเสียงตะโกนลั่นว่า ข้าจะล้างแค้นให้พ่อให้สำเร็จ และแล้ว Minamoto no Sanetomo และผู้ช่วยถือดาบก็ถูกลอบสังหารเสียชีวิตทันที ด้วยวัยเพียง 28 ปีเท่านั้น
เป็นที่โจษจันกันต่อมาว่าผู้ที่มีส่วนอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารจะเป็นใคร จะใช้น้าชายคนสนิทหรือไม่ เพราะวันนั้นเกิดป่วยขึ้นมาทันทีเพื่อไม่ให้ตนถูกฆ่าไปด้วย ส่วนตัวคนยิงธนูนั้นรู้ตัวแน่ๆ ว่าคือหลานชายที่บวชเป็นพระที่ศาลนั้นนั่นเอง เขาร้องออกมาว่าจะล้างแค้นให้พ่อแม่ นั่นแสดงว่าเกิดความเข้าใจผิด หรือมีผู้ไม่ประสงค์ดีต่อ Minamoto no Sanetomo โดยปั่นหัวให้เชื่อว่า Minamoto no Sanetomo เป็นคนฆ่าพ่อแม่ของหลานชายตาย ทั้งๆ ที่คนอย่าง Minamoto no Sanetomo แทบจะไม่สนใจการเมืองการสู้รบใดๆ ทั้งสิ้น จากนั้นเมื่อหลานชายนักบวชมือธนูหลบหนีไปอยู่กับญาติๆ ตัวเอง ก็ต้องถูกฆ่าปิดปากในกาลต่อมา จึงทำให้ไม่มีคนที่สามารถตอบเรื่องราวที่แท้จริงต่อจากนั้นได้ ไม่มีใครรู้จริงว่าใครอยุ่เบื้องหลังการฆ่า มีแต่เรื่องเล่าที่คาดการณ์จากการสัญนิษฐานเท่านั้น
ปกติคนระดับโชกุน ถูกลอบฆ่าก็มีหลายคน แต่ชีวิตของโชกุน Minamoto no Sanetomo น่าสงสารที่สุดครับ
แม้ว่าต้นแปะก๊วยต้นใหญ่อายุกว่าพันปีที่เป็นที่หลบของผู้ลอบสังหารเพิ่งตายลงเมื่อปี ค.ศ.2010 เพราะอายุมากและภัยธรรมชาติ แต่ปัจจุบันได้มีการทำรั้วล้อมบริเวณที่ต้นแปะก๊วยนี้อยู่ข้างๆ บันไดทางขึ้นศาลหลักนั่นเอง ที่ศาลเจ้านี้มีต้นไม่ตามฤดูกาลที่หลากหลายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นแปะก๊วยของศาลนี้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสวยงาม นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่
ส่วนถนนทางเข้าศาลเจ้าจะเรียงรายไปด้วยต้นซากุระทั้งสองข้างทาง ฤดูใบไม้ผลิซากุระบานสวย เราสามารถเดินจากสถานีคามากุระไปยังศาลเจ้าได้ไม่ไกลนัก เดินชมซากุระ ชมบ้านเมืองช่างเพลินตาจริงๆ ครับ
🏯อันดับที่ 1 วันนี้ครับ วัด Hase dera (Kamakura)
วัด Hase dera หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ฮาเซคันนอน” หรือบ้างก็เรียกว่า “วัดแห่งดอกไม้” นอกจากเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานแล้วยังเป็นแหล่งชมดอกไม้นานาพันธุ์ตามฤดูกาล เช่น ดอกซากุระ หรือสำหรับเดือน 5 นี้ก็ชมความงามของดอก อาซาเลีย (ツツジ Tsutsuji ) มีหลายสีสรรบานแข่งกันอวดโฉมความสวยงามมาก แต่ถ้าไม่ทันชมดอกอาซาเลียก็ไม่ต้องเสียใจเพราะเข้าเดือน 6 ดอกไฮเดรนเยีย หรือดอกอะจิไซ 紫陽花 Ajisai กว่า 40 สายพันธุ์ที่จะบานสวยตามมาครับ สำหรับวัด Hase dera มี พระประธานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ ทำจากไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงกว่า 