สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว ที่จริงช่วงนี้ถ้าถามว่าที่ญี่ปุ่นเป็นฤดูกาลไหนแน่ อาจจะตอบให้เข้าใจยากสักหน่อย เพราะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูกาลใบไม้ผลิจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ผมได้อ่านแคมเปญเชิญชวนท่องเที่ยวเกียวโตของบริษัทรถไฟญี่ปุ่น เป็นภาพทุ่งดอกไม้และบ้านทรงโบราณ และมีข้อความบรรยายสั้นๆ ที่เขียนได้น่ารักมาก เขียนว่า "春と夏の間に、いったい いくつ 季節を隠しているんだ、この町は。During the spring and summer, you're hiding the several seasons, this town! ...หรือจะพูดได้ว่า มีฤดูกาลอันหลากหลายที่ซ่อนอยู่ในช่วงใบไม้ผลิและฤดูร้อน" ดังนั้นช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นในแต่ละวันจึงมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันอย่างสุดโต่งไปเลย บางวันอาจจะร้อนมากถึง 30℃ วันต่อไปอาจจะฝนตกทั้งวัน และวันต่อจากนั้นอาจกลับมาหนาวเย็นอีกก็เป็นไปได้ จากโฆษณาแคมแปญดังกล่าวเป็นแคมเปญที่เชิญชวนไปเที่ยวเกียวโตครับ แม้ว่าจะมีกี่ฤดูที่ซ่อนอยู่ในช่วงใบไม้ผลิและฤดูร้อน แต่ที่เมืองนี้ ( ถึงแม้จะไม่ได้เขียนเป็นตัวอักษรแบบชัดๆ ว่าเมืองนี้สวยน่าเที่ยวอย่างไร แต่ความหมายสามารถตีความให้เข้าใจได้ว่า มาเถอะเมืองนี้) ผมชอบตรงข้อความที่บอกว่ารู้ไหมมีกี่ฤดูกาลที่ซ่อนอยู่...
ซึ่งฤดูกาลที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เราเรียกว่า 初夏 Shoka หรือ early summer ประมาณช่วง เดือนพฤษภาคม- ต้นเดือนมิถุนายนครับ ผมคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่อากาศดีที่สุด เพราะว่าสภาพอากาศจะสดชื่นอย่างที่เคยเล่าไปก่อนๆ นี้ว่า อากาศดีจนเป็นช่วงเวลาที่นกนางแอ่นจะบินกลับมาทำรังที่ญี่ปุ่น (ญี่ปุ่นเดือนห้า หน้านกนางแอ่น Tsubame) ทุ่งนาออกรวงสวย ลมพัดเย็นสบาย อากาศจะสะอาดกว่าช่วงเดือนกุมภาพันธ์- เดือนเมษายน เพราะช่วงนั้นมีละอองเกสรสน ละอองเกสรฟุ้งกระจายในอากาศมากทำให้คนที่เป็นโรคภูมิแพ้เกสรเกิดอาการกำเริบ คนญี่ปุ่นเป็นกันมากครับ จากประวัติที่บันทึกไว้พบว่าแค่คนที่อยู่ในโตเกียวก็มีอาการแพ้ละอองเกสรมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือในสองคนจะมีหนึ่งคนละที่เป็นภูมิแพ้เกสร
อย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงบ่อยสักหน่อย บางคนก็บอกว่าเริ่มร้อนแล้ว เปิดแอร์ที่บ้านไปได้สักอาทิตย์หนึ่ง แต่อีกอาทิตย์ต่อมากลับหนาวขึ้นมาอีกจนต้องเปิดเครื่องทำความร้อน Heater สับสนจริงๆ
ขึ้นต้นมาด้วยแคมเปญเชิญชวนท่องเที่ยวงั้นวันนี้ผมจะพาไปเที่ยวกันสักหน่อยดีไหมครับ อาทิตย์ที่แล้วบอกไว้ว่าจะเล่าเรื่อง Best 5 Kamakura ในความคิดเห็นของผม คิดว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเคยไปเที่ยวคามากุระกันแล้วใช่ไหมครับ
