คอลัมน์ "เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น" โดย "ซาระซัง"
เพื่อนผู้อ่านที่รักพกผ้าเช็ดหน้ากันไหมคะ? ฉันจำได้ว่าสมัยเป็นนักเรียน แม่จะให้พกผ้าเช็ดหน้าติดตัวไปโรงเรียนเสมอ ฉันมักใส่ไว้ในกระเป๋ากระโปรงและหยิบออกมาใช้เป็นประจำทุกวัน พอโตขึ้นไม่ได้สวมชุดนักเรียนที่มีกระเป๋ากระโปรงอีกแล้ว ฉันก็แทบลืมผ้าเช็ดหน้าไปเสียสนิท
อยู่มาวันหนึ่งขณะที่กำลังคุยกับเพื่อนอยู่ เพื่อนซึ่งเป็นผู้ชายเปรยว่าเดี๋ยวนี้คนใช้กระดาษทิชชูกันมากเสียจนไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้าแล้ว ควรจะสนับสนุนให้มีการใช้ผ้าเช็ดหน้านะ ไม่อย่างนั้นต่อไปสาว ๆ จะไม่ทำผ้าเช็ดหน้าหล่นให้หนุ่ม ๆ ได้เก็บอีก ฉันฟังแล้วก็เห็นท่าจะจริง ชักคิดหนักว่าถ้าไม่มีผ้าเช็ดหน้าแล้วสาว ๆ จะอ่อยเหยื่อ เอ๊ย ทอดสะพานอย่างไรให้สุภาพกันละ
ที่ญี่ปุ่นมีขายผ้าเช็ดหน้าน่ารักน่าใช้หลายแบบ ที่น่าสังเกตคือมีผ้าเช็ดหน้าที่เนื้อผ้าเป็นแบบผ้าขนหนูด้วย แต่บางทีอีกด้านหนึ่งมีผิวสัมผัสของเนื้อผ้าคนละแบบหรือไม่ก็มีลวดลายสวยงาม ฉันเห็นครั้งแรกก็งงว่า เอ...ทำไมผ้าเช็ดหน้าผืนหนานักนะ แล้วจะพกติดกระเป๋ากางเกง กระเป๋ากระโปรง หรือกระเป๋าเสื้ออย่างไร หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสเห็นผู้หญิงญี่ปุ่นใช้ผ้าเช็ดหน้าแบบนี้ซับเหงื่อกัน โดยผ้าเช็ดหน้านี้ก็ใส่ไว้ในกระเป๋าถือของตัวเองนี่แหละ ฉันรู้สึกฉงนเพราะรู้ดีว่ากระเป๋าผู้หญิงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นกระเป๋ามหาสมบัติก็ว่าได้ มีทุกสิ่งให้เลือกสรรจนจำไม่ได้ว่าใส่อะไรไว้บ้าง หาโน่นนั่นนี่ไม่เจอทั้งที่เป็นกระเป๋าของตัวเองแท้ ๆ ฉันไม่อยากให้ผ้าเช็ดหน้าสะอาด ๆ ลงไปปะปนเละตุ้มเป๊ะอยู่กับบรรดาข้าวของอื่น ๆ ก็เลยไม่ได้พกผ้าเช็ดหน้าเลยทั้ง ๆ ที่ใจจริงก็อยากจะพกอยู่เหมือนกัน
คนญี่ปุ่นนั้นดูเหมือนจะมีค่านิยมว่าในกระเป๋าถือจะต้องมีกระเป๋าสตางค์ ผ้าเช็ดหน้า กระดาษทิชชู และอื่น ๆ ส่วนเด็กประถมก่อนจะไปโรงเรียน คุณแม่ก็จะถามว่าลืมอะไรหรือเปล่า มีนั่นหรือยัง มีนี่หรือยัง หนึ่งในนั้นก็จะมีผ้าเช็ดหน้ารวมอยู่ด้วย พวกเด็กนักเรียนเวลาเข้าห้องน้ำล้างมือก็จะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับมือให้แห้ง หากไม่มีก็ต้องขอยืมของเพื่อนแทน ฉันเองก็เคยเห็นในการ์ตูนผู้หญิงมีฉากที่ผู้หญิงคนหนึ่งล้างมือในห้องน้ำสาธารณะเสร็จแล้วกำลังจะหาผ้าเช็ดหน้าแล้วพบว่าลืมเอามา สาวข้าง ๆ จึงยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้เช็ด