9.18 เมตร และมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์หลัก, หอพระอมิตาภพุทธะ, ซุ้มจิโซ, หอพระสุรัสวดี, ศาลเจ้าอินาริ,พิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิม , มีถ้ำสำหรับสักการะบูชาพระสุรัสวดีและบริวารทั้ง 16 ของพระสุรัสวดีด้วย เป็นต้น และยังสามารถเพลิดเพลินกับเส้นทางเดินชมวิว และจุดชมวิว Miharashidai เป็นจุดชมวิวชายหาดยูอิกาฮามะด้วยครับ
โดยเฉพาะในวันที่อากาศแจ่มใส เราสามารถมองเห็นไปถึงคาบสมุทรไกลสุดขอบฟ้าเลยทีเดียว บริเวณจุดชมวิวนี้จะมีม้านั่งและร่มตั้งเอาไว้ให้บริการด้วย จึงเหมาะกับการแวะมานั่งผ่อนคลายปล่อยความคิดและทิ้งเรื่องที่หนักอึ้งทั้งหมดให้หายไป
ที่จริงแล้วถ้ามาเที่ยวเมืองคามากุระ ก็ไม่ใช่มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมแนะนำไปข้างต้นเท่านั้น ยังมีจุดอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย มีวัดวาอาราม ศาลเจ้า แหล่งสันทนาการอีกมากมาย อาทิ
Zeniarai Benzaiten Ugafuku Shrine (ศาลเจ้าเบนไซเทนอุงะฟุกุ)
เป็นศาลเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องให้โชคลาภด้านเงินทองมาตั้งแต่สมัยก่อน โดยตั้งอยู่ในหุบเขาลึกของคามากุระ เชื่อกันว่าถ้าใส่เงินลงไปในกระด้งและล้างด้วยน้ำจากน้ำพุภายในวัดจะทำให้เรามีเงินเพิ่มขึ้น เงินไหลมาเทมา รวยๆ กันเลยทีเดียว
วัดโฮโคคุจิ หรือ “วัดไผ่” ที่นี่เป็นวัดขนาดเล็ก ด้านหลังของโบสถ์หลักเป็นที่ตั้งของป่าไผ่ที่กว้างขวางเต็มไปด้วยต้นไผ่กว่า 2,000 ต้น มีบรรยากาศชวนฝัน เดินชมเพลินจนลืมเวลากันได้เลยทีเดียว เป็นวัดที่มีผู้คนมากมายที่เดินทางมาสักการะบูชาและต้องพูดเหมือนกันว่า “โชคดีที่ได้มาที่นี่”
เพลิดเพลินกับทะเลและวิวพระอาทิตย์ยามเย็นที่ชายหาดยูอิกาฮามะ Yuigahama (ชายหาดยูอิกาฮามะ)เป็นชายหาดที่ตั้งอยู่เลียบชายฝั่งทะเลของคามากุระ ในฤดูร้อนจะมีการตั้งเพิงริมชายหาด แถมยังมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟด้วยครับ นี่ก็ใกล้เทศกาลชมดอกไม่ไฟอีกปีแล้วด้วย ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวพระอาทิตย์ยามเย็นที่สวยโรแมนติกมาก แต่ถ้าท่านใดไปเที่ยววัด Hase dera ก่อนก็สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของหาดยูอิกาฮามะ Yuigahama ได้จากวัด Hase dera เช่นกันครับ
วันที่พาเพื่อนๆ เที่ยวเมืองคามากุระ ไปหลายจุดเลย อีกไม่นานคามากุระนี้ก็จะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย ณ ตอนนั้นอาจจะยิ่งมีผู้คนเข้าไปเที่ยวชมเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นถ้าท่านใดมีโอกาสลองไปเดินชิลสักวันที่คามากุระครับ วันนี้สวัสดีครับ