คามากุระ Kamakura เป็นเมืองในจังหวัด Kanagawa ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 50 กิโลเมตร จากโตเกียว เป็นเมืองเก่าที่มีอายุเกินกว่า 800 ปี เป็นเมืองที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในทางการเมืองของญี่ปุ่นในอดีต เคยเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางการปกครองญี่ปุ่นในสมัยโชกุน เรียกว่ายุคคะมะกุระ แต่ความยิ่งใหญ่ของเมืองแห่งนี้ นอกจากประวัติศาตร์ การเมือง และบุคคลผู้มีอิทธิพลต่อญี่ปุ่นในอดีตจะมารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยวัดวาอาราม ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากนักเดินทางน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี การเดินทางไปเที่ยวคามากุระก็สะดวกง่ายดายมากครับ ถ้าทางรถไฟก็ขึ้นได้ทั้งจากสถานีรถไฟโตเกียว ชินากาวะ โยโกฮามา หรือจะซื้อเป็นวันเดย์พาสที่สถานีรถไฟชินจูกุก็ได้ ตอนนี้รอขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วยครับ
จะขอเริ่มจากอันดับ 5,4 ส่วน 3,2,1 นี่สลับกันได้ไม่เจาะจงครับ น่าสนใจทั้งนั้นเลย
อันดับที่ 5 เอะโนะชิมะ Enoshima เป็นเกาะจริงๆ ครับ เกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ พื้นแผ่นดินใหญ่ มีทัศนียภาพสวยงามโอบล้อมไปด้วยทะเล สภาพเป็นเนินเป็นภูเขาถ้าผู้สูงอายุไปด้วยอาจจะเดินลำบากสักหน่อย ด้วยความที่เป็นเกาะล้อมไปด้วยทะเลจึงมีลมพัดเย็นสบาย ในเกาะมีวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีถ้ำและย่านร้านค้าจำหน่ายอาหารเลิศรส, ขายของที่ระลึกมากมาย เราสามารถขึ้นรถจากชินจูกุที่มีปลายทางไปสถานี Fujisawa แล้วเปลี่ยนสายไปเป็นสาย Enoshima Dentetsu แล้วลงที่สถานี Enoshima ครับจากนั้น เดินมาที่เกาะEnoshima ได้เลยโดยการเดินข้ามสะพานจากชายฝั่งครับ ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย อาทิเช่น
⛩ศาลเจ้าเอโนะชิมะ 江島神社 Enoshima Shrine เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีพระสุรัสวดีที่ยิ่งใหญ่นับเป็น 1 ใน 3 ในญี่ปุ่นประดิษฐานอยู่ ศาลเจ้าเอโนะชิมะมีถึง 3 ศาลเจ้ากระจายกันไปในเกาะ จะบูชาเทพธิดา 3 องค์ที่เป็นเทพเจ้าแห่งทะเล เทพเจ้าแห่งน้ำ และเทพเจ้าแห่งศิลปะการแสดงผู้นำมาซึ่งความสุขและทรัพย์สมบัติ จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก
🔐เนินโคอิบิโตะโนะโอกะ 恋人の丘 Koibito no Oka หรือ เนินคนรัก เล่ากันว่าสร้างมาจากตำนานรักระหว่างนางฟ้ากับมังกร 5 หัว ณ สถานที่แห่งนี้จะมี 龍恋の鐘 Ryūren no Kane ระฆังริวเร็นโนะคาเนะ ที่เชื่อว่าถ้าคู่รักไปสั่นระฆังด้วยกันแล้วจะทำให้มีรักที่ยืนยาวตราบชั่วนิรันดร์ นับเป็นสถานที่ขึ้นชื่อเป็น Love spot ที่มีบรรดาคู่รักมาเข้าแถวรอมาสั่นระฆังกันเป็นจำนวนมาก
🏞ถ้ำเอโนะชิมะอิวายะ Enoshima Iwaya Caves เป็นถ้ำธรรมชาติที่เกิดจากคลื่นทะเลกัดกร่อนมาเป็นระยะเวลายาวนาน และเป็นสถานที่ทางศาสนามาก่อนด้วย