บางทีเด็กผู้หญิงญี่ปุ่นก็มักให้ผ้าเช็ดหน้าเป็นของขวัญระหว่างกัน ตัวฉันเองก็เคยได้รับผ้าเช็ดหน้าที่เนื้อผ้าเหมือนผ้าขนหนูมาเป็นของฝากเล็ก ๆ น้อยจากคนรู้จักที่ติดต่องานด้วยกัน รวมทั้งเคยได้เป็นของขวัญในวันไวท์เดย์จากเพื่อนร่วมงานชายที่ฉันเคยให้ช็อกโกแลตวาเลนไทน์ไปตามธรรมเนียม (แสดงว่าคนญี่ปุ่นเขานิยมให้ผ้าเช็ดหน้าเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ กัน ซึ่งต่างจากคนไทย) ตอนที่ฉันได้รับมาก็นึกไม่ออกว่าจะใช้ “ผ้าขนหนูจิ๋ว” นี่สำหรับทำอะไรดี สุดท้ายจึงเอาไปพับวางไว้ตรงอ่างล้างหน้าเผื่อจะไว้ซับน้ำที่กระเด็นออกจากอ่างโดยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันคือผ้าเช็ดหน้า
ถ้าเป็นประเทศไทยดูเหมือนเราจะไม่ให้ผ้าเช็ดหน้าเป็นของขวัญกันเท่าไหร่ เคยมีผู้ใหญ่บอกฉันว่ามันเหมือนเอาไว้ให้ซับน้ำตา เขาจึงไม่ให้กัน แต่ฉันจำได้ว่าเคยได้รับผ้าเช็ดหน้าเป็นของขวัญจากหนุ่มน้อยห้องเรียนข้าง ๆ ที่ฉันเคยแอบมองสมัยมัธยม นั่นเป็นช่วงใกล้จะเรียนจบแล้ว ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาพยายามบอกฉันเป็นนัย ๆ หรือเปล่าว่าตัดใจจากเขาเสียทีเถอะ แล้วเอาผ้านี่ไปซับน้ำตาซะ…
คิดดูแล้วก็บ่อยเหมือนกันที่เห็นผู้ชายญี่ปุ่นหยิบผ้าเช็ดหน้าที่พกไว้ออกมาใช้ซับเหงื่อตามใบหน้าลำคอในหน้าร้อน ทีแรกฉันคิดว่าอาจจะเฉพาะผู้ชายที่ทำงานที่ต้องใช้แรง หรือออกไปหาลูกค้าข้างนอกหรือเปล่าที่ใช้ แต่แล้วก็ได้ทราบว่ามีผู้ชายญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเลยที่พกผ้าเช็ดหน้าทั้งแบบบางและแบบผ้าขนหนู บางคนถึงขนาดว่าถ้าลืมเอามาก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องไปหาซื้อเลยทีเดียว บางคนที่ไม่ได้พกก็จะรู้สึกอายถ้าจะตอบใครว่าตัวเองไม่ได้พกผ้าเช็ดหน้า
จะว่าไปแล้วผู้ชายที่พกผ้าเช็ดหน้านี่ดูดีนะคะ แบบว่าแอบเนี้ยบ ดูเป็นสุภาพบุรุษแบบสมัยเก่าดีจัง ประโยชน์ของมันนั้นคือนอกจากจะเอาไว้ใช้เองส่วนตัวแล้ว ในบางคราวหากไปดูหนังด้วยกันกับแฟนหรือสาวที่แอบชอบอยู่ แล้วสาวเกิดซาบซึ้งจนน้ำตาร่วงขึ้นมา คุณผู้ชายก็สามารถส่งผ้าเช็ดหน้าให้สาวเจ้าซับน้ำตาได้ สาวที่ไหนจะไม่ประทับใจก็ให้มันรู้ไป แต่ขอบอกก่อนว่ามุขนี้ผ้าเช็ดหน้าต้องสะอาดและใช้ทิชชูแทนกันไม่ได้นะเออ