🏰เอโนชิมะ ซีแคนเดิล Enoshima Sea Candle ประภาคารเอโนชิมะที่โดดเด่น และหอชมวิว “ซีแคนเดิล” ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเอโนชิมะ มีความสูงถึง 119.6 เมตรซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลและภูเขาที่อยู่ไกลออกไปได้สวยงามมาก ที่นี่ยังมีสวนสาธารณะที่เป็นสวนพฤกษชาติและมีดอกไม้สวยๆ ตามฤดูกาลมากมายครับ
🐈แมวเหมียวน้อยบนเกาะเอโนะชิมะ มีคนบอกว่าแมวที่นี่เยอะมาก แต่จะไม่ค่อยออกมาแสดงตัวนัก บางคนจึงสนุกที่จะเดินตามหาแมวน้อยให้ได้ 5 ตัวเพราะเชื่อว่าจะเกิดความโชคดีในชีวิต ใครรักน้องเหมียวห้ามพลาดครับ
♨️เอโนชิมะ ไอแลนด์สปา Enoshima Island Spa เป็นสปารีสอร์ตที่ตั้งอยู่ปากทางเข้าเอโนชิมะ ที่นี่มีน้ำพุร้อนตามธรรมชาติบนพื้นที่กว้างกว่า 1,500 เมตรให้ความเพลิดเพลินได้อย่างจุใจ และยังมีน้ำพุร้อนโอเชียนวิว สระว่ายน้ำ และร้านอาหารมากมาย เหมาะสำหรับมาผ่อนคลายกับคู่รักและครอบครัวครับ
🗻นอกจากนั้นวันที่อากาศดีๆ ท้องฟ้าโปร่งใสเรายังสามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิซังได้ด้วย ยิ่งช่วงนี้อากาศดี เย็นสบายรับกับแสงแดดอุ่นๆ ฟินระดับสิบเลยทีเดียวครับ
อันดับที่ 4 รถไฟฟ้าเอะโนะชิมะ Enoshima Electric Railway 江ノ島電鉄 Enoshima dentetsu (Eno-den)
เป็นรถไฟฟ้าของบริษัทเอกชน เปิดให้บริการมานานมากแล้วและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน รถไฟสายนี่จะวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระหว่างเกาะ Shounan-Enoshima และ Kamakura ในเส้นทางระหว่างสถานีรถไฟคะมะกุระ ถึงสถานีฟุจิซะวะแค่ระยะทางสั้นๆ เพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้นเอง แต่จุดเด่นคือรถไฟสายนี้เป็นสายที่วิ่งเลียบทะเล จึงทำให้เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของทะเลญี่ปุ่นด้วยครับ สามารถชื่อ Enoshima-Kamakura Free pass ได้ด้วยครับ จะขึ้นลงที่ครั้ง แวะนู้น เที่ยวนี่สุดคุ้ม ย่านนั้นไม่ว่าจะลงที่สถานีไหนก็สวย เดินชมบ้านเมืองก็เพลินตาไปอีกแบบครับ
ใกล้ๆ ทางรถไฟจะมีสถานที่เก่าแก่มากมาย มีหัวจักรแบบสมัยก่อน จึงกลายเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวที่น่าสนใจของคามากุระด้วยละครับ สถานที่น่าสนใจที่รถวิ่งผ่าน อาทิเช่น Enoshima,Tsurugaoka Hachimangū และเมืองโบราณ Kamakura , Kamakura Daibutsu(พระพุทธรูปขนาดใหญ่ วัดโคโตะกุ) เป็นต้น ถ้าเป็นไปได้ไปช่วงวันธรรมดาดีที่สุดครับจะได้ไม่เต็มมาก
ส่วนอันดับที่ 3,2,และ 1 นั้นคิดว่าสามารถเปลี่ยนสลับกันได้ แต่ครั้งนี้ขอเลือกเป็นวัดโคโตะกุก่อนครับ
อันดับที่ 3 วัดโคโตะกุ Kōtokuin Temple หรือที่รู้จักกันว่าวันหลวงพ่อโต คามากุระ Daibutsu
ที่ได้รับการขนานนามว่า “ Great Buddha of Kamakura” หรือหลวงพ่อโตแห่งคามากุระนั้นเพราะองค์พระมีความสูงมาก พระพุทธรูปไดบุสึ เป็นพระพุทธรูป อมิตาภะองค์ใหญ่ที่หล่อจากบรอนซ์ มีความสูงถึง 13.35 เมตร น้ำหนัก 95 ตัน สูงเป็นอันดับ2 ของญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่รองจากพระโตที่วัดโทไดจิ จังหวัดนาราครับ
พระพุทธรูปไดบุสึนับว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญมากๆ ของเมืองคามากุระ ว่ากันว่าทีแรกนั้นองค์พระท่านไม่ได้ตั้งอยู่ด้านนอกบนลานเด่นอย่างเช่นที่เห็นๆ อยู่อย่างในปัจจุบันนี้ แต่เดิมองค์พระก็ประดิษฐานอยู่ภายในอาคารวัด แต่เมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 และ 15 อาคารของวัดหลายส่วนได้ถูกภัยพิบัติทำลายไป เหลือแต่องค์พระที่ตั้งอยู่โดยไม่ได้สร้างอาคารขึ้นมาครอบใหม่ แต่ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่เด่น ใครพูดถึงคามากุระก็ให้นึกถึงภาพพระองค์โตที่ตั้งเด่นกลางลานโล่ง มีฉากหลังเป็นต้นไม้เขียวครึ้มดูสวยสง่างามทีเดียวครับ เราจะเห็นว่าพระพุทธรูปท่านมีขนาดใหญ่มาก แต่จริงๆ ด้านในกลวงนะครับ มีหน้าต่างระบายอากาศที่ด้านหลังองค์พระ และสามารถเข้าไปชมในองค์พระได้ด้วย
มีนักเขียนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของญี่ปุ่นชื่อ 与謝野 晶子 Yosano Akiko ได้เขียนกวีบทหนึ่งที่แสดงความรู้สึกลึก ๆ สำหรับพระพุทธศาสนาซึ่งเปรียบเสมือนผู้รู้แจ้ง โดยข้อความนี้สลักบนหินตั้งไว้ใกล้ๆ องค์พระด้วย
かまくらや御ほとけなれど釈迦牟尼は 美男におはす夏木立かな , 晶子
Kamakura ya Mihotokenaredo Shakamuni wa
Binan ni owasu Natsukodachi kana ,Akiko
Kamakura, พระศากยมุนีพุทธะผู้รู้แจ้ง บัวบานในป่าฤดูร้อน , Akiko
และที่วัดโคโตะกุอิน 高徳院 (Kōtokuin Temple) นี้ไม่เพียงแต่เป็นวัดที่สำคัญสำหรับคนญี่ปุ่น ยังมีความสำคัญกับคนไทยอีกด้วยนะครับ เพราะที่นี่มีต้นสนที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงปลูกในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2474 และที่ต้นสนที่ได้รับพระราชทานให้มาปลูกที่วัดนี้จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของไทยด้วยครับ ถ้ามีโอกาสต้องไปให้ได้สักครั้งครับ
เที่ยวเหนื่อยหรือยังครับ ส่วนอันดับต่อไป คิดว่าจะเขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ลงไปด้วย เพราะสมัยคามากุระนั้นมีเหล่าโชกุนและซามูไรมากมาย พื้นที่แห่งนี้มีที่มาที่ไปครับ ต้องขอเรียบเรียงสักหน่อย วันนี้สวัสดีครับ
ซึ่งฤดูกาลที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เราเรียกว่า 初夏 Shoka หรือ early summer ประมาณช่วง เดือนพฤษภาคม- ต้นเดือนมิถุนายนครับ ผมคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่อากาศดีที่สุด เพราะว่าสภาพอากาศจะสดชื่นอย่างที่เคยเล่าไปก่อนๆ นี้ว่า อากาศดีจนเป็นช่วงเวลาที่นกนางแอ่นจะบินกลับมาทำรังที่ญี่ปุ่น (ญี่ปุ่นเดือนห้า หน้านกนางแอ่น Tsubame) ทุ่งนาออกรวงสวย ลมพัดเย็นสบาย อากาศจะสะอาดกว่าช่วงเดือนกุมภาพันธ์- เดือนเมษายน เพราะช่วงนั้นมีละอองเกสรสน ละอองเกสรฟุ้งกระจายในอากาศมากทำให้คนที่เป็นโรคภูมิแพ้เกสรเกิดอาการกำเริบ คนญี่ปุ่นเป็นกันมากครับ จากประวัติที่บันทึกไว้พบว่าแค่คนที่อยู่ในโตเกียวก็มีอาการแพ้ละอองเกสรมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือในสองคนจะมีหนึ่งคนละที่เป็นภูมิแพ้เกสร