มีเรื่องของความรักที่มาพร้อมกับผ้าเช็ดหน้าอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ เพื่อนฉันคนหนึ่งบ้านเธออยู่ต่างจังหวัดแต่มาเรียนและทำงานในกรุงเทพฯ คุณพ่อของเธอซึ่งได้เจอเธอเฉพาะวันสุดสัปดาห์เคยขอผ้าเช็ดหน้าที่เธอเคยพกสมัยมัธยมมาเก็บไว้ คุณพ่อบอกว่ามันบางดี พกใส่กระเป๋าเสื้อง่าย เธอทราบว่าคุณพ่อเธอพกผ้าเช็ดหน้าไว้ใช้อยู่เสมอจึงให้ไป วันหนึ่งเธอพบว่าคุณพ่อไม่ได้ใช้ แต่เอาผ้าเช็ดหน้าวางไว้ข้างเตียง เพื่อนบอกว่าคุณพ่อเป็นคนที่มีความรักแบบไม่แสดงออก
พูดถึงพ่อกับผ้าเช็ดหน้าแล้ว ฉันก็นึกได้ว่าเคยไปล้างมือที่ห้องน้ำสาธารณะในปั๊มน้ำมัน พอล้างเสร็จก็นึกได้ว่าไม่มีอะไรให้เช็ดมือเลย กำลังคิดว่าเช็ดที่เสื้อหรือกางเกงตัวเองมันนี่แหละ ก่อนที่พ่อจะเห็นลูกสาวกลายร่างเป็นลิงก็เลยรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมายื่นส่งให้ ฉันแอบคิดว่าพ่อน่าจะมีความเป็น “สุภาพสตรี” มากกว่าฉันเสียอีก แต่ก็จำได้ว่าตอนนั้นรู้สึกถึงความอบอุ่น รวมทั้งรู้สึกว่าพ่อแมนมากที่พกผ้าเช็ดหน้าแม้จะเป็นวันพักผ่อนสบาย ๆ
แม้ฉันจะลืมเรื่องผ้าเช็ดหน้าในฐานะสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไปเสียสนิท แต่ก็พกทิชชูติดตัวเสมอ วันหนึ่งไปนั่งล่องเรือแจวอยู่ในเกียวโต คลื่นสาดเข้าเรือ เห็นผู้หญิงญี่ปุ่นคนหนึ่งเธอตัวเปียก ฉันรีบหยิบทิชชูออกมาส่งให้ เธอมองด้วยสายตาประหลาดและปฏิเสธ สามีฉันก็ทำหน้าประหลาดเหมือนกัน บอกว่าใครเขาจะใช้ทิชชูในเวลาอย่างนี้ มาคิดดูก็จริง เพราะว่าถ้าใช้ทิชชูเช็ดก็ต้องมาหาที่ทิ้งกันให้วุ่นวายอีก แต่สำหรับตัวฉันที่ชินกับการใช้ทิชชูจะรู้สึกว่าก็ใช้ทิชชูซับไปก่อนดีกว่าปล่อยให้เปียกเพราะไหน ๆ ก็ไม่มีผ้าเช็ดหน้า ส่วนผู้หญิงญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอ เธอก็รับมาเช็ด แต่ฉันกลับรู้สึกแปลกกับการส่งผ้าเช็ดหน้าซึ่งเป็นของใช้ส่วนตัวให้คนไม่รู้จักใช้ เพราะรู้สึกคล้ายกับการดื่มน้ำแก้วเดียวกับคนแปลกหน้า ถ้าเป็นครอบครัวเดียวกันหรือเพื่อนกันก็อาจจะว่าไปอย่าง
ประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ผ้าเช็ดหน้ากันในชีวิตประจำวันท่าทางจะมีไม่ค่อยมากอย่างญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นบางคนเล่าว่าเคยอยู่กับเพื่อนยุโรป แล้วพอตัวเองหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาใช้ เพื่อนยุโรปก็มองอย่างเป็นของแปลก บอกว่าไม่เคยเห็นคนใช้ผ้าเช็ดหน้ามาก่อนเลยในชีวิต ฉันยังเคยได้ยินเขาว่ากันว่าถ้าจะดูว่าคนไหนคนจีน คนไหนคนญี่ปุ่นก็สามารถดูได้จากผ้าเช็ดหน้า ถ้าคนไหนหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองขึ้นมาใช้ล่ะก็ค่อนข้างจะแน่ใจได้ว่าเป็นคนญี่ปุ่น
เรื่องผ้าเช็ดหน้าที่คุยกับเพื่อนผู้ชายในตอนแรกยังไม่จบ เขาบอกว่า “มันมีเพลงเกี่ยวกับผ้าเช็ดหน้าด้วยนะ เนื้อหาทำนองว่าช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าที่ฉันทำตกให้หน่อย” ฉันขมวดคิ้ว “ไม่เห็นรู้จักเลย” เพื่อนแย้ง “อะไรกัน เพลงดังมากสมัยวัยรุ่น” ฉันบอก “จำได้แต่โฆษณาที่มีสาวทำผ้าเช็ดหน้าตกแล้วมีหนุ่มเก็บให้ น่าจะเอากลับมาทำอีกนะ เผื่อคนจะหันมาใช้ผ้าเช็ดหน้ากันอีก สมัยนี้คนนิยมของใช้ทีเดียวแล้วทิ้งอย่างทิชชู เสียดายทรัพยากร ขยะก็เพิ่มด้วย”
เห็นประโยชน์ของผ้าเช็ดหน้ามากมายแล้วก็คิดขึ้นมาว่า แม้ตัวเองจะหมดสิทธิ์ทำผ้าเช็ดหน้าตกแล้วแต่ก็อยากจะหันกลับมาใช้ผ้าเช็ดหน้าอีกครั้ง ใครจะไปรู้ว่าการใช้ผ้าเช็ดหน้าแทนการใช้ทิชชูอาจไม่ได้เป็นแค่จุดเริ่มต้นของความรัก มิตรภาพ และความอบอุ่นเท่านั้น แต่อาจรวมไปถึงการลดขยะ ลดการตัดไม้ทำลายป่า ลดโลกร้อน และสร้างโลกให้น่าอยู่ขึ้นได้มากกว่าที่เราคิดก็ได้
คราวหน้าฉันจะมาคุยเรื่องของใช้ประจำวันที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้แล้วทิ้ง และวัฒนธรรมรักสะอาดในแบบฉบับของญี่ปุ่นค่ะ แล้วพบกันนะคะ.
"ซาระซัง" สาวไทยที่ถูกทักผิดว่าเป็นสาวญี่ปุ่นอยู่เป็นประจำ เรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ชั้นประถม และได้พบรักกับหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัย เป็น “สะใภ้ญี่ปุ่น” เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโตเกียวนานกว่า 5 ปี ปัจจุบันติดตามสามีไปทำงาน ณ สหรัฐอเมริกา ติดตามคอลัมน์ “เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น” ที่ MGR Online ทุกวันอาทิตย์.