อย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงบ่อยสักหน่อย บางคนก็บอกว่าเริ่มร้อนแล้ว เปิดแอร์ที่บ้านไปได้สักอาทิตย์หนึ่ง แต่อีกอาทิตย์ต่อมากลับหนาวขึ้นมาอีกจนต้องเปิดเครื่องทำความร้อน Heater สับสนจริงๆ
ขึ้นต้นมาด้วยแคมเปญเชิญชวนท่องเที่ยวงั้นวันนี้ผมจะพาไปเที่ยวกันสักหน่อยดีไหมครับ อาทิตย์ที่แล้วบอกไว้ว่าจะเล่าเรื่อง Best 5 Kamakura ในความคิดเห็นของผม คิดว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเคยไปเที่ยวคามากุระกันแล้วใช่ไหมครับ
คามากุระ Kamakura เป็นเมืองในจังหวัด Kanagawa ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 50 กิโลเมตร จากโตเกียว เป็นเมืองเก่าที่มีอายุเกินกว่า 800 ปี เป็นเมืองที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในทางการเมืองของญี่ปุ่นในอดีต เคยเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางการปกครองญี่ปุ่นในสมัยโชกุน เรียกว่ายุคคะมะกุระ แต่ความยิ่งใหญ่ของเมืองแห่งนี้ นอกจากประวัติศาตร์ การเมือง และบุคคลผู้มีอิทธิพลต่อญี่ปุ่นในอดีตจะมารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยวัดวาอาราม ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากนักเดินทางน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี การเดินทางไปเที่ยวคามากุระก็สะดวกง่ายดายมากครับ ถ้าทางรถไฟก็ขึ้นได้ทั้งจากสถานีรถไฟโตเกียว ชินากาวะ โยโกฮามา หรือจะซื้อเป็นวันเดย์พาสที่สถานีรถไฟชินจูกุก็ได้ ตอนนี้รอขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วยครับ
จะขอเริ่มจากอันดับ 5,4 ส่วน 3,2,1 นี่สลับกันได้ไม่เจาะจงครับ น่าสนใจทั้งนั้นเลย
อันดับที่ 5 เอะโนะชิมะ Enoshima เป็นเกาะจริงๆ ครับ เกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ พื้นแผ่นดินใหญ่ มีทัศนียภาพสวยงามโอบล้อมไปด้วยทะเล สภาพเป็นเนินเป็นภูเขาถ้าผู้สูงอายุไปด้วยอาจจะเดินลำบากสักหน่อย ด้วยความที่เป็นเกาะล้อมไปด้วยทะเลจึงมีลมพัดเย็นสบาย ในเกาะมีวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีถ้ำและย่านร้านค้าจำหน่ายอาหารเลิศรส, ขายของที่ระลึกมากมาย เราสามารถขึ้นรถจากชินจูกุที่มีปลายทางไปสถานี Fujisawa แล้วเปลี่ยนสายไปเป็นสาย Enoshima Dentetsu แล้วลงที่สถานี Enoshima ครับจากนั้น เดินมาที่เกาะEnoshima ได้เลยโดยการเดินข้ามสะพานจากชายฝั่งครับ ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย อาทิเช่น
⛩ศาลเจ้าเอโนะชิมะ 江島神社 Enoshima Shrine เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีพระสุรัสวดีที่ยิ่งใหญ่นับเป็น 1 ใน 3 ในญี่ปุ่นประดิษฐานอยู่ ศาลเจ้าเอโนะชิมะมีถึง 3 ศาลเจ้ากระจายกันไปในเกาะ จะบูชาเทพธิดา 3 องค์ที่เป็นเทพเจ้าแห่งทะเล เทพเจ้าแห่งน้ำ และเทพเจ้าแห่งศิลปะการแสดงผู้นำมาซึ่งความสุขและทรัพย์สมบัติ จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก
🔐เนินโคอิบิโตะโนะโอกะ 恋人の丘 Koibito no Oka หรือ เนินคนรัก เล่ากันว่าสร้างมาจากตำนานรักระหว่างนางฟ้ากับมังกร 5 หัว ณ สถานที่แห่งนี้จะมี 龍恋の鐘 Ryūren no Kane ระฆังริวเร็นโนะคาเนะ ที่เชื่อว่าถ้าคู่รักไปสั่นระฆังด้วยกันแล้วจะทำให้มีรักที่ยืนยาวตราบชั่วนิรันดร์ นับเป็นสถานที่ขึ้นชื่อเป็น Love spot ที่มีบรรดาคู่รักมาเข้าแถวรอมาสั่นระฆังกันเป็นจำนวนมาก
🏞ถ้ำเอโนะชิมะอิวายะ Enoshima Iwaya Caves เป็นถ้ำธรรมชาติที่เกิดจากคลื่นทะเลกัดกร่อนมาเป็นระยะเวลายาวนาน และเป็นสถานที่ทางศาสนามาก่อนด้วย
🏰เอโนชิมะ ซีแคนเดิล Enoshima Sea Candle ประภาคารเอโนชิมะที่โดดเด่น และหอชมวิว “ซีแคนเดิล” ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเอโนชิมะ มีความสูงถึง 119.6 เมตรซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลและภูเขาที่อยู่ไกลออกไปได้สวยงามมาก ที่นี่ยังมีสวนสาธารณะที่เป็นสวนพฤกษชาติและมีดอกไม้สวยๆ ตามฤดูกาลมากมายครับ
🐈แมวเหมียวน้อยบนเกาะเอโนะชิมะ มีคนบอกว่าแมวที่นี่เยอะมาก แต่จะไม่ค่อยออกมาแสดงตัวนัก บางคนจึงสนุกที่จะเดินตามหาแมวน้อยให้ได้ 5 ตัวเพราะเชื่อว่าจะเกิดความโชคดีในชีวิต ใครรักน้องเหมียวห้ามพลาดครับ
♨️เอโนชิมะ ไอแลนด์สปา Enoshima Island Spa เป็นสปารีสอร์ตที่ตั้งอยู่ปากทางเข้าเอโนชิมะ ที่นี่มีน้ำพุร้อนตามธรรมชาติบนพื้นที่กว้างกว่า 1,500 เมตรให้ความเพลิดเพลินได้อย่างจุใจ และยังมีน้ำพุร้อนโอเชียนวิว สระว่ายน้ำ และร้านอาหารมากมาย เหมาะสำหรับมาผ่อนคลายกับคู่รักและครอบครัวครับ
🗻นอกจากนั้นวันที่อากาศดีๆ ท้องฟ้าโปร่งใสเรายังสามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิซังได้ด้วย ยิ่งช่วงนี้อากาศดี เย็นสบายรับกับแสงแดดอุ่นๆ ฟินระดับสิบเลยทีเดียวครับ
อันดับที่ 4 รถไฟฟ้าเอะโนะชิมะ Enoshima Electric Railway 江ノ島電鉄 Enoshima dentetsu (Eno-den)
เป็นรถไฟฟ้าของบริษัทเอกชน เปิดให้บริการมานานมากแล้วและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน รถไฟสายนี่จะวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระหว่างเกาะ Shounan-Enoshima และ Kamakura ในเส้นทางระหว่างสถานีรถไฟคะมะกุระ ถึงสถานีฟุจิซะวะแค่ระยะทางสั้นๆ เพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้นเอง แต่จุดเด่นคือรถไฟสายนี้เป็นสายที่วิ่งเลียบทะเล จึงทำให้เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของทะเลญี่ปุ่นด้วยครับ สามารถชื่อ Enoshima-Kamakura Free pass ได้ด้วยครับ จะขึ้นลงที่ครั้ง แวะนู้น เที่ยวนี่สุดคุ้ม ย่านนั้นไม่ว่าจะลงที่สถานีไหนก็สวย เดินชมบ้านเมืองก็เพลินตาไปอีกแบบครับ
ใกล้ๆ ทางรถไฟจะมีสถานที่เก่าแก่มากมาย มีหัวจักรแบบสมัยก่อน จึงกลายเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวที่น่าสนใจของคามากุระด้วยละครับ สถานที่น่าสนใจที่รถวิ่งผ่าน อาทิเช่น Enoshima,Tsurugaoka Hachimangū และเมืองโบราณ Kamakura , Kamakura Daibutsu(พระพุทธรูปขนาดใหญ่ วัดโคโตะกุ) เป็นต้น ถ้าเป็นไปได้ไปช่วงวันธรรมดาดีที่สุดครับจะได้ไม่เต็มมาก
ส่วนอันดับที่ 3,2,และ 1 นั้นคิดว่าสามารถเปลี่ยนสลับกันได้ แต่ครั้งนี้ขอเลือกเป็นวัดโคโตะกุก่อนครับ
อันดับที่ 3 วัดโคโตะกุ Kōtokuin Temple หรือที่รู้จักกันว่าวันหลวงพ่อโต คามากุระ Daibutsu
ที่ได้รับการขนานนามว่า “ Great Buddha of Kamakura” หรือหลวงพ่อโตแห่งคามากุระนั้นเพราะองค์พระมีความสูงมาก พระพุทธรูปไดบุสึ เป็นพระพุทธรูป อมิตาภะองค์ใหญ่ที่หล่อจากบรอนซ์ มีความสูงถึง 13.35 เมตร น้ำหนัก 95 ตัน สูงเป็นอันดับ2 ของญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่รองจากพระโตที่วัดโทไดจิ จังหวัดนาราครับ
พระพุทธรูปไดบุสึนับว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญมากๆ ของเมืองคามากุระ ว่ากันว่าทีแรกนั้นองค์พระท่านไม่ได้ตั้งอยู่ด้านนอกบนลานเด่นอย่างเช่นที่เห็นๆ อยู่อย่างในปัจจุบันนี้ แต่เดิมองค์พระก็ประดิษฐานอยู่ภายในอาคารวัด แต่เมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 และ 15 อาคารของวัดหลายส่วนได้ถูกภัยพิบัติทำลายไป เหลือแต่องค์พระที่ตั้งอยู่โดยไม่ได้สร้างอาคารขึ้นมาครอบใหม่ แต่ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่เด่น ใครพูดถึงคามากุระก็ให้นึกถึงภาพพระองค์โตที่ตั้งเด่นกลางลานโล่ง มีฉากหลังเป็นต้นไม้เขียวครึ้มดูสวยสง่างามทีเดียวครับ เราจะเห็นว่าพระพุทธรูปท่านมีขนาดใหญ่มาก แต่จริงๆ ด้านในกลวงนะครับ มีหน้าต่างระบายอากาศที่ด้านหลังองค์พระ และสามารถเข้าไปชมในองค์พระได้ด้วย
มีนักเขียนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของญี่ปุ่นชื่อ 与謝野 晶子 Yosano Akiko ได้เขียนกวีบทหนึ่งที่แสดงความรู้สึกลึก ๆ สำหรับพระพุทธศาสนาซึ่งเปรียบเสมือนผู้รู้แจ้ง โดยข้อความนี้สลักบนหินตั้งไว้ใกล้ๆ องค์พระด้วย
かまくらや御ほとけなれど釈迦牟尼は 美男におはす夏木立かな , 晶子
Kamakura ya Mihotokenaredo Shakamuni wa
Binan ni owasu Natsukodachi kana ,Akiko
Kamakura, พระศากยมุนีพุทธะผู้รู้แจ้ง บัวบานในป่าฤดูร้อน , Akiko
และที่วัดโคโตะกุอิน 高徳院 (Kōtokuin Temple) นี้ไม่เพียงแต่เป็นวัดที่สำคัญสำหรับคนญี่ปุ่น ยังมีความสำคัญกับคนไทยอีกด้วยนะครับ เพราะที่นี่มีต้นสนที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงปลูกในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2474 และที่ต้นสนที่ได้รับพระราชทานให้มาปลูกที่วัดนี้จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของไทยด้วยครับ ถ้ามีโอกาสต้องไปให้ได้สักครั้งครับ
เที่ยวเหนื่อยหรือยังครับ ส่วนอันดับต่อไป คิดว่าจะเขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ลงไปด้วย เพราะสมัยคามากุระนั้นมีเหล่าโชกุนและซามูไรมากมาย พื้นที่แห่งนี้มีที่มาที่ไปครับ ต้องขอเรียบเรียงสักหน่อย วันนี้สวัสดีครับ